เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
- Advertisement -
โดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
คำแนะนำ
แนะนำซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยบริเวณแนวต้านโซน 1,849-1,863 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้นำแบ่งทองคำออกขายเพื่อรอซื้อในโซนแนวรับ 1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ : 1,827 1,811 1,786 แนวต้าน : 1,849 1,863 1,880
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 10.64 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,857.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย “อย่างแข็งกร้าว” ต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ประกอบกับนักลงทุนกลับมาปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง
ซึ่งช่วยกระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยเพิ่มเติม ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.06% ก่อนที่กระทรวงการคลังสหรัฐจะออกประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 9.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 ปีมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันอังคาร, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 ปีมูลค่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันพุธ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีมูลค่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีในสัปดาห์นี้ สถานการณ์ดังกล่าวนอกจากจะกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่มเติมแล้วนั้น ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นอีกด้วย
ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำร่วงลงหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10, 21 และ 200 วันบริเวณ 1,849-1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์จนกระทั่งสร้างระดับต่ำสุดบริเวณ 1,836.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของเช้าวันนี้ในตลาดเอเชีย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.98 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดุลการค้าของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวลงไม่มากราคาจะยังแกว่งตัวในกรอบ ซึ่งประเมินแนวรับระยะสั้นในโซน 1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- Advertisement -
กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำเปิดสถานะขายทำกำไรระยะสั้น หากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,849-1,863 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อคืนเพื่อกำไรหากราคาอ่อนตัวลง แล้วสามารถยืนเหนือโซน 1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสถานะขายตัดขาดทุนหากราคาผ่าน 1,863 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวสารประกอบการลงทุน
• (+) ปอนด์แข็งค่า เก็ง “บอริส จอห์นสัน” คว้าชัยชนะในการลงมติไม่ไว้วางใจวันนี้ ปอนด์แข็งค่าเทียบดอลลาร์และยูโรในวันนี้ โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะรอดพ้นมติไม่ไว้วางใจในพรรคอนุรักษ์นิยมวันนี้ ณ เวลา 22.56 น.ตามเวลาไทย ปอนด์แข็งค่า 0.42% สู่ระดับ 1.254 ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้น 0.59% สู่ระดับ 0.853 เทียบยูโร สำนักพนันที่ถูกกฎหมายในอังกฤษฟันธงเช่นกันว่า นายจอห์นสันจะรอดพ้นมติไม่ไว้วางใจในวันนี้
• (+) รัสเซียประกาศคว่ำบาตร “เจเน็ต เยลเลน” รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงในวันนี้ว่า รัสเซียได้ประกาศคว่ำบาตรนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ คำสั่งคว่ำบาตรดังกล่าวจะทำให้นางเยลเลนไม่สามารถเดินทางไปยังรัสเซีย ทั้งนี้ รายชื่อผู้ที่ถูกคว่ำบาตรดังกล่าวมีจำนวนรวม 61 ราย โดยรวมถึงนางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐ และผู้นำในธุรกิจสื่อหลายราย
• (+) เกาหลีใต้-สหรัฐฯ ร่วมยิงขีปนาวุธตอบโต้การทดสอบจรวดเกาหลีเหนือ กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธ 8 ลูกไปตกนอกชายฝั่งด้านตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลีในวันอาทิตย์ เพื่อตอบโต้ที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธไม่ถึงหนึ่งวันก่อนหน้านั้น สร้างความตึงเครียดยิ่งขึ้นระหว่างเพื่อนบ้านสองประเทศ การตอบโต้ล่าสุดของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ คือการส่งสัญญาณจากประธานาธิบดียูน ซุก-ยอล ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว ว่าจะมีการตอบโต้อย่างทันทีและแข็งกร้าวต่อการทดสอบขีปนาวุธและการยั่วยุของเกาหลีเหนือ
• (-) ดอลล์แข็งค่าหลังบอนด์ยีลด์พุ่งทะลุ 3% จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (6 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.29% สู่ระดับ 102.4370 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 131.98 เยน จากระดับ 130.83 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9711 ฟรังก์ จากระดับ 0.9624 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2576 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2584 ดอลลาร์แคนดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0694 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0724 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2535 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2502 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7194 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7214 ดอลลาร์สหรัฐ
• (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 16.08 จุด รับข่าวจีนผ่อนคลายมาตรการโควิด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (6 มิ.ย.) ขานรับข่าวจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในกรุงปักกิ่ง อย่างไรก็ดี ตลาดปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,915.78 จุด เพิ่มขึ้น 16.08 จุด หรือ +0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,121.43 จุด เพิ่มขึ้น 12.89 จุด หรือ +0.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,061.37 จุด เพิ่มขึ้น 48.64 จุด หรือ +0.40%
• (-) บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งทะลุ 3% ก่อนเผยตัวเลขเงินเฟ้อสัปดาห์นี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นทะลุ 3% ในวันนี้ ก่อนการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ ณ เวลา 00.16 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.032% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.182%
• (-) สหรัฐยันไม่ต้องการทำสงครามกับรัสเซีย พลเอกมาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐไม่ต้องการมีความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย “สหรัฐไม่ต้องการทำสงครามกับรัสเซีย และนาโตก็ไม่ต้องการทำสงครามกับรัสเซียเช่นกัน” พลเอกมิลลีย์กล่าว พลเอกมิลลีย์กล่าวว่า สหรัฐจะยังคงส่งยุทโธปกรณ์เพื่อช่วยเหลือยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย นอกจากนี้ พลเอกมิลลีย์เปิดเผยว่า รัสเซียเผชิญความท้าทายในการทำสงครามในยูเครน อันเนื่องจากความกล้าหาญและการเสียสละของชาวยูเครน