GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

วิเคราะห์ราคาทองคำ 20 เม.ย.64(ภาคเช้า) by YLG

335

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

หากราคาไม่หลุด 1,761-1,748 ดอลลาร์ต่อออนซ์แนะนำเปิดสถานะซื้อ ทั้งนี้ ควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาใกล้ชิด เนื่องจากเมื่อราคาดีดตัวขึ้นมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาเพิ่มมากขึ้นหลังจากราคาไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,761 1,748 1,734  แนวต้าน : 1,790 1,806 1,820

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 6.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ในระหว่างวันราคาทองคำจะทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์บริเวณ 1,789.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้  พร้อมกับปรับตัวลดลงแรง  จากแรงขายทำกำไร  นอกจากนี้  ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ดีดตัวขึ้นปิดเหนือ 1.60% เมื่อคืนนี้  ซึ่งเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย  สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดจนแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,766.64 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  การปรับตัวลงของทองคำถูกสกัดช่วงติดลบจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์  ทั้งนี้  ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.57% สู่ระดับ 91.082 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์  และอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. หลังจากนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการเฟด กล่าววานนี้ว่า การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อจะเกิดขึ้นแค่เพียงชั่วคราว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า  “เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป”  ประกอบกับวานนี้  กองทุน SPDR กลับเข้ามาถือครองทองเพิ่ม +2.04 ตันสู่ระดับ 1,021.70 ตัน  ซึ่งถือเป็นการถือครองทองคำเพิ่มครั้งแรกในรอบ 1 เดือนจึงเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงราคาทองคำเอาไว้อีกทาง  สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ  แต่ยังคงแนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพื่อใช่ชี้นำทิศทางราคาทองคำเช่นเคย

- Advertisement -

จจัยทางเทคนิค :

ก่อนหน้านี้เมื่อราคาขยับขึ้นก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมา โดยราคามีการแกว่งตัวเพิ่มขึ้น แต่ระยะสั้นราคาพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันจันทร์ แต่หากไม่สามารถยืนได้ราคาอาจอ่อนตัวลงลงเพื่อสะสมแรงซื้อประเมินแนวรับโซน 1,761-1,748 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

แนะนำซื้อขายทำกำไรระยะสั้น หากสามารถยืนเหนือ 1,761-1,748 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิดสถานะซื้อ โดยตัดขาดทุนหากหลุดระดับ 1,748 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการขายทำกำไรอาจพิจารณาดูบริเวณ 1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านหรือยืนได้ให้ชะลอการขายออกไปบริเวณ 1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) เงินดอลล์อ่อน หลังเฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยต่ำ  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ย้ำมุมมองที่ว่า การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อจะดำเนินไปเพียงชั่วคราว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.53% สู่ระดับ 91.0709 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.09 เยน จากระดับ 108.79 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9145 ฟรังก์ จากระดับ 0.9198 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2531 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2501 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2039 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1978 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3989 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3833 ดอลลาร์
  • (+) หุ้นเทคโนฯร่วงฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 123.04 จุด ตลาดจับตาผลประกอบการ  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นเทสลาที่ดิ่งลงกว่า 3% หลังมีรายงานผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เทสลาพุ่งชนต้นไม้และไฟลุกท่วม ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,077.63 จุด ลดลง 123.04 จุด หรือ -0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,163.26 จุด ลดลง 22.21 จุด หรือ -0.53% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,914.77 จุด ลดลง 137.58 จุด หรือ -0.98%
  • (-) อังกฤษทำสถิติผู้เสียชีวิตรายใหม่จากโควิดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน  กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษเปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพียง 4 ราย ซึ่งเป็นจำนวนต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ระดับ 127,274 ราย  ส่วนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 2,963 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศอยู่ที่ระดับ 4,390,783 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก
  • (-) อินเดียประกาศปิดกรุงนิวเดลี 6 วัน หลังยอดผู้ป่วยโควิดล้นโรงพยาบาล  รัฐบาลอินเดียประกาศใช้มาตรการปิดกรุงนิวเดลีเป็นเวลาอย่างน้อย 6 วัน ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำสถิติสูงสุดในรอบ 1 วัน และทำให้มีคนไข้ล้นเกินศักยภาพของระบบสาธารณสุขอินเดียและโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่สามารถรองรับได้  เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรุงนิวเดลี เปิดเผยว่า ขณะนี้เหลือเตียงสำหรับผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วกรุงนิวเดลีรวมแล้วไม่ถึง 100 เตียง รวมทั้งขาดแคลนอุปกรณ์จำเป็นจำนวนมาก เช่น ถังอ็อกซิเจน เครื่องช่วยหายใจ และยาสำคัญต่าง ๆ  คำประกาศปิดกรุงนิวเดลีนี้จะมีผลบังคับใช้จนถึงวันจันทร์หน้า ท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นวันละ 25,000 คนตลอดหลายวันที่ผ่านมา
  • (-) รายงานเผย “บาท” ติดท็อปเทนสกุลเงินได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับชำระเงินทั่วโลก  ที่ประชุม Boao Forum for Asia (BFA) เผยแพร่รายงานระบุว่า การบูรณาการของตลาดการเงินในเอเชียกำลังมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และสกุลเงินบาทของไทยอยู่ในกลุ่มสกุลเงิน 10 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการชำระเงินและตัดบัญชีทั่วโลก  ทั้งนี้ รายงาน BFA Asian Economic Outlook and Integration Progress Annual Report 2021 ระบุว่า ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา สกุลเงินเยน หยวน ดอลลาร์ฮ่องกง ดอลลาร์สิงคโปร์ และบาท อยู่ในกลุ่มสกุลเงิน 10 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการชำระเงินและตัดบัญชีทั่วโลก  นอกจากนี้ ตลาดการเงินเซี่ยงไฮ้ โตเกียว ฮ่องกง สิงคโปร์ ปักกิ่ง และเสิ่นเจิ้น ล้วนมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดเงินทุนทั่วโลกมายังเอเชีย และสนับสนุนการพัฒนาที่มุ่งสู่การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ.
  • (-) บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวขึ้น นักลงทุนจับตาประชุม ECB,เฟด  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และความคืบหน้าในการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ  ณ เวลา 23.56 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.589% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.287%
  • (+/-) ทั่วโลกจับตา “สี จิ้นผิง” กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Boao Forum for Asia พรุ่งนี้  กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Boao Forum for Asia (BFA) ผ่านระบบออนไลน์ในวันพรุ่งนี้  ทั่วโลกต่างจับตาสุนทรพจน์ของปธน.สี จิ้นผิง เพื่อดูท่าทีล่าสุดของจีน ท่ามกลางความขัดแย้งกับสหรัฐ หลังจากที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวกับการทำธุรกิจที่ไม่เป็นธรรม การละเมิดสิทธิมนุษยชน และความขัดแย้งเกี่ยวกับไต้หวัน  ก่อนหน้านี้ ในการประชุม Boao Forum for Asia ในปี 2561 ปธน.สี จิ้นผิงได้กล่าวโจมตีรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ได้ประกาศใช้นโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศทั้งสอง

- Advertisement -

Comments
Loading...