GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

แนวโน้มทองคำขาขึ้นระยะกลางไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีความเสี่ยงย่อเล็กน้อย

262

- Advertisement -

ที่มา : Oanda.com

  • การขึ้นอย่างรวดเร็วของช่วงเช้าตลาดเอเชียวันนี้สู่ระดับสูงสุดตลอดกาล เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องไม่มากนัก แทนที่จะเป็นเหตุผลทางด้านความเสี่ยงจากสงครามทางการเมืองระหว่างอิสราเอลและฮามาส
  • บทบาทการป้องกันความเสี่ยงพอร์ตโฟลิโอของทองคำอาจได้รับแรงผลักดันเนื่องจากความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกกลับมาอีกครั้ง
  • ช่วงแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่อาจทำให้เกิดการย่อตัวเล็กน้อย โดยมี US$2,152 เป็นแนวต้านสำคัญระยะสั้น และแนวรับที่ US$2,032/2,018

การเคลื่อนไหวของราคา spot gold ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลับมาทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลในปัจจุบันที่ US$2,075 (เมื่อเดือนสิงหาคม 2020) ในวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2023

ในช่วงเช้าของวันนี้ (4 ธันวาคม) ของภูมิภาคเอเชียก่อนเวลาเปิดการซื้อขายในโตเกียว spot gold พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ระหว่างวันที่ประมาณ 2,148 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนที่ร่วงลงมาที่ 2,083 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเวลาอันรวดเร็ว

แม้ว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จะสูงขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลางหลังจากที่อิสราเอลกลับมาปฏิบัติการรุกต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ก็ไม่ได้มีผลกับราคาทองคำและราคาน้ำมันในปัจจุบันมากนัก ซึ่งน้ำมันดิบ WTI ยังคงอ่อนตัวอยู่หลัง OPEC+ มีการประชุมและมีการปรับลดลงในวันนี้ -1.10%

ดังนั้น การขึ้นอย่างรวดเร็วระหว่างวันของวันนี้ ซึ่งกินเวลาประมาณสามสิบนาที สู่ระดับสูงสุดตลอดกาล ซึ่งเกิดในช่วงที่สภาพคล่องเบาบางในช่วงเช้าของต้นสัปดาห์ แทนที่จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาพื้นฐาน

สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกที่อาจเกิดขึ้นกำลังสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง

รูปที่ 1: อัตราผลตอบแทนจริงของกระทรวงการคลังสหรัฐอายุ 10 ปี แนวโน้มระยะกลางพร้อมอัตราเงินเฟ้อคุ้มทุน ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2023 (ที่มา: TradingView)

รูปที่ 2: S&P 500 – อัตราส่วน Spot Gold ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2023 (ที่มา: TradingView)

คำถามสำคัญต่อไป คือ แนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางในปัจจุบันของ spot gold จะยั่งยืนหรือไม่ หลังจากการขึ้น +18% จากระดับต่ำสุดในวันที่ 6 ตุลาคม 2023 และการขึ้นทดสอบแนวต้านใหญ่ครั้งที่สาม ที่ระดับสูงสุด 2,075 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตลาดกาลเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2020

ด้วยวิธีการวิเคราะห์ระหว่างตลาด (ดูรูปที่ 1 และ 2) ช่วงแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่เห็นใน spot gold เกิดขึ้นใกล้เคียงกันอย่างใกล้ชิด กับความอ่อนตัวล่าสุดของอัตราผลตอบแทนจริงของกระทรวงการคลังสหรัฐอายุ 10 ปี เนื่องจากลดลง 47 จุด จาก 2.47% เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2566

นอกจากนี้ อัตราคุ้มทุน 10 ปี ของสหรัฐฯ มองว่ามีความเสี่ยงที่จะมีการพังทลายลงต่ำกว่า 2.10% ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ยังคงมีโอกาสปรับลดอีก ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำอีกด้วย

- Advertisement -

ประการที่สอง แผนกราฟอัตราส่วนรายเดือนระยะยาวของ US S&P 500 เทียบกับ spot gold ยังคงแสดงให้เห็นว่า S&P 500 มีประสิทธิภาพต่ำกว่า spot gold อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังคงต่ำกว่าแนวรับสำคัญในอดีต ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2011 โดยมีค่าโมเมนตัมขาลงที่อ่านได้ในเดือนนี้ ตัวบ่งชี้ RSI ของ S&P 500 – อัตราส่วนทองคำสปอต; สัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ที่ใกล้จะเกิดขึ้น

ดังนั้น การวิเคราะห์ระหว่างตลาดทั้งสองนี้จึงชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ซึ่งในทางกลับกัน อาจทำให้ช่วงแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางในปัจจุบันของ spot gold ยังคงเหมือนเดิม ผ่านบทบาทการป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ

การปรับตัวขึ้นระยะสั้นมากเกินไป (Overbought) ใน spot gold

รูปที่ 3: แนวโน้มระยะกลางของ spot gold (XAU/USD) ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2023 (ที่มา: TradingView)

รูปที่ 4: spot gold (XAU/USD) แนวโน้มระยะสั้นเล็กน้อย ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2023 (ที่มา: TradingView)

ในมุมมองของการวิเคราะห์ทางเทคนิค การเคลื่อนไหวของราคาที่มีการซื้อขายสภาพคล่องสูง จะไม่เคลื่อนไหวในแนวตั้ง ทั้งขึ้นหรือลง แต่จะผันผวนตามแนวโน้มของการซื้อขายในตลาด

การขึ้นอย่างรวดเร็วในวันนี้ ทำให้ spot gold (XAU/USD) ไปถึงระดับซื้อมากเกินไป (Overbought) อย่างมาก โดยที่โมเมนตัม RSI รายวันในปัจจุบันอยู่ที่ 76.70 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่แนวโน้มขาขึ้นระยะกลางในปัจจุบันซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ 6 ตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา

ในกราฟระยะสั้นรายชั่วโมง การเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้ทะลุแนวต้านด้านบน ซึ่งมีแนวต้านในระยะสั้นถัดไปที่ระดับ US$2,126

นอกจากนี้ ตัวบ่งชี้โมเมนตัม RSI รายชั่วโมง เพิ่งออกจากโซนซื้อมากเกินไป (overbought) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของสถานการณ์ที่มีการถอยกลับหรือย่อตัวลงเล็กน้อย ภายในช่วงแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางที่กำลังดำเนินอยู่

โดยราคาทองคำมีแนวต้านสำคัญระยะสั้นที่ 2,152 ดอลลาร์สหรัฐฯ และหากทะลุแนวรับระยะสั้นที่ต่ำกว่า 2,067 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีโอกาสกลับลงไปในโซนแนวรับถัดไปที่ 2,032 ดอลลาร์สหรัฐฯ/2,018 ตามลำดับ

ในทางกลับกัน หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านเหนือ US$2,152 ได้ มีโอกาสที่ราคาทองคำจะให้ไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ US$2,200/2,210

ที่มา : Oanda.com

- Advertisement -

Comments
Loading...