บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 24 มี.ค.65 By HGF

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ จากความวิตกกังวลรัสเซีย–ยูเครน

คืนนี้สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ.

แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย

• ราคาทองคำ Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง โดยนักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้น จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครน จากการเจรจาระหว่างสองประเทศที่ไม่มีแนวโน้มคืบหน้า โดยยูเครนได้ออกมายอมรับการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียกำลังเผชิญความยากลำบาก ขณะที่รัสเซียกล่าวหายูเครนได้เปลี่ยนแปลงจุดยืนในการเจรจา ซึ่งสหรัฐกำลังพยายามทำให้รัสเซียและยูเครนอยู่ในสถานะสงครามให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซื้อทองคำสุทธิ 4.06 ตันจากเมื่อวาน
• คืนนี้สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.5% จากที่เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนม.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะลดลง 4,000 รายสู่ระดับ 210,000 ราย และดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมี.ค. ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 56.6 และ 56.0 ตามลำดับ
• แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,930 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,920 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,955 ดอลลาร์ และ 1,970 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

ราคาทองแท่ง 96.5%

โกลด์ฟิวเจอร์ส

สำหรับการเข้าซื้อราคาทอง Spot รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา spot ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,930 ดอลลาร์ (GF 31,040 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,920 ดอลลาร์ (GF 30,810 บาท)

- Advertisement -

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

สำหรับการเข้าซื้อราคา GOH22 รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา GOH22 ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,932 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,922 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ค่าเงินบาทเมื่อวานนี้อ่อนค่าต่อเนื่อง โดยค่าเงินบาทมากสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง จากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า ทั้งนี้แนวโน้มค่าเงินบาทระยะสั้นคาดอ่อนค่าได้ต่อ สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.65 มีแนวรับที่ 33.40 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์

News

สหรัฐ-อังกฤษบรรลุข้อตกลงยกเลิกภาษีนำเข้าเหล็ก,อะลูมิเนียม

          สหรัฐและอังกฤษบรรลุข้อตกลงด้านการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมแล้ว ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ยืดเยื้อมากกว่า 4 ปีจากยุคของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์    นางจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ และนางแคทเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) ระบุในแถลงการณ์ว่า ข้อตกลงใหม่นี้จะเปิดทางให้อังกฤษสามารถส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมปริมาณมหาศาลไปยังตลาดสหรัฐ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านภาษีตามกฎหมายมาตรา 232   นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังเปิดทางสู่การยกเลิกภาษีการเรียกเก็บภาษีสินค้าส่งออกของสหรัฐไปยังอังกฤษมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงสุรากลั่น สินค้าเกษตรต่าง ๆ และสินค้าอุปโภคบริโภค   ในยุคของอดีตปธน.ทรัมป์ รัฐบาลได้กำหนดอัตราภาษี 25% สำหรับการนำเข้าเหล็กจากอังกฤษ และเรียกเก็บภาษี 10% สำหรับการนำเข้าอะลูมิเนียมในปี 2561 ภายใต้กฎหมายมาตรา 232 ว่าด้วยการขยายการค้าปี 2505 ซึ่งเผชิญกับกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงทั้งในและต่างประเทศ   นางไรมอนโดกล่าวว่า ข้อตกลงการค้าดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐ ตลอดจนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากจะช่วยปกป้องการผลิต รวมถึงเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคจากการลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐ

สหรัฐอาจสั่งล็อกดาวน์อีก หากยอดติดโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้น

          หนังสือพิมพ์เดลีเมลรายงานโดยอ้างถึงการเปิดเผยของนายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำทำเนียบขาวที่ระบุว่า สหรัฐอาจเผชิญกับการล็อกดาวน์เพื่อคุมโรคโควิด-19 มากขึ้น หากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 แพร่ระบาด แม้ว่าประชาชนเริ่มที่จะคลายกังวลกับโรคโควิด-19 แล้วก็ตาม   นายแพทย์เฟาชีซึ่งเป็นผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) ด้วยนั้นเปิดเผยว่า การผ่อนคลายข้อจำกัด, การป้องกันที่ลดลงจากวัคซีน และการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ทั่วโลก อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในสหรัฐ   นายแพทย์เฟาชีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “สถานการณ์ของเรามักจะตามหลังอังกฤษประมาณ 2-3 สัปดาห์ ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าเราพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากที่เราเริ่มเปิดเศรษฐกิจและเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ระบาดเพิ่มขึ้น”   สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงที่เชื้อโอมิครอนระบาดสูงสุดนั้น สหรัฐพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์จำนวนมากกว่า 1 ล้านรายทุกวัน

“ไบเดน” เล็งเผยมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มในการประชุมผู้นำที่บรัสเซลล์

          ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ และผู้นำชาติพันธมิตรอื่น ๆ ที่จะร่วมการประชุมที่กรุงบรัสเซลล์ในวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) เตรียมประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมเพื่อตอบโต้การที่รัสเซียรุกรานยูเครน รวมถึงมาตรการอื่น ๆ ที่จะป้องกันไม่ให้รัสเซียหลีกเลี่ยงผลกระทบทางเศรษฐกิจ     สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้คาดว่าจะประกาศออกมาหลังจากการประชุมทางการทูตอย่างเข้มข้นตลอดทั้งวัน โดยปธน.ไบเดนมีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมฉุกเฉินขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต), การประชุมของกลุ่มประเทศ G7 และการประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการยุโรป (EC)     นอกจากนี้ยังคาดว่า ปธน.ไบเดนจะประกาศมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเพิ่มเติมให้กับยูเครน เพื่อให้การสนับสนุนทั้งชาวยูเครนที่ยังอยู่ในประเทศและที่ได้อพยพลี้ภัยเข้าสู่ประเทศยุโรปตะวันออกข้างเคียง    นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐเปิดเผว่า นอกจากมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่และการร่วมมือเพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรแล้ว ยังคาดว่า บรรดาผู้นำจะประกาศแผนยกระดับความมั่นคงด้านพลังงานในยุโรป และลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียด้วย