GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 28 มิ.ย.65 by YLG

723

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เก็งกำไรระยะสั้นฝั่งซื้อโดยมีแนวรับบริเวณ 1,818-1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,839-1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือสถานะซื้อต่อเพื่อรอทำกำไรที่แนวต้าน1,865 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,812 1,800 1,786  แนวต้าน : 1,848 1,865 1,888

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 4.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นในระหว่างการซื้อขายของตลาดเอเชียและช่วงต้นของตลาดยุโรป โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ากลุ่มประเทศ G7 เตรียมสั่งห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย และจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในอังคารนี้ ซึ่งอาจจะกระทบต่ออุปทานทองคำกายภาพ เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก คิดเป็น 9.5% ของอุปทานทั่วโลก

ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,840.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำปรับตัวลดลงในเวลาต่อมาท่ามกลางแรงขายทำกำไร แต่ปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำเมื่อวานนี้ ได้แก่

(1.) การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมา “ดีเกินคาด” ทั้ง ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือนสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะลดลง 3.7% ในเดือนพ.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. และ

(2.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.22% หลังจากการดีมานด์ในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีและ 5 ปีวานนี้เป็นไปอย่างซบเซา จนเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,820.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง -4.64 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ของสหรัฐ รวมไปถึงถ้อยแถลงของประธานเฟดริชมอนด์ และประธานเฟดซานฟรานซิสโก

จจัยทางเทคนิค

หากวันนี้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ หรือ ราคายืนเหนือแนวรับ 1,818-1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจเกิดการฟื้นตัวขึ้นในระยะสั้น หรือ จะทำให้มีแรงซื้อเก็งกำไรส่งผลให้ราคาดีดกลับช่วงสั้นๆ เบื้องต้นอาจต้องระวังแรงขายกลับลงมาอีกครั้งหากราคายังไม่มีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น โดยประเมินแนวต้านที่ 1,839-1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์

- Advertisement -

กลยุทธ์การลงทุน

รอเปิดสถานะซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้น โดยใช้บริเวณ 1,818-1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุด 1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ตัดขาดทุนและชะลอการเข้าซื้อออกไป ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะซื้อทำกำไรหากไม่ผ่านแนวต้าน 1,839-1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านชะลอการทำกำไรไปที่โซนแนวต้าน 1,865 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) EU เร่งรับมือวิกฤตพลังงาน หลังรัสเซียจ่อตัดก๊าซทั้งหมด นางคาดรี ซิมสัน หัวหน้าคณะกรรมาธิการพลังงานของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า EU ใกล้ที่จะเผชิญภาวะวิกฤตพลังงานจากการที่รัสเซียตัดการส่งก๊าซธรรมชาติมายัง EU “นับตั้งแต่ที่รัสเซียเริ่มโจมตียูเครน เราก็รู้ว่าจะเกิดภาวะวิกฤตพลังงานเกิดขึ้น และขณะนี้ความเป็นไปได้ก็เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราจะเร่งดำเนินมาตรการรับมือ” นางซิมสันกล่าว นางซิมสันยังเรียกร้องให้สมาชิก EU ปรับปรุงแผนฉุกเฉินในการรับมือวิกฤตพลังงาน และปรับเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานประเภทอื่นเพื่อรักษาพลังงานจากก๊าซธรรมชาติ

• (+) เฟดดัลลัสเผยดัชนีภาคการผลิตหดตัวลงในเดือนมิ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมในภาคธุรกิจโดยรวมในรัฐเท็กซัสปรับตัวลงสู่ระดับ -17.7 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ -7.3 ในเดือนพ.ค.

• (+) ดอลลาร์อ่อนค่า นลท.กังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.24% แตะที่ระดับ 103.9390 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9563 ฟรังก์ จากระดับ 0.9589 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2879 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2919 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 135.44 เยน จากระดับ 135.23 เยน ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0586 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0551 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2277 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2269 ดอลลาร์

• (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 62.42 จุด นลท.ขายหุ้นเติบโต-จับตาจีดีพีสหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากแรงขายหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ซึ่งเป็นหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,438.26 จุด ลดลง 62.42 จุด หรือ -0.20%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,900.11 จุด ลดลง 11.63 จุด หรือ -0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,524.55 จุด ลดลง 83.07 จุด หรือ -0.72%

• (-) บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวขึ้น นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ณ เวลา 01.07 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.202% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.306%

• (-) สหรัฐ-อิหร่านเตรียมเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ที่กรุงโดฮาพรุ่งนี้ สำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่านเปิดเผยว่า สหรัฐและอิหร่านจะจัดการเจรจาทางอ้อมที่กรุงโดฮา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของกาตาร์ในวันพรุ่งนี้ “นายอาลี บาเกอรี คานี หัวหน้าฝ่ายเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านจะเดินทางถึงกรุงโดฮาในวันพรุ่งนี้เพื่อทำการเจรจา” นายนาเซอร์ คานานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าว

• (-) รัสเซียเมิน G7 เตรียมแบนนำเข้าทองคำ นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ไม่ได้แสดงความวิตกต่อรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศ G7 เตรียมสั่งห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย ต่อข้อถามที่ว่า รัสเซียจะหันเหความสนใจไปยังตลาดเอเชียซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีผู้บริโภคจำนวนมากหรือไม่ นายเพสคอฟกล่าวว่า “ตลาดทองคำเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งหากตลาดหนึ่งไม่น่าดึงดูด เราก็ยังสามารถหันเหความสนใจไปยังตลาดอื่นที่เหมาะสมกว่าได้” ทั้งนี้ กลุ่มประเทศ G7 เตรียมสั่งห้ามการนำเข้าทองคำจากรัสเซีย เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน โดยจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุม G7 ที่เยอรมนี

• (-) สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 6 เดือน ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะลดลง 3.7% ในเดือนพ.ค.

• (-) สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพ.ค.ได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อรถยนต์ ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.

- Advertisement -

Comments
Loading...