GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

วิเคราะห์ราคาทองคำ 27 เม.ย.64(ภาคเช้า) by YLG

259

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

ซื้อขายทำกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุดแนวรับ 1,769-1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจจะเห็นการดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,789-1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,763 1,748 1,734 แนวต้าน : 1,789 1,806 1,820

จจัยพื้นฐาน :

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร  รวมถึงการฟื้นตัวของดัชนีดอลลาร์  หลังจาก Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีดีดตัวสู่ระดับ 96.8 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 96.6 ในเดือนมี.ค. แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 97.4 ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันสกุลเงินยูโร  พร้อมกับหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าจนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,768.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์  แต่ราคาทองคำกลับฟื้นตัวในเวลาต่อมาทั้งจากแรงซื้อ Buy the Dip รวมถึงได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แย่เกินคาด  อาทิ  ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ ที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 2.5% ส่วนดัชนีภาคการผลิตรัฐเท็กซัสจากเฟดสาขาดัลลัสร่วงลงสู่ระดับ 34 จุดในเดือนเม.ย. อย่างไรก็ดี  ภาพรวมสินทรัพย์ต่างๆรวมถึงทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ  เนื่องจากนักลทุนระมัดระวังในการถือครองสถานะก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเสร็จสิ้นลงในช่วงกลางสัปดาห์นี้  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้  ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) คาดคงนโยบายการเงินตามเดิม  พร้อมติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้านโดย S&P/CS, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์  นอกจากนี้  อาจติดตามผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 7 ปีวงเงิน 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งความต้องการในการประมูลที่มากหรือน้อยเกินกว่าค่าเฉลี่ยอาจจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้

จจัยทางเทคนิค :

หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคาทดสอบแนวรับโซน 1,769-1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับแรกได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้น โดยยังมีโอกาสที่จะราคาทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,789-1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

เข้าซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวในกรอบ แนะนำรอดูบริเวณ 1,769-1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น (ตัดขาดทุนหากราคหลุดแนวรับดังกล่าว) แล้วทยอยขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,789-1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) เฟดดัลลัสเผยดัชนีภาคการผลิตขยายตัวเป็นเดือนที่ 11 ในเม.ย.  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตรัฐเท็กซัสร่วงลงสู่ระดับ 34 จุดในเดือนเม.ย. หลังจากพุ่งแตะระดับ 48.0 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อ 17 ปีก่อน
  • (+) สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค.  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค. หลังจากลดลง 0.9% ในเดือนก.พ.
  • (+) ดอลล์อ่อนค่าเล็กน้อย ก่อนเฟดเปิดฉากประชุมนโยบายการเงิน  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) ก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มขึ้นในวันอังคารที่ 27 เม.ย. และสิ้นสุดลงในวันพุธที่ 28 เม.ย.ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ขยับลง 0.06% แตะที่ 90.8094 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2399 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2473 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.10 เยน จากระดับ 107.94 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์ ที่ระดับ 0.9140 ฟรังก์ จากระดับ 0.9134 ฟรังก์  ยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2091 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3906 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3875 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7805 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7756 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) Ifo เผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีต่ำเกินคาดในเดือนเม.ย.  Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีดีดตัวสู่ระดับ 96.8 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 96.6 ในเดือนมี.ค. แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 97.4  ทั้งนี้ ภาคธุรกิจของเยอรมนีมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ขณะที่ลดความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
  • (-) บิตคอยน์ดีดตัวทะลุ 53,000 ดอลลาร์ ขานรับเจพีมอร์แกนเตรียมตั้งกองทุนบิตคอยน์  บิตคอยน์ดีดตัวทะลุระดับ 53,000 ดอลลาร์ในวันนี้ ขานรับข่าวที่ว่า เจพีมอร์แกนกำลังเตรียมจัดตั้งกองทุนบิตคอยน์สำหรับลูกค้า  ณ เวลา 23.09 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 8.46% สู่ระดับ 53,599.10 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
  • (-) “เจพีมอร์แกน” เตรียมตั้งกองทุนบิตคอยน์สำหรับลูกค้า  CoinDesk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เปิดเผยว่า เจพีมอร์แกน ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ กำลังเตรียมจัดตั้งกองทุนบิตคอยน์สำหรับลูกค้าในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง  รายงานระบุว่า เจพีมอร์แกนอาจเปิดตัวกองทุนบิตคอยน์อย่างเร็วที่สุดในช่วงฤดูร้อนนี้  เจพีมอร์แกนได้ปรับเปลี่ยนมุมมองต่อบิตคอยน์ จากเดิมที่เคยมองเมื่อ 4 ปีก่อนว่า บิตคอยน์ถือเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ในการหลอกลวงนักลงทุน จนในขณะนี้ เจพีมอร์แกนได้ออกรายงานเกี่ยวกับบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ปัญหาเกี่ยวกับสภาพคล่องของบิตคอยน์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว โดยบิตคอยน์มีแนวโน้มที่จะมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น
  • (+/-) ดาวโจนส์ปิดลบ 61.92 จุด จับตาผลประกอบการบริษัทเทคโนฯ  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 เม.ย.นี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,981.57 จุด ลดลง 61.92 จุด หรือ -0.18% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,187.62 จุด เพิ่มขึ้น 7.45 จุด หรือ +0.18% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,138.78 จุด เพิ่มขึ้น 121.97 จุด หรือ +0.87%

- Advertisement -

Comments
Loading...