GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 13 มิ.ย.65 By HGF

614

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ดัชนี CPI พุ่งสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 40 ปี หนุนทองคำ

สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)

แนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นคาดปรับตัวขึ้น

  • ราคาทอง Spot ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวทรงตัว แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปลายสัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรง หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 40 ปี ส่งผลต่อความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ทำให้กระตุ้นแรงเทขายอย่างหนักในตลาดหุ้นสหรัฐ และหนุนการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงนั้นอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซื้อทองคำสุทธิ 2.83 ตันจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายเดือน จากเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบรายปี จากเพิ่มขึ้น 11.0% เมื่อเทียบรายปี   นอกจากนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ คาดว่าเฟดจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% มาสู่ระดับ 1.25%-1.50%
  • แนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นคาดปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามให้ระวังแรงเทขายทำกำไร โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,850 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,840 ดอลลาร์  ขณะที่มีแนวต้าน 1,880 ดอลลาร์ และ 1,890 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,870.90+23.51,850/1,8401,880/1,890

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
30,700+40030,600/30,50030,850/31,000

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
30,920+48030,540/30,42030,980/31,070

สามารถเข้าซื้อบริเวณ 1,850 ดอลลาร์ (GF 30,540 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,840 ดอลลาร์ (GF 30,420บาท)

- Advertisement -

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,874.0+28.301,852/1,8421,882/1,892

สามารถเข้าซื้อราคา GOM22 ที่  1,852 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,842 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาค เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง จากปัจจัยหนุนการคาดการณ์ว่าเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ทั้งนี้แนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่ายังมีทิศทางอ่อนค่า สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.65 มีแนวรับที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 35 บาท/ดอลลาร์

News

ปูตินย้ำรัสเซียจะไม่หันไปใช้เศรษฐกิจระบบปิดแม้ถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร

          ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียเปิดเผยว่า เศรษฐกิจของรัสเซียจะไม่ตกอยู่ในสภาพเดียวกับยุคม่านเหล็ก ( Iron Curtain) ในช่วงสงครามเย็น แม้รัสเซียจะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกก็ตาม โดยรัสเซียจะไม่ตัดขาดตัวเองจากสังคมโลกเหมือนอย่างสมัยสหภาพภาพโซเวียต    ชาติตะวันตกได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพื่อตอบโต้รัสเซียที่ใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจรัสเซียหดตัวรุนแรงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2534 ที่สหภาพโซเวียตล่มสลายลง    ทั้งนี้ ปธน.ปูตินตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับข้อตกลงกับจีนและอินเดียขณะที่เศรษฐกิจของรัสเซียถูกปิดกั้น ก่อนที่การประชุมเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อีโคโนมิก ฟอรัม (Petersburg Economic Forum) จะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า  “เศรษฐกิจของรัสเซียจะยังคงเปิดต่อไป เราจะไม่มีระบบเศรษฐกิจแบบปิด เราไม่เคยปิดและจะไม่ปิดเศรษฐกิจ” ปธน.ปูตินกล่าว “เราไม่มีระบบเศรษฐกิจแบบปิดเหมือนอย่างในยุคสหภาพโซเวียตซึ่งเราตัดขาดออกจากโลก สร้างสิ่งที่เรียกว่า ม่านเหล็ก เราสร้างมันขึ้นมากับมือ แต่จะไม่ทำผิดซ้ำอีก เศรษฐกิจของเราจะเป็นแบบเปิด”  อย่างไรก็ดี ในปี 2548 ปธน.ปูตินในขณะนั้นระบุว่า การล่มสลายของสหภาพโซเวียตเป็นหายนะทางภูมิศาสตร์ครั้งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 20 เพราะทำให้ชาวรัสเซียหลายสิบล้านคนยากจนลง และรัสเซียเองต้องล่มสลาย   การที่บริษัทและนักลงทุนรายใหญ่ของสหรัฐและยุโรปพากันออกจากรัสเซีย ทำให้รัฐบาลรัสเซียเบนเข็มออกจากชาติตะวันตก และหันไปพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศและผูกมิตรกับจีน อินเดีย และกลุ่มมหาอำนาจในตะวันออกกลาง   สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจรัสเซียจะหดตัวลง 15% ในปีนี้ และหดตัวลง 3% ในปีหน้า เนื่องจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรที่ชาติตะวันตกบังคับใช้กับรัสเซีย รวมทั้งการที่บริษัทต่างชาติพากันถอนธุรกิจออกจากรัสเซีย, ปัญหาบุคลากรคุณภาพแห่ออกนอกประเทศ และการส่งออกทรุดตัวลง

เยลเลน” มั่นใจศก.สหรัฐไม่ถดถอย ยืนยันมาตรการกระตุ้นศก.ไม่ก่อเงินเฟ้อ

          นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญกับภาวะถดถอย แม้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงก็ตาม    นางเยลเลนกล่าว “ดิฉันไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนในภาคเอกชนที่แข็งแกร่งมาก ดิฉันทราบดีว่าประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย   ทั้งนี้ นางเยลเลนได้กล่าวปกป้องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังจากที่สมาชิกพรรครีพับลิกันบางรายโจมตีว่าเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปีมีสาเหตุจากมาตรการ American Rescue Plan (ARP) วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดน  “เราเห็นเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้วเกือบทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งพวกเขาก็มีการใช้นโยบายการคลังที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในสหรัฐมีสาเหตุจาก ARP และการแก้ไขภาวะเงินเฟ้อยังคงเป็นเป้าหมายหลักของปธน.ไบเดน” นางเยลเลนกล่าว

ไบเดน” จวกบริษัทน้ำมัน-เดินเรือเป็นตัวการทำเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดรอบ 40 ปี

          ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลของเขากำลังดำเนินการทุกทางที่สามารถทำได้เพื่อรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อ โดยเขากล่าวโทษบริษัทน้ำมันและบริษัทเดินเรือว่าเป็นตัวการที่ทำให้ราคาสินค้าพุ่งขึ้น หลังจากการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี   ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่ไบเดนกล่าวว่า บริษัทน้ำมันจงใจไม่เพิ่มการผลิตเพื่อรักษาราคาน้ำมันไว้ที่ระดับสูง    ปธน.ไบเดนระบุว่า “บริษัทน้ำมันมีใบอนุญาตขุดเจาะน้ำมัน แต่พวกเขาไม่ทำ และที่พวกเขาไม่ทำ ก็เพราะพวกเขาต้องการหาเงินจากการไม่ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น”    ต่อข้อถามเกี่ยวกับผลกำไรของบริษัทเอ็กซอนนั้น ปธน.ไบเดนกล่าวว่า “เอ็กซอนทำเงินได้มากกว่าพระเจ้าในปีนี้”

- Advertisement -

Comments
Loading...