เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
- Advertisement -
ราคาทอง 21/12/66
โดย : บริษัท ออสสิริส จำกัด
ราคาทองคำในตลาดโลกปิดลบเล็กน้อย 8 usd/oz
ที่ระดับ 2,032 ในวันพุธที่ 21 ธันวาคม หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดฉุดนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามทองยังปรับลงไม่มาก เนื่องจากยังได้แรงหนุนจากคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ขณะที่นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ หากสะท้อนเงินเฟ้อมีแนวโน้มไม่ลดลงหรือปรับตัวสูงขึ้น ก็จนลดโอกาสที่เฟดจะลดดดอกเบี้ยเร็วขึ้น อาจทำให้สกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและทองมีโอกาสปรับตัวย่อลงมาบ้าง ในตรงกันข้ามหากสะท้อนเงินเฟ้อลดลง ทองมีจะมีทิศทางบวกต่อทันที
ราคาทองคำเช้านี้เปิดตลาดที่ 2,032 ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศขายออกราว 33,700 บาท โดยภาพรวมใหญ่ของราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยสามารถตัดเส้นค่าเฉลี่ย 50,100,200 วัน ใน TF4H โดยมีเส้นค่าเฉลี่ย 50,100 วัน เป็นจุดรองรับการพักตัวกลับลงมา ภาพรวมยังชะลอตัวในการทำ slope (ความชัน) เป็นบวก แนวโน้ม Sideway กลยุทธการลงทุนแนะรอย่อซื้อโดยมีเป้าหมาย 2040-2050
สถิติที่น่าสนใจ
1.ราคาทองคำมีความผันผวนเล็กน้อยมีส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุดของเดือนมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ $76.9
2.ราคาทองคำส่วนใหญ่ปิดบวกในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบกับราคาปิดในเดือนพฤศจิกายนในแต่ละปีเกือบ 80%
3.จากข้อมูลสถิติย้อนหลังของผลตอบแทนเฉลี่ยของราคาทองคำ พบว่าราคาทองคำจะเริ่มมีการปรับตัวขึ้นในเดือนธ.ค. และเดือนม.ค. ของปีถัดไป หลังจากปรับตัวร่วงในเดือนพฤศจิกายน และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่เป็นบวก ฝั่งซื้อได้เปรียบตลาด
- Advertisement -
ราคาทองคำเมื่อวาน High 2043usd/oz Low 2027usd/oz
กลยุทธการลงทุนทองคำ
Gold Spot:
แนวรับ :2030/2020usd/oz
แนวต้าน :2040/2050usd/oz
ทองคำ96.5%:
แนวรับ :33,600/33,500บาท
แนวต้าน:33,700/33,800บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ค่าเงินบาทประจำวัน
เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 34.98 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 34.85-35.10 บาทต่อดอลลาร์
กองทุน SPDR ถือครอง 878.25ตัน (+0.58%)
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดยังอยู่ที่ระดับ 5.25-5.50%
ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 72.7% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมี.ค. 2567 และยังคงคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.50% มากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75%