GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 7 ธ.ค.64 by HGF

291

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำทรงตัวระหว่าง 1,775-1,787 ดอลลาร์

คืนนี้สหรัฐจะประกาศดุลการค้าเดือนต.ค.

แนวโน้มราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,760-1,790ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานเคลื่อนไหวทรงตัวระหว่าง 1,775-1,787 ดอลลาร์ ในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า จากที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลังจากนายแพทย์แอนโทนี เฟาชี ชี้ว่ายังไม่มีข้อมูลแสดงให้เห็นว่าไวรัสดังกล่าวก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำสุทธิ 1.74 ตัน
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศดุลการค้าเดือนต.ค. ตลาดคาดว่าจะขาดดุลลดลง 66.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่ขาดดุล 80.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนก.ย. นอกจากนี้สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย. เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,760-1,790 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,790 ดอลลาร์ และ 1,800ดอลลาร์ขณะที่มีแนวรับที่ 1,760 ดอลลาร์ และ 1,750 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,777.90-4.41,760/1,7501,790/1,800

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,600+20028,200/28,05028,650/28,800

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,670+19028,330/28,17028,760/28,930

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาทอง Spot ปรับขึ้นมาที่ 1,760 ดอลลาร์ (GF 28,330บาท)โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,750ดอลลาร์ (GF28,170บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,784.00+16.301,761/1,7511,791/1,801

แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาGOZ21ปรับขึ้นมาที่ 1,761 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,751ดอลลาร์

- Advertisement -

ค่าเงิน

ทิศทางค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า ในขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาทในระยะสั้นยังมีทิศทางอ่อนค่าลง โดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.60บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน34บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์แข็งค่าตลาดคลายกังวลโอไมครอน-จับตาประชุมเฟด

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้รวมทั้งจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วยทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.23% แตะที่ 96.3361 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ :ทองปิดลบ $4.4 ดอลล์แข็งฉุดตลาด-จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ธ.ค.) โดยราคาทองถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลงl 4.4 ดอลลาร์หรือ 0.25% ปิดที่ 1,779.5 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 21.8 เซนต์หรือ 0.97% ปิดที่ 22.263 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดพุ่ง$3.23รับซาอุฯขึ้นราคาน้ำมัน-คลายกังวลโอไมครอน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ1สัปดาห์เมื่อคืนที่ผ่านมา (6ธ.ค.) หลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบที่ขายให้กับลูกค้าในเอเชียและสหรัฐนอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19สายพันธุ์โอไมครอนทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น3.23ดอลลาร์หรือ4.9%ปิดที่69.49ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น3.20ดอลลาร์หรือ4.6%ปิดที่73.08ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 646.95 จุดนักลงทุนคลายกังวลโอไมครอน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนหลังจากนายแพทย์แอนโทนีเฟาชีแพทย์ใหญ่ประจำทำเนียบขาวกล่าวว่าขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าไวรัสโอไมครอนก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงโดยการแสดงความเห็นดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจเช่นหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มอุตสาหกรรมดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,227.03 จุดเพิ่มขึ้น 646.95 จุดหรือ +1.87%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,591.67 จุดเพิ่มขึ้น 53.24 จุดหรือ +1.17% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 15,225.15 จุดเพิ่มขึ้น 139.68 จุดหรือ +0.93%

“ไบเดน” ประกาศแผนสู้โอไมครอนปูพรมฉีดวัคซีน-ตรวจเชื้อแต่ไม่ล็อกดาวน์

ประธานาธิบดีโจไบเดนประกาศมาตรการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19สายพันธุ์โอไมครอนในช่วงฤดูหนาวที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างไรก็ดีปธน.ไบเดนยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่มีการล็อกดาวน์และจะไม่ขยายข้อกำหนดการฉีดวัคซีนให้เข้มงวดมากไปกว่ามาตรการที่บังคับใช้ในปัจจุบัน “มาตรการต่อสู้ไวรัสโอไมครอนจะไม่ครอบคลุมถึงการชัตดาวน์หรือล็อกดาวน์แต่จะใช้วิธีการปูพรมฉีดวัคซีนและบูสเตอร์เป็นวงกว้างและจะมีการตรวจหาเชื้อเพิ่มขึ้นด้วย”  “ในระหว่างที่ข้อกำหนดการฉีดวัคซีนของรัฐบาลกลางกำลังได้รับการทบทวนในศาลหลายแห่งของสหรัฐนั้นทางรัฐบาลจะไม่ขยายหรือเพิ่มเติมข้อกำหนดที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งผมเชื่อว่าจะช่วยให้ชาวอเมริกันทุกคนให้การสนับสนุนแผนนี้รวมถึงจะได้รับการสนับสนุนจากสภาคองเกรส” ปธน.ไบเดนกล่าวปธน.ไบเดนระบุว่าเป้าหมายของรัฐบาลสหรัฐคือการผลักดันให้โรงเรียนยังคงเปิดการเรียนการสอนโดยได้เปิดคลินิกฉีดวัคซีนให้กับครอบครัวหลายร้อยครัวเรือนที่ศูนย์สาธารณสุขในชุมชนและพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ปกครองในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กๆ  “เราต้องการให้เด็กๆของเราไปโรงเรียนแต่แนวทางที่ดีที่สุดก็คือการฉีดวัคซีนให้กับเด็กๆ” ปธน.ไบเดนกล่าวมาตรการดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการตรวจเชื้อโควิด-19ฟรีที่บ้านโดยชาวอเมริกันที่มีประกันสุขภาพจะได้รับแจกชุดตรวจเชื้อและทางรัฐบาลจะแจกจ่ายชุดตรวจโควิด-19ฟรีจำนวน50ล้านชุดให้กับศูนย์สาธารณสุขและคลินิกในพื้นที่ห่างไกลเพื่อช่วยเหลือประชนที่ไม่มีประกันสุขภาพนอกจากนี้นับตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปสหรัฐจะกำหนดให้ผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อภายในเวลา24ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับการฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ก็ตามนอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐจะขยายเวลาการบังคับสวมหน้ากากอนามัยสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศและระบบขนส่งสาธารณะจนถึงวันที่18มี.ค. 2565ทั้งนี้ปธน.ไบเดนกล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐไม่คิดว่าจำเป็นต้องใช้มาตรการเพิ่มเติมในเวลานี้แต่สิ่งที่จำเป็นคือการผลักดันแผนการพัฒนาวัคซีนรุ่นใหม่และวัคซีนบูสเตอร์เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอน   “คณะบริหารของผมกำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทไฟเซอร์, โมเดอร์นาและจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเพื่อพัฒนาวัคซีนและบูสเตอร์นอกจากนี้เราได้สั่งการให้สำนักงานอาหารและยา (FDA) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเร่งกระบวนการอนุมัติให้เร็วขึ้นหากจำเป็น”

วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกม.งบประมาณชั่วคราวช่วยหน่วยงานรัฐรอดชัตดาวน์

วุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี (2ธ.ค.) ตามเวลาสหรัฐหรือในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยเพื่อสนับสนุนหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐให้มีงบประมาณใช้จ่ายจนถึงวันที่18ก.พ. 2565และหลีกเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานของรัฐต้องถูกปิดการดำเนินงานหรือชัตดาวน์วุฒิสภาสหรัฐได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับประธานาธิบดีโจไบเดนโดยคาดว่าปธน.ไบเดนจะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายภายในวันศุกร์นี้ (3ธ.ค.)     สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่าการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในวุฒิสภามีขึ้นไม่นานหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐให้การอนุมัติ

สหรัฐจ่อเสนอกฎหมายแบนสินค้าจากเขตซินเจียงของจีนเซ่นปมสิทธิมนุษยชน

นายจิมแม็กโกเวิร์นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่าจะมีการส่งร่างกฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าจากเขตซินเจียงของจีนให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาภายในสัปดาห์หน้าซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ดังกล่าวสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าประธานาธิบดีโจไบเดนของสหรัฐเตรียมจัดการประชุมเพื่อประชาธิปไตย (Summit for Democracy) ในสัปดาห์หน้าซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นความพยายามที่จะต่อต้านอิทธิพลของจีนที่เพิ่มพูนมากขึ้น    “สัปดาห์หน้ามีความสำคัญต่อการทำงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างยิ่งเราเห็นควรว่าต้องมีการออกกฎหมายเกี่ยวกับจีนและคาดหวังว่ากฎหมายส่วนใหญ่จะเป็นไปเพื่อสิทธิมนุษยชนร่างกฎหมายป้องกันการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์เป็นร่างกฎหมายที่เราต้องการผลักดันให้นำมาบังคับใช้จริงได้ในทางใดทางหนึ่ง” นายแม็กโกเวิร์นกล่าวในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาสมาชิกพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันได้ทุ่มเถียงกันในประเด็นร่างกฎหมายชาวอุยกูร์โดยนายมาร์โครูบิโอวุฒิสมาชิกของสหรัฐเรียกร้องว่าร่างกฎหมายนี้ควรรวมเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ (National Defense Authorization Act หรือNDAA) ซึ่งได้ทำให้การพิจารณาร่างงบประมาณของกระทรวงกลาโหมโดยวุฒิสภาต้องล่าช้าออกไปทั้งนี้หากร่างกฎหมายชาวอุยกูร์ฉบับนี้กลายเป็นกฎหมายบังคับใช้จริงก็จะเป็นการยอมรับข้อสันนิษฐานที่ว่าสินค้าทั้งหมดจากเขตซินเจียงนั้นผลิตขึ้นโดยการบังคับใช้แรงงานโดยเขตซินเจียงเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลจีนจัดตั้งค่ายกักกันจำนวนมากเพื่อควบคุมชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมกลุ่มอื่นๆ

- Advertisement -

Comments
Loading...