GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 8 ธ.ค.65 by YLG

377

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เก็งกำไรจากการแกว่งตัวด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเมื่อราคาขยับขึ้นยังคงมีแรงขายสลับเข้ามากดดัน แนะนำเปิดสถานะขายหากราคาไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,790-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอปิดสถานะขายหากราคายืนเหนือแนวรับ 1,764-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

แนวรับ : 1,764 1,747 1,729  แนวต้าน : 1,795 1,809 1,824

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคำแกว่งแคบ พร้อมกับพยายามสร้างฐานเหนือ 1,767.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคำ Higher High เหนือวันทำการก่อนหน้าพร้อมกับปรับตัวขึ้นแรง โดยได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ ทั้งนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งความวิตกดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจเปลี่ยนจุดยืนการดำเนินนโยบายการเงินในปีหน้า

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินหยวน หลังจีนประกาศมาตรการผ่อนคลายการควบคุมโควิดอย่างเข้มงวดเมื่อวันพุธ รวมทั้งการอนุญาตให้ผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่รุนแรงสามารถกักตัวอยู่ที่บ้านและยกเลิกการแสดงผลตรวจ COVID-19 เป็นลบกับผู้คนที่จะเดินทางภายในประเทศ ประกอบกับมีรายงานว่าจีนได้เพิ่มทองคำสำรองจำนวน 32 ตันในเดือนพ.ย. นับเป็นการถือครองทองคำสำรองเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2019 ทำให้ปัจจุบันทองคำสำรองของจีนอยู่ที่ 1,980 ตัน ซึ่งข่าวนี้ส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำเช่นกัน ปัจจัยที่กล่าวมาหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,790.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์

- Advertisement -

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +2.03 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค

หากราคาทองคำไม่สามารถ break out ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,790-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้ราคากลับลงมาตั้งฐานราคาด้านล่างอีกครั้ง เบื้องต้นประเมินว่ากรอบแนวรับด้านล่างโซน 1,764-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,764 ระดับต่ำสุดของสัปดาห์นี้) หากราคายืนเหนือโซนนี้ได้ อาจมีแรงดีดกลับของราคาอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน

แนะนำเปิดสถานะขายทำกำไรในบริเวณ 1,790-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์  (ตัดขาดทุนหากยืน 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) และหากราคาอ่อนตัวลงทยอยปิดสถานะขายหากราคายืนเหนือบริเวณ 1,764-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) ดอลลาร์อ่อนค่า นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจถดถอย  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (7 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มวิตกกังวลว่า การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.45% แตะที่ระดับ 105.1000  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 136.32 เยน จากระดับ 136.90 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9396 ฟรังก์ จากระดับ 0.9419 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3648 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3657 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.3599 โครนา จากระดับ  10.4210 โครนา  ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0515 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0467 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2215 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2142 ดอลลาร์
  • (+) “ปูติน” ส่งสัญญาณทำสงครามยืดเยื้อในยูเครน  ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า การทำสงครามในยูเครนอาจต้องใช้ระยะเวลายาวนาน ขณะที่การสู้รบดังกล่าวดำเนินเข้าสู่เดือนที่ 10  อย่างไรก็ดี ปธน.ปูตินระบุว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเรียกระดมพลมากขึ้น   ปธน.ปูตินเปิดเผยว่า ทหารรัสเซียทั้งหมด 300,000 นายที่มีการเรียกระดมพลในช่วงต้นปีนี้ ขณะนี้ ทหาร 150,000 นายจากจำนวนดังกล่าวได้เข้าประจำการอยู่ในยูเครนแล้ว
  • (+) แบงก์ชาติแคนาดาปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แต่ส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรขึ้นดอกเบี้ย  ธนาคารกลางแคนาดาประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปี ในการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้  ธนาคารกลางระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และตลาดแรงงานที่ตึงตัวเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4.00% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา  อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางส่งสัญญาณว่าวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใกล้สิ้นสุดลงแล้ว โดยยกเลิกการใช้ข้อความที่ว่า “ธนาคารกลางยังคงจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป” ในแถลงการณ์หลังการประชุม
  • (+) บอนด์ยีลด์สหรัฐร่วงก่อนประชุมเฟด จับตา “พาวเวล” ส่งสัญญาณดอกเบี้ยปี 66  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า  ณ เวลา 23.14 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.468% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 3.475%  นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 13-14 ธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566

- Advertisement -

Comments
Loading...