เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
- Advertisement -
โดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
คำแนะนำ
เก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยอาจต้องพิจารณาโซน 1,915-1,907 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดซื้อ อย่างไรก็ตามหากราคาปรับตัวขึ้นไปไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านโซน 1,937-1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจทยอยแบ่งขายทำกำไรตามแนวต้านต่างๆ
แนวรับ : 1,907 1,890 1,870 แนวต้าน : 1,949 1,966 1,974
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.56ดอลลาร์ต่อออนซ์ตลอดทั้งวันราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากมีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่เข้ามาส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา ทั้งนี้ ราคาทองคำทดสอบกรอบบนโดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความวิตกว่ารัสเซียมีแนวโน้มเผชิญการคว่ำบาตรทางการฑูตและทางเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้น ล่าสุดสหรัฐจะแบนการลงทุนใหม่ทั้งหมดในรัสเซีย รวมถึงคว่ำบาตรสเบอร์แบงก์ (Sberbank) และอัลฟา แบงก์ (Alfa Bank) ที่เป็น 2สถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดในรัสเซีย พร้อมจะคว่ำบาตรบุตรสาวสองคนของประธานาธิบดีปูติน รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงรัสเซียคนอื่นๆ ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,933.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของทองคำยังคงถูกสกัดช่วงบวกจากแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงิน “อย่างแข็งกร้าว” ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตอกย้ำการคาดการณ์ดังกล่าวด้วยรายงานการประชุม(Minutes) รอบวันที่ 15-16 มี.ค. ที่บ่งชี้ว่ากรรมการเฟดเห็นพ้องที่จะปรับลดขนาดงบดุลลงเดือนละ9.5หมื่นล้านดอลลาร์ (พันธบัตรเดือนละ6หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนและหลักทรัพย์MBS 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน) และอาจเริ่มดำเนินการอย่างเร็วที่สุดในเดือนพ.ค.นี้ นอกจากนี้กรรมการเฟดจำนวนหลายคน(many)สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 50bps ในการประชุมที่กำลังจะมาถึงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นั่นส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 99.769 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค. 2020 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 2.6595% จึงเป็นปัจจัยที่กดดันให้เกิดแรงขายสลับออกมาเป็นระยะ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาแกว่งตัวในกรอบออกด้านข้าง หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซน 1,915-1,907 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,937-1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามหากยืนไม่ได้ ยังคงต้องระวังแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาเพิ่มเมื่อราคาปรับตัวขึ้นผ่านโซนแนวต้านดังกล่าว
กลยุทธ์การลงทุน
เน้นเก็งกำไรระยะสั้น โดยเข้าซื้อโซนแนวรับ 1,915-1,907 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์) เมื่อราคาปรับตัวขึ้นให้แบ่งขายทำกำไรหากไม่ผ่านโซนแนวต้าน 1,937-1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้ชะลอการทำกำไรไปโซนแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,966 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- Advertisement -
ข่าวสารประกอบการลงทุน
• (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 144.67 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณเร่งขึ้นดบ. ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (6 เม.ย.) หลังรายงานการประชุมเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดเห็นพ้องที่จะปรับลดขนาดของงบดุลและเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,496.51 จุด ลดลง 144.67 จุด หรือ -0.42%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,481.15 จุด ลดลง 43.97 จุด หรือ -0.97% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,888.82 จุด ลดลง 315.35 จุด หรือ -2.22%
• (+) จนท.ระดับสูงเผยสหรัฐเตรียมคว่ำบาตรลูกสาวปูติน-แบงก์ใหญ่รัสเซีย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเปิดเผยว่า ในการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่นั้น สหรัฐจะแบนการลงทุนใหม่ทั้งหมดในรัสเซีย รวมถึงคว่ำบาตรธนาคารสเบอร์แบงก์ (Sberbank) และอัลฟา แบงก์ (Alfa Bank) สองสถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดในรัสเซีย นอกจากนี้ สหรัฐจะคว่ำบาตรบุตรสาวสองคนของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงรัสเซียคนอื่น ๆ แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าทรัพย์สินจำนวนมากของนายปูตินอยู่กับสมาชิกในครอบครัว จึงพุ่งเป้าไปที่คนเหล่านั้น
• (+) จีนประณามสหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวัน ชี้ละเมิดหลักการ “จีนเดียว” จีนออกโรงคัดค้านและประณามสหรัฐที่อนุมัติการขายอาวุธให้ไต้หวันคิดเป็นมูลค่า 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกแผนการดังกล่าว นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวว่า “การที่สหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวันซึ่งเป็นดินแดนของจีน ถือเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับระหว่างจีนกับสหรัฐอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะแถลงการณ์ร่วมฉบับวันที่ 17 ส.ค. นับเป็นการบั่นทอนอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีน รวมถึงเป็นภัยร้ายแรงต่อความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ ไปจนถึงสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน” “สหรัฐควรปฏิบัติตามหลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับระหว่างจีนกับสหรัฐ ยกเลิกแผนการขายอาวุธ รวมถึงหยุดขายอาวุธให้ไต้หวันและหยุดความสัมพันธ์ทางทหารกับไต้หวัน” นายจ้าวกล่าว พร้อมกับเน้นย้ำว่าจีนจะเดินหน้าใช้มาตรการที่แข็งกร้าวในการปกป้องอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศ
• (+) ประธานคณะมนตรียุโรปชี้ EU ต้องแบนน้ำมัน-ก๊าซรัสเซียไม่ช้าก็เร็ว นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวต่อรัฐสภายุโรปว่า ไม่ช้าก็เร็วสหภาพยุโรป (EU) ต้องใช้มาตรการแบนนำเข้าน้ำมันหรือแม้กระทั่งก๊าซจากรัสเซีย นอกเหนือไปจากการแบนนำเข้าถ่านหินที่กำลังหารือกันอยู่ในขณะนี้ มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ของ EU จะต้องได้รับความเห็นชอบจากประเทศสมาชิกทั้งหมด 27 ประเทศ โดยการคว่ำบาตรรอบนี้จะเป็นรอบที่ 5 นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
• (+) สหรัฐ-ชาติตะวันตก รวมหลักฐานอาชญากรรมสงครามยูเครน เมอร์ริค การ์แลนด์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า ทางกระทรวงกำลังร่วมมือกับหน่วยงานในยูเครน ยุโรป รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในการรวบรวมหลักฐานของความเป็นไปได้ในการเกิดอาชญากรรมสงครามในยูเครน รมต. การ์แลนด์ระบุว่า อัยการฝ่ายอาชญากรรมของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ประชุมกับอัยการจากหน่วยความร่วมมือทางกระบวนการยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป หรือ Eurojust และสำนักงานตำรวจสากลแห่งสหภาพยุโรป หรือ Europol เพื่อวางแผนรวบรวมหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีการยื่นฟ้องร้องมหาเศรษฐีชาวรัสเซียคนหนึ่งด้วย
• (-) ดอลลาร์แข็งค่า หลังเฟดเผยรายงานประชุม ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (6 เม.ย.) หลังรายงานการประชุมเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดเห็นพ้องที่จะปรับลดขนาดของงบดุลและเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ 99.5990 เมื่อคืนนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 123.81 เยน จากระดับ 123.60 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9328 ฟรังก์ จากระดับ 0.9292 ฟรังก์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2519 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2472 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0905 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0909 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3066 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3081 ดอลลาร์
• (-) น้ำมัน WTI ปิดร่วง $5.73 หลังสมาชิก IEA ระบายน้ำมันสำรอง สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์ในวันพุธ (6 เม.ย.) หลังจากประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ตกลงว่าจะระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพื่อรับมือกับภาวะอุปทานตึงตัว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 5.73 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ 96.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. 2565