GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 9 มี.ค.65 by YLG

592

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

หากราคายืนเหนือ 2,028-2,020 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิดสถานะซื้อ(ตัดขาดทุนหากหลุด 2,020 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หากราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นจนยืนเหนือแนวต้าน2,069 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากต้องการเปิดสถานะขายอาจต้องชะลอออกไปก่อน

แนวรับ : 2,020 2,002 1,980  แนวต้าน : 2,069 2,088 2,102

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น52.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยทั้งในแง่เทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่ (1.) แรงซื้อตามทางเทคนิคหลังจากที่ราคาทองคำทะลุผ่านแนวต้านจิตวิทยา และ Neckline ของ Invert H&S บริเวณ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (2.) ความวิตกว่าความตึงเครียดในยูเครนจะลุกลามจนกระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจทั่วโลกและยิ่งกระตุ้นเงินเฟ้อ ท่ามกลางพุ่งขึ้นของราคาพลังงานหลังสหรัฐแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ส่วนสหราชอาณาจักรวางแผนที่จะยกเลิกการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียทั้งหมดเช่นกัน ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี2008จนกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ (3.) การอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์จากแรงขายทำกำไร และการเปิดเผยตัวเลขเศรษบกิจสหรัฐที่ออกมาแย่เกินคาด อาทิ ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐ และดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อม (4.) การแข็งค่าของยูโรจากความคาดหวังว่าสหภาพยุโรป(EU)จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังเพื่อช่วยชดเชยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และ (5.) กองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มอีก +4.64 ตัน สะท้อนกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETF ทองต่อเนื่อง ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดอยู่เบื้องหลังการทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 2,069.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งไม่ไกลจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ขึ้นไปทดสอบในวันที่ 7 ส.ค. 2020 สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings)

- Advertisement -

จจัยทางเทคนิค :

หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือแนวรับโซน 2,028-2,020 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้มีแนวโน้มดันขึ้นสู่บริเวณ 2,069 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามในโซนดังกล่าวขึ้นไป ต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะออกมา แต่หากยืนได้ สำหรับวันนี้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 2,075-2,088 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

สามารถถือสถานะซื้อต่อหากราคาย่อตัวลงไม่หลุดแนวรับ 2,028-2,020 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือหากรับความเสี่ยงได้สูงอาจเปิดสถานะซื้อเพิ่มหากราคายืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ เพื่อทยอยปิดสถานะทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปไม่ผ่านแนวต้าน 2,069 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ราคาทะยานขึ้นจนยืนได้ สามารถถือต่อเพื่อรอทำกำไรที่แนวต้านถัดไป

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อนเทียบยูโร นลท.จับตาสงครามรัสเซีย-ยูเครนดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (8 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.23% แตะที่ 99.0640  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0909 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0858 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3105 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3103 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7276 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7328 ดอลลาร์  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 115.73 เยน จากระดับ 115.31 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9291 ฟรังก์ จากระดับ 0.9261 ฟรังก์
  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 184.74 จุด วิตกสหรัฐคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (8 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น และทำให้ตลาดวิตกกังวลว่าความขัดแย้งระหว่างประเทศอันเนื่องมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,632.64 จุด ลดลง 184.74 จุด หรือ -0.56%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,170.70 จุด ลดลง 30.39 จุด หรือ -0.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,795.55 จุด ลดลง 35.41 จุด หรือ -0.28%
  • (+) รัสเซียเล็งยึดโรงงานต่างชาติตกเป็นของรัฐ หลังประกาศปิดตามมาตรการคว่ำบาตรนายอังเดร ตูรชัค เลขาธิการพรรคยูไนเต็ด รัสเซีย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของรัสเซีย กล่าวว่า รัฐบาลควรยึดโรงงานของชาวต่างชาติซึ่งได้ประกาศปิดการดำเนินงานตามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและชาติตะวันตก  นายตูรชัคกล่าวว่า การปิดการดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นการทำสงครามต่อประชาชนชาวรัสเซีย
  • (+) “โกลด์แมน แซคส์” ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันปีนี้,ปีหน้าโกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้และปีหน้า โดยระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญปัญหาการขนส่งน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุด ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในยูเครน ซึ่งส่งผลให้นานาประเทศคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับ 135 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 98 ดอลลาร์/บาร์เรล และจะแตะระดับ 115 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า จากเดิมที่ระดับ 105 ดอลลาร์/บาร์เรล 
  • (+) “ไบเดน” ประกาศแบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียตอบโต้โจมตียูเครนประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศในวันนี้ว่า สหรัฐจะคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน  “เราจะห้ามการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย ซึ่งหมายความว่ารัสเซียจะไม่สามารถส่งน้ำมันมายังท่าเรือสหรัฐอีกต่อไป” ปธน.ไบเดนกล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในวันนี้  ปธน.ไบเดนคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นต่อไป อันเป็นผลจากมาตรการดังกล่าว แต่เขาให้สัญญาว่าจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อลดผลกระทบต่อชาวอเมริกัน
  • (+) น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $4.30 หลังสหรัฐแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซียสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 5%ในวันอังคาร (8 มี.ค.) หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้  ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 4.30 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 123.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2551  สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 4.77 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 127.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2551
  • (+) สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมต่ำสุดรอบ 1 ปี ท่ามกลางความกังวลเงินเฟ้อสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) แถลงในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวลง 1.4 จุด สู่ระดับ 95.7 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี จากระดับ 97.1 ในเดือนธ.ค.
  • (+) สหรัฐขาดดุลการค้า 8.97 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. สูงสุดเป็นประวัติการณ์  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐพุ่งขึ้น 9.4% สู่ระดับ 8.97 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.71 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 8.20 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.
  • (-) “สี จิ้นผิง” ออกโรงแล้ว! ยันจีนพร้อมมีบทบาทแก้ไขวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน กล่าวว่า จีนพร้อมที่จะมีบทบาทอย่างมากในการแก้ไขวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ตามที่ทุกฝ่ายมองว่ามีความจำเป็น 

- Advertisement -

Comments
Loading...