GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 8 ก.ย.64 by HGF

274

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำปรับลงแรง เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาก

คืนนี้ติดตามรายงาน Beige Book

ทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,790 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำSpot เมื่อวานในช่วงกลางวันปรับขึ้นเนื่องจากตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะชะลอการปรับลดวงเงินมาตรการ QE แต่ในช่วงกลางคืนราคาทองคำปรับลงแรงหลุด 1,800 ดอลลาร์เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาก และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.373%ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน
  • คืนนี้ติดตามรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด12 เขตในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)  จะนำข้อมูล Beige Book มาใช้ประกอบการตัดสินใจนโยบายการเงินในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.ส่วนคืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือนก.ค. ตลาดคาดจะลดลงเหลือ 10.03ล้านตำแหน่ง
  • หลังจากที่ราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญ 1,833 ดอลลาร์ได้ ทำให้เกิดสัญญาณของการปรับฐานลงดังนั้นแนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหว Sideways down โดยคาดทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,790 ดอลลาร์และ 1,780 ดอลลาร์ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,810 ดอลลาร์และ 1,820ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,794.10-28.941,790/1,7801,810/1,820

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,05027,700/27,55028,000/28,150

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
27,940-16027,850/27,72028,150/28,280

เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคาทอง Spot ระหว่าง 1,790-1,810ดอลลาร์(GF27,850-28,150บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,794.40-17.001,791/1,7811,811/1,821

เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคา GOU21ระหว่าง 1,791-1,811ดอลลาร์

- Advertisement -

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดอ่อนค่าลงต่อเนื่องทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐหรือ Beige Book ในวันนี้ส่วนสถานการณ์โควิดในประเทศจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ค่อนข้างทรงตัว ซึ่งUSD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.40 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 32.70บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลักหลังบอนด์ยีลด์พุ่ง

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐหรือBeige Book ในวันพุธนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.32% แตะที่ 92.5126 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดร่วง $35.2 เหตุดอลล์แข็ง-บอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,800 เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาดทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 35.2 ดอลลาร์หรือ 1.92% ปิดที่ 1,798.5 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 42.9 เซนต์หรือ 1.73% ปิดที่ 24.373 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดลบ 94 เซนต์เหตุดอลล์แข็ง-ซาอุฯลดราคาน้ำมันลูกค้าเอเชีย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และจากการที่ซาอุดีอาระเบียประกาศลดราคาน้ำมันดิบให้กับลูกค้าในเอเชียสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 94 เซนต์หรือ 1.4% ปิดที่ 68.35 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 53 เซนต์หรือ 0.7% ปิดที่ 71.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดร่วง 269.09 จุดวิตกไวรัสเดลตาฉุดเศรษฐกิจ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างไรก็ดีดัชนีNasdaqปิดทำนิวไฮโดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,100.00 จุดลดลง 269.09 จุดหรือ -0.76% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,520.03 จุดลดลง 15.40 จุดหรือ -0.34% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,374.33 จุดเพิ่มขึ้น 10.81 จุดหรือ +0.07%

โกลด์แมนแซคส์หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐเหตุผู้บริโภคลดใช้จ่ายขณะเดลตาระบาด

โกลด์แมนแซคส์ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้โดยคาดว่าชาวอเมริกันมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายน้อยลงในช่วงเวลาที่ไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดอย่างหนักนายรอนนีวอล์คเกอร์นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมนแซคส์เปิดเผยในรายงานคาดการณ์ล่าสุดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง5.7%ในปีนี้ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ6%   “ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มปรากฎให้เห็นมากขึ้นซึ่งได้แก่การระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่กำลังสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจในไตรมาส3, มาตรการกระตุ้นด้านการคลังที่เริ่มแผ่วลงและการฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าของภาคบริการซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในระยะกลาง” นายวอล์คเกอร์กล่าวพร้อมระบุว่า “ผู้บริโภคชาวอเมริกันจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากกว่าที่เราคาดไว้ในเบื้องต้น”   นอกจากนี้โกลด์แมนแซคส์ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราว่างงานของสหรัฐในปีนี้ขึ้นสู่ระดับ4.2%จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ4.1%การปรับทบทวนตัวเลขคาดการณ์ของโกลด์แมนแซคส์มีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง235,000ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่720,000ตำแหน่งและน้อยกว่าเดือนก.ค.ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง1,053,000ตำแหน่งซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาข้อมูลจากหนังสือพิมพ์USA Today เมื่อวันจันทร์ (6ก.ย.) ระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19รายวันในสหรัฐพุ่งขึ้น316%นับตั้งแต่วันแรงงานในปี2563และอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลพุ่งขึ้น158%เมื่อเทียบกับช่วงวันหยุดแรงงานเมื่อปีที่แล้ว

ผลวิจัยจีนชี้ซิโนแวคเข็ม3ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานต่อเชื้อเดลตาได้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างผลการวิจัยจากจีนว่าการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่3ด้วยซิโนแวคสามารถเพิ่มแอนติบอดีที่ค่อยๆลดลงให้ดันสูงขึ้นมาได้ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวได้ช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันในระยะยาวต่อเชื้อไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้และสถาบันจีนอื่นๆระบุว่านักวิจัยไม่พบการทำงานของแอนติบอดีต่อต้านเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาในตัวอย่างที่เก็บจากผู้ที่เคยฉีดวัคซีน “โคโรนาแวค” ของบริษัทซิโนแวคภายหลังฉีดวัคซีนดังกล่าวครบ2โดสเป็นเวลา6เดือนแต่สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนกระตุ้นนั้นจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตามากกว่า2.5เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง2เข็มหลังจากที่ได้รับวัคซีนเข็ม3ผ่านไปราว4สัปดาห์อนึ่งผลการวิจัยดังกล่าวจัดทำโดยใช้การวิจัยตัวอย่างจากผู้เข้าร่วมโครงการ66รายโดยมีอาสาสมัคร38รายที่ได้รับวัคซีน2หรือ3โดสในปัจจุบันหลายประเทศที่พึ่งพาวัคซีนของซิโนแวคเป็นหลักในช่วงก่อนหน้านี้ได้เริ่มฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม3ให้กับประชาชนโดยเลือกใช้วัคซีนจากชาติตะวันตกซึ่งมีเงื่อนไขว่าประชาชนกลุ่มดังกล่าวจะต้องเคยได้รับวัคซีนซิโนแวคมาแล้ว2โดสอย่างไรก็ตามบางประเทศปฏิเสธที่จะใช้วัคซีนดังกล่าวโดยระบุว่ายังขาดข้อมูลด้านประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา

องค์การยาEU เผยอยู่ในระหว่างศึกษาข้อมูลการฉีดไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้น

องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) เปิดเผยว่าทางองค์การอยู่ในระหว่างการประเมินข้อมูลเกี่ยวกับการใช้วัคซีนจากไฟเซอร์/ไบออนเทคฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับกลุ่มผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไปที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วเป็นเวลา 6 เดือนทั้งนี้ไฟเซอร์และไบออนเทคได้ยื่นคำร้องต่อEMA ซึ่งระบุว่าจะดำเนินการประเมินข้อมูลอย่างรวดเร็วโดยคาดว่าจะได้ผลลัพธ์ออกมา “ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”  นอกจากนี้EMA ยังกล่าวด้วยว่าทางองค์กรกำลังประเมินข้อมูลเกี่ยวกับการใช้วัคซีนmRNA เพิ่มเติมในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอโดยผลการตรวจสอบดังกล่าวจะมีการประกาศผลเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

- Advertisement -

Comments
Loading...