บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 14 ก.ค.65 By HGF

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำปิดบวก จากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อย

คืนนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)

แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways

• ราคาทอง Spot เมื่อวานที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงในระดับต่ำสุดบริเวณ 1,707.25 ดอลลาร์ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อย รวมถึงนักลงทุนเข้าซื้อทองคำหลังตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงนั้นทำให้นักลงทุนมีความวิตกกังวลมากขึ้นว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับรุนแรงขึ้น ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำสุทธิ 1.74 ตันจากเมื่อวาน
• คืนนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% จาก 0.8% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 10.7% จาก 10.8% เมื่อเทียบรายปี และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าทรงตัวที่ 235,000 ราย
• แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,720 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,700 ดอลลาร์  ขณะที่มีแนวต้าน 1,750 ดอลลาร์ และ 1,760 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

ราคาทองแท่ง 96.5%

โกลด์ฟิวเจอร์ส

สามารถเปิดสถานะขายเมื่อราคาปรับขึ้นมาบริเวณ 1,750 ดอลลาร์ (GF 29,860 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760 ดอลลาร์ (GF 29,940 บาท)

- Advertisement -

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

สามารถเปิดสถานะขายเมื่อราคา GOU22 ปรับขึ้นมาบริเวณที่  1,752 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,762ดอลลาร์

ค่าเงิน

ค่าเงินบาทเมื่อวานที่ผ่านมาอ่อนค่ามากสุดที่ 36.21 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าในระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ทั้งนี้แนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่ายังคงมีทิศทางอ่อนค่า สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.65 มีแนวรับที่ 35.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 36.40 บาท/ดอลลาร์

News

“เยลเลน” ยังเชื่อมั่นเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งมาก แม้เงินเฟ้อพุ่งสูง

          เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ในระหว่างการพบปะกับนายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่นนั้น นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐจะเน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ แม้เผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูง และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 1/2565 ลดลง 1.6% เมื่อเทียบรายปีก็ตาม   เจ้าหน้าที่ดังกล่าวระบุว่า นางเยลเลนจะอธิบายถึงขั้นตอนต่าง ๆ ที่สหรัฐจะดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ขณะที่จะยืนยันว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่งอย่างมาก เนื่องจากกำลังแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่งและอัตราการว่างงานใกล้แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์     สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางเยลเลนจะหารือกับนายซูซูกิเกี่ยวกับความท้าทายที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญ รวมถึงสงครามยูเครน-รัสเซีย และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศกำลังพัฒนาและตลาดเกิดใหม่บางแห่ง รวมถึงเศรษฐกิจของยุโรป

ขุนคลังสหรัฐ-ญี่ปุ่นหารือคว่ำบาตรรัสเซีย-ถกแก้ปัญหาค่าเงินเยนทรุด

          นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ จะร่วมประชุมกับนายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นในวันที่ 12-13 ก.ค. เพื่อหารือถึงการออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครน   กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า การประชุมในครั้งนี้ นางเยลเลนจะหารือถึงการทำงานร่วมกับญี่ปุ่นและชาติพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะชะลอราคาผู้บริโภคในสหรัฐ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี  นอกจากนี้ นางเยลเลนจะหารือกับทางการญี่ปุนเกี่ยวกับการตั้งเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย โดยคาดว่าจะมีการจำกัดราคาน้ำมันในช่วง 40-60 ดอลลาร์/บาร์เรล เพื่อไม่ให้รัสเซียนำรายได้จากการขายน้ำมันมาสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน   ด้านเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นเผยว่า วาระการประชุมยังครอบคลุมถึงค่าเงินสกุลต่าง ๆ หลังจากที่ค่าเงินเยนทรุดแตะ 137 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ท่ามกลางความกังวลเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางเยลเลนได้เดินทางไปเคารพศพของนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเป็นการส่วนตัวเมื่อเย็นวานนี้ พร้อมทั้งยกย่องว่านายอาเบะได้สร้างความมั่งคั่งให้กับญี่ปุ่นและส่งเสริมสถานะของสตรี  ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนญี่ปุ่น นางเยลเลนจะเดินทางไปยังเกาะบาหลีของอินโดนีเซียเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่ม G20 ในวันที่ 15-16 ก.ค.

ไบเดนเยือนตะวันออกกลาง หวังชวนโอเปกเพิ่มการผลิตแก้ปัญหาน้ำมันแพง

          นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาวของสหรัฐเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะขอให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง ในการพบปะกับผู้นำกลุ่มประเทศความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับที่ซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์นี้ โดยสหรัฐเชื่อว่ากลุ่มโอเปกมีศักยภาพในการเพิ่มการผลิตน้ำมัน แม้ซาอุฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เคยออกตัวไว้ว่ากลุ่มโอเปกแทบจะไม่สามารถเพิ่มการผลิตน้ำมันได้   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ไบเดนมีกำหนดที่จะเดินทางออกจากสหรัฐตามเวลาสหรัฐ ไปยังตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นการเยือนตะวันออกกลางครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดี โดยจะแวะเยือนอิสราเอล เวสต์แบงก์ และซาอุดีอาระเบีย    การเดินทางเยือนตะวันออกกลางครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่ปธน.ไบเดนมีคะแนนนิยมลดลงอย่างมาก หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสูงจนกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะเดียวกันเขายังถูกกลุ่มสิทธิมนุษยชนวิจารณ์อย่างหนัก จากการที่เขามีกำหนดการเข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ผู้ปกครองซาอุดีอาระเบียโดยพฤตินัย ซึ่งฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐมองว่าเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังกรณีการฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวของวอชิงตันโพสต์