GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 8 เม.ย.65 by YLG

659

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เน้นเก็งกำไรการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อที่แนวรับบริเวณ 1,920-1,907 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบ้างส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,944-1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ

แนวรับ : 1,907 1,890 1,870  แนวต้าน : 1,949 1,966 1,974

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.30ดอลลาร์ต่อออนซ์แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะยังคงได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงิน “อย่างแข็งกร้าว” ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

ล่าสุดเมื่อวานนี้ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิโหวตนโยบายการเงินของเฟดในปีนี้กล่าวว่า เฟดยังล้าหลังในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ(Behind the curve) และเฟดควรต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3% ภายในสิ้นปีสู่ระดับ 3.25% ซึ่งบ่งชี้ว่า เฟดต้องขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.5% หรือ 50baps ในทุกๆการประชุมนโยบายการเงินที่เหลือทั้งหมด 6 ครั้งในปีนี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณในเชิง Hawkish อย่างมาก

ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ระดับ 166,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 1968 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 200,000 ราย ซึ่งยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และการคาดการณ์ดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นแตะระดับที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค. 2020 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2019

ซึ่งแม้จะเป็นปัจจัยกดดันทองคำ แต่การปรับตัวลดลงของทองคำอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเป็นระยะ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน-รัสเซีย หลังจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) มีมติถอดถอนรัสเซียออกจากการเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแล้ว เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน นั่นทำให้ทองคำสามารถฟื้นตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดระหว่างวันบริเวณ 1,937.68 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค

ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,920-1,907ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสเกิดแรงดีดกลับและราคาอาจพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,944-1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อาจจะเกิดแรงขายสลับออกมาเพิ่ม

กลยุทธ์การลงทุน

- Advertisement -

เน้นทำกำไรระยะสั้นโดยเปิดสถานะซื้อ โดยใช้บริเวณ 1,920-1,907 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุด 1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ชะลอการเข้าซื้อออกไป ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,944-1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัว

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+)ออสเตรเลียเล็งคว่ำบาตรชาวรัสเซียเพิ่มอีก 67 รายหลังเหตุสังหารหมู่เมืองบูชา มาริส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียเปิดเผยว่า ออสเตรเลียเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินและห้ามชาวรัสเซียอีก 67 คนเดินทางเข้าประเทศ ส่งผลให้ยอดรวมพลเรือนและองค์กรของรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตรนั้นมีอยู่เกือบ 600 ราย

• (+) ยูเครนเรียกร้องต่อนาโต้ “ขออาวุธเพิ่ม” สู้กองทัพรัสเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน ดมิโทร คูเลบา กล่าววิจารณ์บางประเทศที่ยังลังเลไม่ทำตามข้อเรียกร้องของยูเครนเรื่องการจัดหาความช่วยเหลือด้านอาวุธในการสู้รบกับรัสเซียเพราะกลัวว่าจะถูกดึงเข้าไปร่วมในสงครามครั้งนี้ โดยรัฐมนตรีคูเลบา ระบุว่า “ข้อเสนอที่ยูเครนมีให้นั้นเป็นไปอย่างยุติธรรม คือเมื่อคุณจัดหาอาวุธให้เรา เราก็จะเสียสละชีวิตของเราเอง และสงครามก็จะจำกัดอยู่แค่ในยูเครนเท่านั้น”

• (+) เครมลินยันมีการจัดฉากสังหารหมู่ในยูเครนเพื่อป้ายสีรัสเซีย นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยืนยันว่ามีการจัดฉากการสังหารหมู่ชาวยูเครนในเมืองบูชาเพื่อป้ายสีกองทัพรัสเซีย “มีการพบร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากหลังจากที่รัสเซียถอนกำลังออกไปแล้ว และขณะนี้เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่มีแต่ข่าวปลอมและเรื่องโกหกทุกวัน” นายเพสคอฟกล่าว

• (+) UN ลงมติขับรัสเซียพ้นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน ตอบโต้ส่งทหารบุกยูเครน ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) มีมติถอดถอนรัสเซียออกจากการเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนในวันนี้ เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ซึ่งถือเป็น “การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและเป็นระบบ” ทั้งนี้ สมาชิก UNGA จำนวน 93 ประเทศจากทั้งหมด 193 ประเทศ ลงมติเห็นชอบต่อญัตติดังกล่าว ขณะที่ 24 ประเทศลงมติไม่เห็นชอบ ส่วน 58 ประเทศงดออกเสียง และ 18 ประเทศไม่เข้าร่วมในการลงมติ

• (+) รัสเซียเผยการผลิตน้ำมันอาจลดลง 4-5% เดือนนี้ หลังถูกสหรัฐคว่ำบาตร นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า การผลิตน้ำมันของรัสเซียอาจลดลง 4-5% ในเดือนนี้ โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐและพันธมิตร ทั้งนี้ ผู้ส่งออกน้ำมันของรัสเซียเผชิญปัญหาจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ขณะที่การผลิตน้ำมันลดลงราว 4% ในช่วงต้นเดือนนี้ ต่อเนื่องจากการปรับตัวลงในเดือนมี.ค.

• (-) ดอลล์แข็งค่าต่อเนื่อง รับคาดการณ์เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.15% แตะที่ 99.7510 เมื่อคืนนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 123.96 เยน จากระดับ 123.81 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9338 ฟรังก์ จากระดับ 0.9328 ฟรังก์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2580 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2519 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0881 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0905 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3073 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3066 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7485 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7511 ดอลลาร์สหรัฐ

• (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 87.06 จุด นลท.ช้อนซื้อหลังหุ้นร่วงหนัก ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,583.57 จุด เพิ่มขึ้น 87.06 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,500.21 จุด เพิ่มขึ้น 19.06 จุด หรือ + 0.43% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,897.30 จุด เพิ่มขึ้น 8.48 จุด หรือ + 0.06%

• (-) บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งนิวไฮ 3 ปี เก็งเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีในวันนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ณ เวลา 01.03 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.654% หลังจากแตะระดับ 2.667% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2562 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.694%

• (-) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำสุดรอบกว่า 53 ปี กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 166,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2511 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 200,000 ราย

- Advertisement -

Comments
Loading...