เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
- Advertisement -
โดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
คำแนะนำ
เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,925-1,919 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,950-1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ : 1,919 1,895 1,877 แนวต้าน : 1,958 1,974 1,991
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 24.26ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ได้แก่ (1.) ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน เนื่องจากการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไร้ความคืบหน้าชัดเจนล่าสุดนายมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน และเป็นผู้นำคณะเจรจาของยูเครน ออกมายอมรับว่าการเจรจาสันติภาพกับรัสเซียกำลังเผชิญความยากลำบากอย่างมาก ปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนกลับมาปิดรับความเสี่ยง (Risk off) พร้อมเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้างทั้งทองคำและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่แรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 22 พ.ค. 2019 ที่ 2.417% สู่ระดับ 2.2844% ซึ่งช่วยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยอีกทางหนึ่ง (2.) ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น หลังมีรายงานว่าบริษัทแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (Caspian Pipeline Consortium -CPC) ของคาซัคสถาน ระงับการส่งออกน้ำมันเนื่องจากประสบความเสียหายจากพายุ(3.) การเปิดเผยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐที่ออกมา “แย่เกินคาด” สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,914.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,948.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นในกรอบเนื่องจากถูดกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ท่ามกลางแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยและการคาดการณ์ว่าเฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย จึงเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกทองคำเอาไว้ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +4.06 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการจากมาร์กิต รวมถึงจับตาการประชุมผู้นำนาโตที่กรุงบรัสเซลส์
- Advertisement -
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถ break out ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,950-1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้กลับลงมาตั้งฐานราคาด้านล่างอีกครั้ง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือแนวรับ1,925-1,919 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน
เน้นการลงทุนระยะสั้นโดยซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,925-1,919 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,895ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสำหรับนักลงทุนที่ถือสถานะซื้ออยู่ แนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,950-1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป
ข่าวสารประกอบการลงทุน
- (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 448.96 จุด กังวลเงินเฟ้อหลังราคาน้ำมันพุ่งดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมผู้นำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่กรุงบรัสเซลส์เพื่อวางแผนกดดันรัสเซียให้ยุติการโจมตียูเครน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,358.50 จุด ลดลง 448.96 จุด หรือ -1.29%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,456.24 จุด ลดลง 55.37 จุด หรือ -1.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,922.60 จุด ลดลง 186.21 จุด หรือ -1.32%
- (+) สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ต่ำกว่าคาดในเดือนก.พ.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 2% สู่ระดับ 772,000 ยูนิตในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 810,000 ยูนิต เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 6.2% ในเดือนก.พ.
- (+) น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $5.66 วิตกคาซัคสถานระงับส่งออกน้ำมันสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% ในวันพุธ (23 มี.ค.) หลังมีรายงานว่าบริษัทแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (Caspian Pipeline Consortium -CPC) ของคาซัคสถาน ระงับการส่งออกน้ำมันเนื่องจากประสบความเสียหายจากพายุ
- (+) รัสเซียเตือนตลาดพลังงานโลกล่มสลาย หากนานาประเทศคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย เตือนว่า ตลาดพลังงานโลกอาจล่มสลาย หากประเทศต่างๆออกมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย “รัสเซียเป็นผู้จัดส่งพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีสัดส่วนในตลาดโลกราว 40% โดยตลาดน้ำมันและก๊าซของโลกจะล่มสลาย หากรัสเซียไม่สามารถส่งออกไฮโดรคาร์บอนเนื่องจากถูกคว่ำบาตร” นายโนวัคกล่าว
- (+) “ลาฟรอฟ” อ้างสหรัฐไม่ต้องการรัสเซีย-ยูเครนบรรลุข้อตกลงสันติภาพ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า สหรัฐไม่ต้องการเห็นความสำเร็จของการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยหวังว่ารัสเซียจะยังคงติดพันอยู่ในการทำสงครามกับยูเครนเป็นเวลายาวนาน “สหรัฐจะไม่ได้ประโยชน์หากการเจรจาสันติภาพจบลงอย่างรวดเร็ว เพราะพวกเขาต้องการส่งอาวุธเข้าไปในยูเครน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการเราติดพันอยู่ในภาวะสงครามให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” นายลาฟรอฟกล่าว
- (+) “ปูติน” เอาคืนประเทศ “ไม่เป็นมิตร”! ยันต้องจ่ายค่าซื้อก๊าซเป็นรูเบิลเท่านั้นประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า ประเทศที่อยู่ในรายชื่อ “ไม่เป็นมิตร” ของรัสเซีย จะต้องชำระค่าซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเป็นสกุลรูเบิลเท่านั้น “เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลสำหรับเราที่จะขายสินค้าของเราให้แก่สหรัฐและสหภาพยุโรป และรับการชำระค่าซื้อสินค้าเป็นสกุลดอลลาร์ ยูโร และสกุลเงินอื่น” ปธน.ปูตินกล่าว
- (+) โปแลนด์ประกาศขับนักการทูตรัสเซียครั้งใหญ่ เหตุทำงานให้หน่วยสืบราชการลับรัฐบาลโปแลนด์ประกาศขับนักการทูตรัสเซียจำนวน 45 รายออกนอกประเทศ โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้กำลังใช้สถานะนักการทูตในการรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับความมั่นคงและเสถียรภาพของโปแลนด์ ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำโปแลนด์ถูกเรียกตัวไปยังกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์เพื่อรับทราบคำสั่งดังกล่าวในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ดี เอกอัครราชทูตรัสเซียระบุว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
- (+) ยูเครนยอมรับการเจรจาสันติภาพรัสเซียกำลังเผชิญความยากลำบากนายมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน และเป็นผู้นำคณะเจรจาของยูเครน กล่าวว่า การเจรจาสันติภาพกับรัสเซียกำลังเผชิญความยากลำบากอย่างมาก “เรายังคงเจรจาผ่านระบบออนไลน์ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากฝ่ายยูเครนมีจุดยืนและหลักการที่ชัดเจน” นายโปโดลยักกล่าว
- (-) ดอลล์แข็งค่า ขานรับปธ.เฟดส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (23 มี.ค.) ขานรับนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงซื้อในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ขณะที่การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงไม่มีความคืบหน้า ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ 98.6190 เมื่อคืนนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 121.12 เยน จากระดับ 120.74 เยน แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9307 ฟรังก์ จากระดับ 0.9328 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2561 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2585 ดอลลาร์แคนาดายูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1013 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1025 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3208 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3254 ดอลลาร์