เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
- Advertisement -
โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ทองคำปรับตัวขึ้นตามราคาโลหะเงินจากรายย่อยดันราคา
วันนี้ติดตามจีดีพีไตรมาส 4 ของยูโรโซน
ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,850-1,870ดอลลาร์
- ราคาทองคำSpotเมื่อวานปรับตัวขึ้นตามราคาโลหะเงินที่เพิ่มขึ้นกว่า 9% ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังกลุ่มนักลงทุนรายย่อยได้เล็งเป้าหมายใหม่เป็นโลหะเงินเพื่อดันราคาเพิ่มขึ้น ในลักษณะเดียวกับที่พากันเข้าซื้อหุ้น GameStopซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ เพื่อสั่งสอนกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่มักเก็งกำไรด้วยการขายชอร์ตในตลาด ทางด้านกองทุนSPDR Gold Trust ขายทองคำ 2.63 ตันหลังจากขายทองคำ 13.12ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- วันนี้จะมีประกาศจีดีพีไตรมาส 4 ของยูโรโซน ซึ่งเป็นประมาณการครั้งแรก ตลาดคาดจะลดลง 0.9% หลังจากที่ไตรมาส 3 ขยายตัว 12.5%ส่วนคืนนี้สหรัฐไม่มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ขณะที่ยังต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐวงเงิน1.9 ล้านล้านดอลลาร์
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,850-1,870 ดอลลาร์ ทั้งนี้ราคาทองคำควรยืนเหนือแนวรับ 1,850 ดอลลาร์ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ภาพทางด้านเทคนิคจะมีสัญญาณที่ดีและมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านที่ 1,870 ดอลลาร์ และ 1,880 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,850 ดอลลาร์ และ 1,835 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
| Close | chg. | Support | Resistance |
| 1,860.40 | +13.71 | 1,850/1,835 | 1,870/1,880 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
| Close | chg. | Support | Resistance |
| 26,450 | +250 | 26,250/26,100 | 26,550/26,650 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
| Close | chg | Support | Resistance |
| 26,540 | – | 26,380/26,210 | 26,660/26,760 |
แนะนำขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,870 ดอลลาร์ (GF 26,660บาท) การเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำที่ราคาทอง Spot1,850 ดอลลาร์ (GF 26,380บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,840 ดอลลาร์(GF 26,240บาท)
- Advertisement -
การลงทุนในทองแท่ง แนะนำขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,870 ดอลลาร์ และ 1,880ดอลลาร์
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
แนะนำขายทำกำไรที่ราคา GOH21 1,873 ดอลลาร์ การเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวแนะนำที่ราคา GOH21 1,853 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,843 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดอ่อนค่าลง ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้จะขยายตัว 5.1% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.1% สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.64 คาดจะมีแนวรับที่ 29.90บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 30 บาท/ดอลลาร์ และ 30.10 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลักรับความหวังศก.สหรัฐฟื้นตัว
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวและสหรัฐมีความสามารถที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนได้ตามเป้าขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากเยอรมนีเปิดเผยยอดค้าปลีกทรุดตัวลงในเดือนธ.ค. ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.45% แตะที่ระดับ 90.9871
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดบวก $13.6 ตามราคาโลหะเงินพุ่งสูงสุดรอบ 8 ปี
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.พ.) โดยสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,860 ดอลลาร์เพราะได้แรงหนุนจากราคาสัญญาโลหะเงินที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีอันเนื่องมาจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนรายย่อยสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 13.6 ดอลลาร์หรือ 0.74% ปิดที่ 1,863.9 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 2.504 ดอลลาร์หรือ 9.3% ปิดที่ 29.418 ดอลลาร์/ออนซ์ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.2556
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $1.35 ขานรับซาอุฯลดผลิต-คาดดีมานด์น้ำมันฟื้นตัว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าพายุหิมะทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐจะทำให้ความต้องการใช้พลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นนอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยบวกจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 1.35 ดอลลาร์หรือ 2.6% ปิดที่ 53.55 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์หรือ 2.4% ปิดที่ 56.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดบวก 229.29 จุดรับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯ-หุ้นเหมือง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะหุ้นแอมะซอนดอทคอมที่ทะยานขึ้นกว่า 4% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในวันนี้นอกจากนี้ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาโลหะเงินพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีอันเนื่องมาจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนรายย่อยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,211.91 จุดเพิ่มขึ้น 229.29 จุดหรือ + 0.76% ดัชนีS&P 500 ปิดที่ 3,773.86 จุดเพิ่มขึ้น 59.62 จุดหรือ +1.61% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 13,403.39 จุดเพิ่มขึ้น 332.70 จุดหรือ +2.55%
