GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 6 มิ.ย.65 by YLG

610

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

หากราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือ 1,846-1,839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 1,863-1,873 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถปรับขึ้นไปยืนได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา

แนวรับ : 1,839 1,827 1,811  แนวต้าน : 1,873 1,889 1,909

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 16.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนบริเวณ 1,873.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงต้นของการซื้อขายในตลาดเอเชีย อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยเผชิญกับแรงขายทำกำไรและแรงขายทางเทคนิคหลังจากราคาเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป(Overbought) แต่ประเด็นที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงแรงเกิดขึ้นหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 325,000 ตำแหน่ง สะท้อนตลาดแรงงานที่ยังคงตึงตัวซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย “อย่างแข็งกร้าว” ต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ตอกย้ำการคาดการณ์ดังกล่าวด้วยความเห็นในเชิง Hawkish ของนางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์ ที่กล่าวกับ CNBC ในวันศุกร์ว่า เธออาจจะโหวตสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย 50 bps ในการประชุมเฟดเดือนก.ย.ได้อย่างง่ายดาย หากยังไม่เห็นหลักฐานที่ “น่าสนใจ” ว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว

ปัจจัยที่กล่าวมาหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่า 0.41% พร้อมกับผลักดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 2.9864% จนกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม นั่นทำให้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,846.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค

ราคาพยายามทดสอบแนวต้านที่ 1,863-1,873 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้ายังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทดสอบระดับดังกล่าวจะมีแรงขายออกมาอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,846-1,839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน

- Advertisement -

แนะนำเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,846-1,839 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ลดพอร์ตสถานะซื้อหากราคาหลุด 1,839 ดอลลาร์ต่อออนซ์) เมื่อราคาดีดตัวขึ้นให้พิจารณาโซน 1,863-1,873 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไร

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) หุ้นเทสลาร่วงหนัก หลัง “อีลอน มัสก์” เตือนศก.ส่อเค้าแย่-เล็งลดพนง. 10% ราคาหุ้นเทสลาปิดตลาดนิวยอร์กวานนี้ร่วงลง 9.22% หลังนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ นายมัสก์กล่าวว่า เขารู้สึกแย่มากเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และเตือนว่า เขาต้องปรับลดพนักงานลง 10%

• (+) ISM เผยดัชนีภาคบริการสหรัฐชะลอตัวลงในเดือนพ.ค. สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลดลงแตะระดับ 55.9 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 57.1 ในเดือนเม.ย. โดยปรับตัวลดลงมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงแตะ 56.4

• (+) ดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐปรับตัวลดลง เหตุต้นทุนเพิ่ม-ดีมานด์ลด เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 53.4 ในเดือนพ.ค. ลดลงจากระดับ 55.6 ในเดือนเม.ย.

• (+) เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธเช้าวันนี้ หลังทูตสหรัฐเดินทางออกจากกรุงโซล เกาหลีเหนือได้ทำการยิงขีปนาวุธอย่างน้อยหนึ่งลูกลงสู่ทะเลนอกชายฝั่งตะวันออก เพียงหนึ่งวันหลังนายคิม ซอง นักการทูตระดับสูงของสหรัฐเดินทางออกจากเกาหลีใต้และเรือบรรทุกเครื่องบินโรนัลด์ เรแกนของสหรัฐเสร็จสิ้นภารกิจซ้อมรบ 3 วันร่วมกับเกาหลีใต้ในทะเลฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นการซ้อมรบครั้งแรกที่มีการใช้เรือบรรทุกเครื่องบินนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2560

• (+) CDC เผยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงแล้วกว่า 700 รายทั่วโลก กำลังแพร่ระบาดในสหรัฐ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ (3 มิ.ย.) ว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงมากกว่า 700 รายแล้วทั่วโลกซึ่งรวมถึง 21 รายในสหรัฐ โดยจากการตรวจสอบในขณะนี้พบว่า โรคฝีดาษลิงกำลังแพร่ระบาดภายในสหรัฐ

• (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 348.58 จุด วิตกจ้างงานแกร่งหนุนเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (3 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การเปิดเผยข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ จะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,899.70 จุด ลดลง 348.58 จุด หรือ -1.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,108.54 จุด ลดลง 68.28 จุด หรือ -1.63% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 12,012.73 จุด ลดลง 304.16 จุด หรือ -2.47%

• (+) ผู้เชี่ยวชาญคาดเงินคริปโทฯ จำนวนมากจะพังทลาย อนาคตเหลือบล็อกเชนไม่กี่เจ้า ผู้เชี่ยวชาญหลายรายในวงการคริปโทเคอร์เรนซีเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า เหรียญดิจิทัลกว่าหลายพันเหรียญจะพังทลาย ขณะที่จำนวนแพลตฟอร์มบล็อกเชนในอนาคตข้างหน้าจะเหลือผู้ชนะไม่กี่เจ้า ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ทรุดตัวลงของราคาเหรียญสเตเบิลคอยน์ TerraUSD หรือ UST และเหรียญลูนา (Luna) จนส่งผลให้เหรียญคริปโทฯ อื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 19,000 เหรียญถูกจับตามองไปด้วยว่าเหรียญเหล่านี้จะอยู่รอดหรือไม่

• (-) ดอลล์แข็งค่า ขานรับข้อมูลจ้างงานสหรัฐแกร่งเกินคาด-ดอกเบี้ยขาขึ้น ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (3 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.31% สู่ระดับ 102.1390 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 130.83 เยน จากระดับ 129.86 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9624 ฟรังก์ จากระดับ 0.9581 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2584 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2577 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0724 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0743 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2502 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2568 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7214 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7256 ดอลลาร์สหรัฐ

• (-) สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงกว่าคาดในเดือนพ.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 325,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% รายงานดังกล่าวระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากในภาคสันทนาการและงานบริการ ไปจนถึงบริการเฉพาะทางและบริการธุรกิจ ตลอดจนภาคการคมนาคมและคลังสินค้า ส่วนภาคค้าปลีกมีการจ้างงานลดลง ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3%

- Advertisement -

Comments
Loading...