วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ 3-5-23 โดย ออสสิริส-Ausiris
โดย : บริษัท ออสสิริส จำกัด
ราคาทองปิดพุ่งขึ้นที่ 2,016 ในวันอังคาร จากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐฯ
หลัง DFPI ได้สั่งปิดกิจการธนาคารเฟิร์สท์รีพับลิกแบงก์ ในการประชุมคืนนี้นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
แนวโน้มราคาทองคำเช้านี้เปิดตลาดไปที่ 2,016 หรือเกือบ 32,400 บาท
ภาพใหญ่ของราคาทองยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบเทรนด์ไลน์คู่ขนานขาขึ้น ล่าสุดเบรคแนวต้านที่ 2,015 ทำให้ขาขึ้นกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง และมีโอกาสขยับไปที่ 2,020-2,048
วันนี้แนะนำสำหรับผู้ที่ซื้อทองคำไว้ให้แบ่งขายทำกำไรหากราคาปรับตัวขึ้น
ส่วนนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะให้รอซื้อตามกรอบแนวรับ
ราคาทองเมื่อวานนี้ High 2,019 usd/oz Low 1,978 usd/oz
กลยุทธการลงทุนทองคำ
Gold Spot : แนวรับ 2,007/1,990 แนวต้าน 2,030/2,040
ทองคำ96.5% : แนวรับ 32,250/32,050 แนวต้าน 32,500/32,650
ทองคำ99.99% : แนวรับ 33,450/33,250 แนวต้าน 33,700/33,850
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทประจำวัน
ค่าเงินบาทเปิดตลาดแข็งค่าที่ 34 บาท/ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเปิดตลาด 101.63 ดอลลาร์ เงินบาทปรับตัวตามทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวอ่อนค่า ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยคืนนี้เป็นครั้งสุดท้าย
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้
1.เวลา 19:15 น. การจ้างงานนอกภาคเกษตรภาคเอกชนสหรัฐ ตัวเลขคาดการณ์ 148K ตัวเลขครั้งก่อน145K
(คาดการณ์บวกต่อทองคำ)
2.เวลา 21:00 น. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการสหรัฐ ตัวเลขคาดการณ์ 51.8 ตัวเลขครั้งก่อน 51.2
(คาดการณ์บวกต่อทองคำ)
3. เวลา 1:00 น. FOMC Statement
กองทุน SPDR ถือครอง 928.30 ตัน (+3.47ตัน)
เงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเหลือ 5% ในเดือนมีนาคม 2566
ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 แม้จะมีการปรับลดจากเดือนกุมภาพันธ์จากเดิม 6% แต่ก็ยังไม่ถึง 2% ตามที่เฟด ต้องการทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจำเป็นที่จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปอย่างน้อยอีก 1ครั้ง ในการประชุมเฟดครั้งถัดไป
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ดอกเบี้ยล่าสุด 4.75-5.00% ล่าสุดนักลงทุนให้น้ำหนัก 88.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมคืนนี้ และให้น้ำหนักเพียง 11.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00% อ้างอิงจาก CME FedWatch Tool