GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 9 ก.ย.64 by HGF

287

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำปรับลงต่อ จำนวนตำแหน่งงานเปิดรับสมัครสหรัฐเพิ่มขึ้น

คืนนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป

แนวโน้มราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหว Sideways down

  • ราคาทองคำSpot เมื่อวานปรับลดลงต่อเนื่องเนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นโดยสหรัฐประกาศจำนวนตำแหน่งงานเปิดรับสมัครเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 10.09ล้านตำแหน่งสวนทางกับตลาดคาดจะลดลงเหลือ 10.03 ล้านตำแหน่งส่วนรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด12 เขตในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้า  ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวานติดต่อกันเป็นวันที่ 3
  • วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป ซึ่งคาดจะมีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป และอาจจะไม่ค่อยมีผลกระทบต่อราคาทองคำ ที่น่าสนใจติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป ส่วนคืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 343,000 รายจากที่สัปดาห์ก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 340,000  ราย นอกจากนี้ติดตามการแถลงของประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกและประธานเฟดสาขาชิคาโก้
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหว Sideways downหลังจากที่ราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญ 1,833 ดอลลาร์ได้ ทำให้เกิดสัญญาณของการปรับฐานลง ทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์และ 1,770 ดอลลาร์ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์และ 1,810-1,815 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,788.60-5.51,780/1,7701,800/1,810

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
27,950-10027,650/27,55027,900/28,050

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
27,900-12027,730/27,58028,040/28,200

เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคาทอง Spot ระหว่าง 1,780-1,800ดอลลาร์(GF27,730-28,040บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,790.10-8.101,781/1,7711,801/1,811

เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคา GOU21ระหว่าง 1,781-1,801ดอลลาร์

ค่าเงิน

- Advertisement -

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดเริ่มทรงตัวหลังจากอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเนื่องจากเงินยูโรอ่อนค่าลงก่อนการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันนี้ส่วนสถานการณ์โควิดในประเทศจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ค่อนข้างทรงตัว ทำให้มีผลกระทบต่อเงินบาทลดลง ซึ่งUSD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.65 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 32.80บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ยูโรอ่อนค่าก่อนECB ประชุมนโยบายการเงินวันนี้

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ก.ย.) ก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีขึ้นในวันนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.15% แตะที่ 92.6501 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดลบ $5 เหตุดอลล์แข็ง-นลท.ขายสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ก.ย.) โดยสัญญาทองคำปิดที่ระดับต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5 ดอลลาร์หรือ 0.28% ปิดที่ 1,793.5 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 31.7 เซนต์หรือ 1.3% ปิดที่ 24.056 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 95 เซนต์หลังเฮอริเคนฉุดการผลิตน้ำมันอ่าวเม็กซิโก

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่าการฟื้นฟูกำลังการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเป็นไปอย่างล่าช้าหลังได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดาขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 95 เซนต์หรือ 1.4% ปิดที่ 69.30 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์หรือ 1.3% ปิดที่ 72.60 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 68.93 จุดเหตุวิตกผลกระทบไวรัสเดลตา

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐนอกจากนี้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินนั้นยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันในตลาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,031.07 จุดลดลง 68.93 จุดหรือ -0.20% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,514.07 จุดลดลง 5.96 จุดหรือ -0.13% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,286.64 จุดลดลง 87.69 จุดหรือ -0.57%

“ไบเดน” มั่นใจจีนเตรียมหาทางเป็นพันธมิตรกับกลุ่มตาลีบัน

ประธานาธิบดีโจไบเดนแห่งสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่าเขามั่นใจว่าจีนจะพยายามทำข้อตกลงกับกลุ่มตาลีบันหลังจากกลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองอัฟกานิสถานเมื่อวันที่15ส.ค. ที่ผ่านมาเมื่อผู้สื่อข่าวถามปธน.ไบเดนว่าเขามีความกังวลว่าจีนจะให้เงินทุนสนับสนุนแก่กลุ่มตาลีบันหรือไม่ปธน.ไบเดนกล่าวว่า “ที่ผ่านมานั้นจีนมีปัญหากับตาลีบันแต่หลังจากตาลีบันเข้ายึดอำนาจการปกครองในอัฟกานิสถานได้สำเร็จจีนก็พยายามเป็นพันธมิตรกับตาลิบันเช่นเดียวกับที่ปากีสถานรัสเซียและอิหร่านกำลังทำอยู่พวกเขาต่างพยายามหาหนทางว่าควรจะทำอย่างไร”   ทั้งนี้สหรัฐและกลุ่มพันธมิตรG7เห็นพ้องที่จะหาวิธีการรับมือกับกลุ่มตาลบันและขัดขวางไม่ให้กลุ่มตาลีบันเข้าถึงเงินสำรองของอัฟกานิสถานซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐแต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจจะหมดไปหากจีนและรัสเซียให้เงินทุนแก่กลุ่มตาลีบันนางชาไมลาข่านผู้อำนวยการฝ่ายตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ของบริษัทAllianceBernsteinกล่าวว่าอัฟกานิสถานมีแร่หายากมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์และหลายประเทศซึ่งรวมถึงจีนต่างก็พยายามที่จะครอบครองทรัพยากรอันมีค่าดังกล่าวหลังจากรัฐบาลอัฟกานิสถานล่มสลายและทำให้กลุ่มตาลีบันเข้ามาครอบครองประเทศนางข่านเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์CNBC ว่ากลุ่มตาลีบันกลับมามีอำนาจพร้อมด้วยทรัพยากรซึ่งจะเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับโลกนี้โดยจะมีการฉกฉวยประโยชน์จากแร่ธาตุที่มีอยู่ในอัฟกานิสถานทั้งนี้นางข่านกล่าวว่าประชาคมโลกควรหันมากดดันจีนหากจีนแสดงความต้องการที่จะเป็นพันธมิตรกับกลุ่มตาลีบัน

สหรัฐเผยประชากรวัยผู้ใหญ่75%ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า75%ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19แล้วอย่างน้อย1โดส   CDC ระบุว่ามีประชากรวัยผู้ใหญ่193,798,688คนได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย1โดสขณะที่165,947,460คนได้รับวัคซีนครบโดสแล้วหรือคิดเป็น64.3%นอกจากนี้สหรัฐได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19ให้ประชาชนในประเทศไปแล้วทั้งสิ้น375,995,378โดสณวันอังคารที่8ก.ย. และกระจายวัคซีนออกไปแล้ว450,122,155โดสตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากที่ฉีดไป374,488,924โดสเมื่อวันที่4ก.ย.    ยอดรวมวัคซีนดังกล่าวนับรวมวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19แบบ2โดสของโมเดอร์นาและไฟเซอร์รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19แบบ1โดสของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

ปธ.เฟดเซนต์หลุยส์หนุนลดวงเงินQE ปีนี้คาดตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวแกร่งปีหน้า

นายเจมส์บูลลาร์ดประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่าเฟดควรเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ที่เคยประกาศใช้เพื่อเยียวยาผลกระทบโควิด-19แม้ตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.ชะลอตัวลงก็ตามนายบูลลาร์ดไม่ได้แสดงความกังวลในประเด็นที่ว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานเป็นไปอย่างซบเซาแม้ว่าสหรัฐมีอัตราการจ้างงานต่ำที่สุดในรอบ7เดือนเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมาเนื่องจากการจ้างงานในภาคธุรกิจการสันทนาการและบริการชะลอตัวลงเนื่องจากการกลับมาระบาดของโควิด-19     “ความต้องการแรงงานในตลาดยังมีอยู่มากและยังคงมีตำแหน่งงานรองรับมากกว่าจำนวนคนว่างงานหากเรานำแรงงานเข้าสู่ระบบได้มากขึ้นและควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีขึ้นย่อมมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ตลาดแรงงานจะกลับมาแข็งแกร่งมากในปีหน้า” นายบูลลาร์ดให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ว่าและเพิ่มเติมว่า “หากพิจาณาในภาพรวมนั้นการปรัดลดวงเงินQE ควรเริ่มในปีนี้โดยค่อยๆทยอยจนสิ้นสุดลงภายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า”

ทั้งนี้เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมานายบูลลาร์ดกล่าวว่าเฟดควรปรับลดวงเงินQE โดยเร็วเพื่อให้โครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการQE ยุติลงในช่วงต้นปี2565และปูทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีดังกล่าว

- Advertisement -

Comments
Loading...