GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 9 ธ.ค.64 by HGF

237

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำปรับขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์แนวโน้มราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,770-1,800ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานเคลื่อนไหวทรงตัวบริเวณต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนขายสกุลเงินดอลลาร์ ภายหลังคลายความกังวลสายพันธุ์โอมิครอน ในขณะที่บริษัทไฟเซอร์ อิงค์และไบออนเทคเผยว่าวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคจำนวน 3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิม
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายส่วนคืนพรุ่งนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่เดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบรายเดือนทั้งนี้ถ้าตัวเลขออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ อาจทำให้ตลาดกังวลว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,770-1,800ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,792 ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์ขณะที่มีแนวรับที่ 1,770 ดอลลาร์ และ 1,760 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,782.70-1.11,770/1,7601,792/1,800

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,400-5028,050/27,90028,350/28,450

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,410-7028,200/28,04028,400/28,620

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับขึ้นมาที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,200บาท)โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760ดอลลาร์ (GF28,040บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,785.60-4.201,771/1,7611,793/1,801

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาGOZ21ปรับขึ้นมาที่ 1,771 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,761ดอลลาร์

ค่าเงิน

- Advertisement -

ทิศทางค่าเงินบาทเมื่อวานนี้แข็งค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค หลังจากคลายความกังวลเกี่ยวกับโอมิครอนในขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาทในระยะสั้นคาดว่าแข็งค่าได้ต่อโดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.30บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.50บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนนลท.ขายสกุลเงินปลอดภัยหลังคลายกังวลโอมิครอน

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยหลังจากกความวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเริ่มบรรเทาลงขณเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์หน้ารวมทั้งจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ด้วยทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.51% แตะที่ 95.8905 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ดอลล์อ่อนหนุนทองปิดบวก 80 เซนต์จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้รวมทั้งการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้าทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์หรือ 0.04% ปิดที่ 1,785.50 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 9.1 เซนต์หรือ 0.4% ปิดที่ 22.432 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 31 เซนต์ข่าววัคซีนไฟเซอร์หนุนแรงซื้อ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ธ.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบยังคงปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนหลังมีรายงานว่าวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบออนเทคจำนวน 3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 31 เซนต์หรือ 0.4% ปิดที่ 72.36 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 2564    ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์หรือ 0.5% ปิดที่ 75.82 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 2564

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 35.32 จุดรับข่าววัคซีนไฟเซอร์ต้านโอมิครอน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ธ.ค.) ขานรับรายงานที่ว่าวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และไบออนเทคจำนวน 3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนโดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มเรือสำราญดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,754.75 จุดเพิ่มขึ้น 35.32 จุดหรือ +0.10%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,701.21 จุดเพิ่มขึ้น 14.46 จุดหรือ +0.31% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 15,786.99 จุดเพิ่มขึ้น 100.07 จุดหรือ +0.64%

“บิลเกตส์” ชี้การระบาดรุนแรงของโควิดจะจบลงในปีหน้าแม้เจอโอมิครอน

นายบิลเกตส์มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในปี2564ว่าจะไม่คลี่คลายอย่างที่เขาคาดหวังไว้สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่านายเกตส์ได้โพสต์บนเว็บบล็อกของเขาเมื่อวานนี้ (7ธ.ค.) ระบุว่าเนื่องจากจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19ในปีนี้มากกว่าในปี2563รวมถึงการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาและอุปสรรคต่างๆในการระดมฉีดวัคซีนทำให้ความคืบหน้าไม่เป็นไปตามที่คาดไว้   “ผมประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไปในแง่ที่ว่าเป็นเรื่องยากที่จะโน้มน้าวให้คนหันมาฉีดวัคซีนและสวมหน้ากากอนามัยกันต่อไป”   อย่างไรก็ดีผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกในปี2565โดยระบุว่าการระบาดที่ลุกลามรุนแรงจะสิ้นสุดลงณช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในปีหน้าโดยการคาดการณ์ของนายเกตส์นั้นมีขึ้นในช่วงที่ทั่วโลกกำลังรับมือกับโอมิครอนซึ่งเป็นไวรัสโควิด-19สายพันธุ์ใหม่ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐใกล้แตะ50ล้านรายนายเกตส์ระบุว่า “เชื้อไวรัสโอมิครอนน่ากังวลแต่สิ่งที่เรารู้ตอนนี้ก็คือโลกเตรียมพร้อมรับมือสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงได้ดีขึ้นกว่าการระบาดในช่วงอื่นๆที่ผ่านมา”   เขายังคาดการณ์ว่าแม้การติดเชื้อโควิด-19จะมีโอกาสเสียชีวิตได้มากกว่าโรคไข้หวัดใหญ่ถึง10เท่าก็ตามแต่วัคซีนและยาต้านไวรัสอาจลดการเสียชีวิตลงได้50%นายเกตส์ระบุเพิ่มเติมว่า “ชุมชนต่างๆจะยังพบการระบาดอยู่บ้างแต่ยาตัวใหม่ที่จะออกมาจะสามารถใช้รักษาผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้และโรงพยาบาลก็จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้”     นอกจากนี้นายเกตส์ยังพูดถึงเรื่องการบิดเบือนข้อมูลซึ่งส่งผลให้ผู้คนไม่อยากฉีดวัคซีนโดยเขาแสดงความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลในการทำภารกิจใหญ่ให้ลุล่วงพร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมการใช้งานโซเชียลมีเดียด้วย

ผลวิจัยชี้วัคซีน “ไฟเซอร์” ป้องกันโอมิครอนได้บางส่วนภูมิลดราว 40 เท่า

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายอเล็กซ์ซิกาลหัวหน้าฝ่ายวิจัยของห้องปฏิบัติการแห่งสถาบันวิจัยสุขภาพแอฟริกาในเมืองเดอร์บันประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งระบุว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนสามารถหลบภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคได้บางส่วนนักวิจัยจากสถาบันดังกล่าวพบว่าโอมิครอนส่งผลให้ระดับแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ (neutralizing antibody) ของผู้ที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทคจำนวน 2 โดสลดลงประมาณ 40 เท่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่ตรวจพบในประเทศจีนเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้วอย่างไรก็ดีนายซิกาลกล่าวในการนำเสนอรายงานผลการทดลองครั้งแรกทางออนไลน์ที่วัดประสิทธิภาพของวัคซีนกับโควิดสายพันธุ์ใหม่ว่าการสูญเสียภูมิคุ้มกันนั้น “มากแต่ไม่ทั้งหมด”    นายซิกาลกล่าวว่าภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนจะมีการพัฒนามากขึ้น “วัคซีนเข็มบูสเตอร์ที่ดีอาจลดโอกาสการติดเชื้อของคุณโดยเฉพาะการติดเชื้อรุนแรงที่ทำให้เกิดโรคที่รุนแรงมากขึ้นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดเข็มบูสเตอร์ก็ควรไปฉีดส่วนผู้ที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้ก็ควรไปฉีดวัคซีนเช่นกัน”

สื่อเผย “ไบเดนVS ปูติน” เสร็จสิ้นการประชุมทางไกลแล้ว

สำนักข่าวTASS รายงานว่าการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ระหว่างประธานาธิบดีโจไบเดนผู้นำสหรัฐและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ปูตินผู้นำรัสเซียได้เสร็จสิ้นลงแล้วผู้นำทั้งสองได้หารือกันเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงหลังจากการประชุมเริ่มต้นขึ้นในเวลา 22.08 น.ตามเวลาไทยสำนักข่าวTASS รายงานว่าในช่วงเริ่มต้นของการประชุมผู้นำทั้งสองได้ทักทายกันขณะที่ปธน.ไบเดนแสดงความหวังว่าจะสามารถจัดการประชุมสุดยอดกับปธน.ปูตินแบบพบหน้ากันหลังจากที่ทั้งสองได้จัดการประชุมสุดยอดก่อนหน้านี้ที่นครเจนีวาในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาสื่อรายงานว่าหลังจากที่ปธน.ไบเดนและปธน.ปูตินได้ทักทายซึ่งกันและกันแล้วทั้งสองฝ่ายก็ได้เริ่มการเจรจาเป็นการภายในโดยไม่ได้มีการแถลงข่าวเปิดเผยผลการประชุมต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด

- Advertisement -

Comments
Loading...