GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $23 รับบอนด์ยีลด์ร่วง-คาดเฟดยุติขึ้นดอกเบี้ย

384

- Advertisement -

ข่าวทอง 17/11/23

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) โดยตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 23 ดอลลาร์ หรือ 1.17% ปิดที่ 1,987.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 39.50 เซนต์ หรือ 1.68% ปิดที่ 23.933 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 902.80 ดอลลาร์/ออนซ์

- Advertisement -

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.30 ดอลลาร์ หรือ 0.90% ปิดที่ 1,049.60 ดอลลาร์/ออนซ์

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.04% แตะที่ระดับ 104.3490 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 4.473% เมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด และล่าสุดสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.2566, ม.ค.2567 และมี.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. 2567

ที่มา : RYT9.com

- Advertisement -

Comments
Loading...