เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
ผลสำรวจราคาทองคำสัปดาห์หน้าคาดพักตัว นักลงทุนรอติดตามตัวเลข ศก.สำคัญสหรัฐฯ
- Advertisement -
| GRC Gold Survey 11-15 ก.ค.65 |
ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 11-15 ก.ค.65 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ
14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 6 ราย หรือเทียบเป็น 43% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 332 ราย ในจำนวนนี้มี 101 ราย หรือเทียบเป็น 30% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 194 ราย หรือเทียบเป็น 59% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 37 ราย หรือเทียบเป็น 11% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สถานการณ์ราคาทองคำ
- Advertisement -
ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 29,800 – 30,550 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 29,800 บาท ต่อบาททองคำ ปรับลดลง 650 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 30,450 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1. นายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ เป็นตัวเก็งว่าที่หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม และว่าที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ หลังจากที่นายบอริส จอห์นสัน ประกาศลาออกจากตำแหน่ง อาจกระตุ้นความตึงเครียดระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะนายเบน วอลเลซ ในช่วงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ได้สนับสนุนให้อังกฤษเตรียมติดตั้งสกาย เซเบอร์ (Sky Sabre) ระบบต่อต้านขีปนาวุธในโปแลนด์
2. ความเป็นไปได้ที่จีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังรัฐบาลจีนเตรียมออกมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นตลาดรถยนต์ภายในประเทศ โดยจะพิจารณาขยายการลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงสร้างสถานีชาร์ทไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และลดค่าบริการชาร์ทไฟลงด้วย
3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ การเปิดเผยตัวเลขราคาผู้ผลิต (PPI) และ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มิถุนายน 2565 ตัวเลขยอดค้าปลีก และ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะส่งผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED
ที่มา : ศูนย์วิจัยทองคำ