GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

วิเคราะห์ราคาทองคำ 29 เม.ย.64(ภาคเช้า) by YLG

298

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

การเข้าซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวในกรอบ พิจารณาโซน 1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการเปิดสถานะขาย ขณะที่การเปิดสถานะซื้อจำเป็นต้องรอการอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับซึ่งจะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น

แนวรับ : 1,759 1,743 1,730  แนวต้าน : 1,797 1,816 1,833

จจัยพื้นฐาน :

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดทะยานขึ้น 4.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ว่าราคาทองจะปรับตัวลดลงไปแตะระดับต่ำสุดบริเวณ  1,762.50  ดอลาร์ต่อออนซ์ในช่วงก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเสร็จสิ้น  อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากแรงซื้อ Buy the dip ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นแรง  หลังจากเฟดมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และยังคงเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนตามเดิม  อย่างไรก็ดี  ถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ประธานเฟดย้ำชัดอีกครั้งว่า  (1.) อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นชั่วคราวในปีนี้  จะไม่เป็นไปตามมาตรฐานสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย  ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์จึงมีความเหมาะสมจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย (2.) ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะหารือเกี่ยวกับการลด QE (QE tapering) สะท้อนว่าเฟดจะไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการลด QE สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงจาก 1.659% สู่ระดับ 1.618% ซึ่งช่วยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย  พร้อมกับกดดันให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.32% สู่ระดับ 90.597  ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเกือบ 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับต่ำสุด  สู่ระดับสูงสุดเมื่อคืนนี้ที่ 1,782.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์  และปรับตัวขึ้นต่อในช่วงเช้าวันนี้ในตลาดเอเชียจนส้รางระดับสูงสุดใหม่ในระหว่างวันที่ 1,789.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเป ดเผยประมาณการครั้งแรกจีดีพีช่วงไตรมาส 1/2021, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค :

หลังจากราคาอ่อนตัวลงสร้างระดับต่ำสุดใหม่จากสัปดาห์ก่อนหน้าโซน  1,762 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำเกิดแรงซื้อให้ฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้น  เบื้องต้นมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,797-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้ ประเมินว่าจะเกิดแรงขายกดดันมาเข้าใกล้ 1,762-1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน :

การเข้าซื้อขายทำกำไรระยะสั้น ราคาทองคำมีจุดเสี่ยงเปิดสถานะขายระยะสั้นในบริเวณ 1,797-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์  (ตัดขาดทุนหากยืน1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) แต่หากราคาอ่อนตัวลงไปก่อนให้พิจารณาบริเวณ 1,762-1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดเปิดสถานะซื้อ แต่หากหลุดโซนดังกล่าวแนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคา

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองลดลงสัปดาห์ที่แล้ว แม้ดอกเบี้ยปรับตัวลง  สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 2.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง  ทั้งนี้ จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 5% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว  ส่วนจำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 1% ในสัปดาห์ที่แล้ว และลดลง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • (+) ดอลล์อ่อน หลังเฟดคงดอกเบี้ย-เดินหน้าทำ QE  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามคาด นอกจากนี้ เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจ แม้ระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.31% สู่ระดับ 90.6220 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.68 เยน จากระดับ 108.73 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9100 ฟรังก์ จากระดับ0.9142 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2316 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2407 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2123 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2089 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3944 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3901 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7793 ดอลลาร์ สหรัฐ จากระดับ 0.7765 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 164.55 จุด หลังเฟดตรึงดอกเบี้ย-คงวงเงิน QE  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามคาด นอกจากนี้ เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจ แม้ระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,820.38 จุด ลดลง 164.55 จุด หรือ -0.48% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,183.18 จุด ลดลง 3.54 จุด หรือ -0.08% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,051.03 จุด ลดลง 39.19 จุด หรือ -0.28%
  • (+) “พาวเวล” เผยเฟดยังไม่ถึงเวลาหารือลดวงเงิน QE แม้เศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง  นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ว่า นายพาวเวลยังระบุด้วยว่า การฟื้นตัวของภาคส่วนต่างๆ ในระบบเศรษฐกิจยังคงไม่สอดคล้องกันและยังอยู่ห่างไกลจากการฟื้นตัวอย่างเต็มศักยภาพ โดยหากมองถึงภาพรวมเศรษฐกิจแล้ว ตัวเลขการจ้างงานที่ระดับ 8.4 ล้านตำแหน่งนั้น ยังคงอยู่ต่ำกว่าในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่อัตราว่างงานดีดตัวขึ้นแตะระดับ 6% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตอกย้ำว่า การจ้างงานในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ”  ในการแถลงข่าวครั้งนี้ นายพาวเวลเน้นย้ำว่า หากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐดีดตัวขึ้นในทิศทางที่มีความยั่งยืนมากขึ้น เฟดก็พร้อมที่จะใช้เครื่องมือต่างๆ ในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว
  • (+) เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด ยันเดินหน้าทำ QE  คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้  นอกจากนี้ เฟดระบุว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์  แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานได้แข็งแกร่งขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 และการสนับสนุนด้านนโยบาย  อย่างไรก็ดี เฟดเตือนว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงเผชิญความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเฟดจะใช้เครื่องมือทุกอย่างในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพื่อให้มีการจ้างงานเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา
  • (-) “เทสลา” เพิ่มการลงทุนบิตคอยน์เป็น 2,500 ล้านดอลลาร์  เทสลา อิงค์ บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของนายอีลอน มัสก์ ส่งหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) หรือก.ล.ต.ว่า ทางบริษัทได้ลงทุนในบิตคอยน์คิดเป็นมูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมี.ค.  วงเงินดังกล่าวสูงกว่าระดับ 1,500 ล้านดอลลาร์ที่เทสลาแจ้งต่อก.ล.ต.สหรัฐเมื่อวันที่ 8 ก.พ.  ก่อนหน้านี้ เทสลาเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรสุทธิ 101 ล้านดอลลาร์จากการขายบิตคอยน์ในไตรมาส 1 ซึ่งได้ช่วยให้กำไรของบริษัทพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสดังกล่าว

- Advertisement -

Comments
Loading...