บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 15 ก.พ.65 by YLG

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

ทำกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา เปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,860-1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ให้ทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,878-1,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมคำนึงถึงความเสี่ยงเนื่องจากราคาปรับขึ้นมาแล้วในระดับหนึ่ง

แนวรับ : 1,860 1,848 1,834  แนวต้าน : 1,878 1,895 1,916

ปัจจัยพื้นฐาน

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 12.66ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้อนุมัติในหลักการต่อแนวทางการตอบสนองต่อคำตอบจากสหรัฐและชาติตะวันตกเกี่ยวกับข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียก่อนหน้านี้ ของนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ที่ระบุว่ารัสเซียควรดำเนินการเจรจากับสหรัฐและชาติตะวันตกต่อไปเกี่ยวกับข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซีย อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงเดินหน้าถือครองทองคำต่อไปเนื่องจากความไม่แน่นอนยังคงอยู่ หลังจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ย้ำชัดว่ายูเครนจะยังคงเดินหน้าเป้าหมายการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของNATO แม้จะมีแรงกดดันให้ยอมสละความต้องการดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามกับรัสเซียก็ตาม พร้อมเรียกร้องให้ชาวยูเครนชักธงขึ้นเสาและร้องเพลงชาติพร้อมกันในวันที่ 16 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่สื่อตะวันตกบางส่วนอ้างว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ปัจจัยดังกล่าวยังคงกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อทองคำจนส่งผลให้ราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,850 ดอลลาร์ได้ตลอดทั้งวัน และปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนครั้งใหม่ที่ 1,873.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถึงแม้ว่าทองคำจะเผชิญกับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.0259% ขานรับถ้อยแถลงของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ที่กล่าวว่า เฟดควรเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้นก็ตาม ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีEmpire State Index

ปัจจัยทางเทคนิค :

ราคาทองคำพยายามขึ้นไปทดสอบโซน 1,878 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดของเดือน พ.ย.) หากยืนได้ ทำให้ประเมินว่าในระยะสั้นราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป 1,898 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านแนวต้านแรกไม่ได้ราคาจะอ่อนตัวลงสะสมแรงซื้อประเมินแนวรับบริเวณ 1,860-1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

การเข้าซื้อยังคงเน้นการทำกำไรระยะสั้น เมื่อราคายืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,860-1,848ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,848ดอลลาร์ต่อออนซ์) ขณะที่การปิดสถานะซื้อทำกำไรอาจพิจารณาในโซน 1,878-1,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

• (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 171.89 จุด กังวลสถานการณ์ยูเครน-เฟดขึ้นดอกเบี้ย ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (14 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน โดยล่าสุดสหรัฐสั่งย้ายสถานทูตอเมริกันในกรุงเคียฟไปยังพื้นที่ฝั่งตะวันตกของยูเครนแล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ สนับสนุนให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,566.17 จุด ลดลง 171.89 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,401.67 จุด ลดลง 16.97 จุด หรือ -0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,790.92 จุด ลดลง 0.24 จุด หรือ -0.002% • (+) ยูเครนออกโรงแจง หลังสื่อเผยอาจไม่ร่วมนาโต หวังเลี่ยงสงครามรัสเซีย นายวาดิม ไพรสเตโก เอกอัครราชทูตยูเครนประจำอังกฤษ กล่าวชี้แจงหลังสำนักข่าวบีบีซีรายงานคำกล่าวก่อนหน้านี้ของเขาว่า ยูเครนอาจตัดสินใจไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามกับรัสเซีย “ผมขอชี้แจงว่าผมไม่ได้ต้องการสื่อความหมายเช่นนั้น โดยยูเครนพร้อมที่จะประนีประนอมในเรื่องอื่นๆ แต่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับนาโต ซึ่งรัฐธรรมนูญของเราได้บัญญัติเกี่ยวกับการยื่นขอเป็นสมาชิกนาโต” นายไพรสเตโกกล่าว “เราไม่ได้เป็นสมาชิกนาโตในขณะนี้ และเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม เราก็พร้อมที่จะประนีประนอมในหลายๆเรื่อง และนี่เป็นสิ่งที่เรากำลังเจรจากับทางรัสเซีย” เขากล่าว • (+) อังกฤษเตือนรัสเซียอาจโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ นางลิซ ทรูซ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวเตือนว่า รัสเซียอาจโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ “ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่ารัสเซียสามารถโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ และเราขอเรียกร้องให้รัสเซียคลายความตึงเครียด โดยเราพุ่งความสนใจไปที่ความปลอดภัยของชาวอังกฤษในยูเครน” นางทรูซกล่าว • (-) “ปูติน” เห็นพ้องรมว.ตปท.รัสเซีย ใช้การทูตเจรจาคลี่คลายวิกฤตยูเครน ทำเนียบเครมลินเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้อนุมัติในหลักการต่อแนวทางการตอบสนองของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียต่อคำตอบจากสหรัฐและชาติตะวันตกเกี่ยวกับข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียก่อนหน้านี้ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวต่อปธน.ปูตินในวันนี้ว่า รัสเซียควรดำเนินการเจรจากับสหรัฐและชาติตะวันตกต่อไปเกี่ยวกับข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซีย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน • (-) รมว.ตปท.รัสเซียเชื่อยังคงมีโอกาสบรรลุข้อตกลงกับชาติตะวันตก นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในวันนี้ว่า รัสเซียยังคงมีโอกาสที่จะบรรลุข้อตกลงด้านความมั่นคงกับชาติตะวันตก “ในฐานะที่ผมเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ผมขอบอกว่าเรายังคงมีโอกาสที่จะบรรลุข้อตกลง” นายลาฟรอฟกล่าว • (-) ประธานเฟดเซนต์หลุยส์หนุนเร่งขึ้นดอกเบี้ย เหตุเงินเฟ้อดีดตัว นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดควรเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้น “ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเร็วกว่าที่คาดไว้ เพราะอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นมากกว่าคาด” นายบูลลาร์ดกล่าวต่อสำนักข่าว CNBC “ความน่าเชื่อถือของเรากำลังตกอยู่ในความเสี่ยง โดยเราต้องดำเนินการหลังมีข้อมูลเข้ามา แต่เราต้องทำอย่างระมัดระวังโดยไม่ให้กระทบต่อตลาด” เขากล่าว • (-) นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย 7 ครั้งปีนี้ หลังเงินเฟ้อพุ่งสูงสุด 40 ปี นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมทั้งเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 55% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 7 ครั้งที่เหลือในปีนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 88% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. รวมทั้งให้น้ำหนัก 95% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1.00% ภายในเดือนมิ.ย. • (-) ดอลลาร์แข็งค่า รับคาดการณ์เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (14 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.30% แตะที่ 96.3720 เมื่อคืนนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 115.62 เยน จากระดับ 115.27 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9256 ฟรังก์ จากระดับ 0.9250 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2733 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2739 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1299 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1340 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3524 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3551 ดอลลาร์