GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 6 ก.ค.65 By HGF

890

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ราคาทองคำปรับลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 7 เดือน

คืนนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC

แนวโน้มราคาทองคำคาดฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย

  • ราคาทอง Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลงอย่างร้อนแรงหลุดบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 เดือน จากที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากกดดันราคาทองคำ เนื่องจากความกังวลการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ในคืนนี้และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ในวันศุกร์นี้ ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำสุทธิ 9.86 ตันจากเมื่อวันศุกร์
  • คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 11.05 ล้านตำแหน่งจาก 11.40 ล้านตำแหน่ง และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย. โดย ISM ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 53.9 จากระดับ 55.9 ในเดือนพ.ค. และติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,760 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,750 ดอลลาร์  ขณะที่มีแนวต้าน 1,790 ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,763.80-43.431,760/1,7501,790/1,800

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
30,550+5030,000/29,90030,300/30,400

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
30,270+16030,160/29,93030,420/30,540

สามารถเปิดสถานะขายเมื่อราคาปรับขึ้นมาบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ (GF 30,540 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,810 ดอลลาร์ (GF 30,650 บาท)

- Advertisement -

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,781.40-34.201,762/1,7521,792/1,802

สามารถเปิดสถานะขายเมื่อราคา GOU22 ปรับขึ้นมาบริเวณที่  1,802 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,812 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องในหลายวันติดต่อกัน โดยค่าเงินบาทอ่อนค่ามากสุดที่ 35.87 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าจากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้แนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่าระยะสั้นอ่อนค่าได้ต่อ สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.65 มีแนวรับที่ 35.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 36 บาท/ดอลลาร์

News

ยูเครนเผยต้องใช้งบ 7.5 แสนล้านดอลล์เพื่อบูรณะประเทศ กร้าวรัสเซียต้องจ่าย

          นายเดนิส ชไมฮาล นายกรัฐมนตรียูเครนเปิดเผยว่า ยูเครนต้องใช้เงินจำนวนมากถึง 7.50 แสนล้านดอลลาร์ในแผนสามระยะเพื่อบูรณะประเทศซึ่งได้รับความเสียหายจากการรุกรานของรัสเซีย   นายกรัฐมนตรียูเครนได้กล่าวในการประชุมแผนฟื้นฟูยูเครนที่สวิตเซอร์แลนด์เป็นเจ้าภาพว่า ขณะนี้ความเสียหายโดยตรงต่อโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนจากการรุกรานสูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์แล้ว   “ในวันนี้ การสูญเสียโดยตรงที่มีต่อโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนเกินกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์แล้ว” นายชไมฮาลกล่าวและเสริมว่า “ใครกันจะเป็นผู้จ่ายเงินสำหรับแผนการบูณะซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 7.50 แสนล้านดอลลาร์แล้ว”     นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียูเครนยังกล่าวว่า รัฐบาลยูเครนเชื่อว่าแหล่งเงินทุนหลักสำหรับแผนฟื้นฟูควรเป็นทรัพย์สินที่ยึดมาจากบรรดาผู้มีอำนาจของรัสเซีย      ทั้งนี้ นายชไมฮาลระบุว่า แผนฟื้นฟูของยูเครนประกอบด้วย 3 ระยะ โดยระยะแรกเน้นที่การแก้ไขสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตประจำวันของผู้คน เช่น น้ำประปา ตลอดจนสิ่งจำเป็นเพื่อการฟื้นฟูประเทศอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเริ่มดำเนินการทันทีที่การต่อสู้สิ้นสุดลง รวมถึงที่พักอาศัยชั่วคราว โรงพยาบาล และโรงเรียน และโครงการที่มุ่งเน้นการพลิกฟื้นประเทศในระยะยาว

จนท.ระดับสูงจีน-สหรัฐหารือออนไลน์ ถกสถานการณ์ศก.-ห่วงโซ่อุปทานโลก

           นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) และหัวหน้าฝ่ายจีนในการเจรจาด้านเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระหว่างจีน-สหรัฐ ได้หารือทางออนไลน์กับนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ตามคำร้องขอของฝ่ายสหรัฐ   สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่สามารถปฎิบัติได้จริงอย่างตรงไปตรงมาในหัวข้อต่าง ๆ เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคและเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมทั่วโลก โดยการพูดคุยนั้นดำเนินไปอย่างสร้างสรรค์     ทั้ง 2 ชาติมหาอำนาจต่างเห็นพ้องกันว่า ขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรง การส่งเสริมการสื่อสารและการประสานงานด้านนโยบายมหภาคระหว่างจีนและสหรัฐมีความสำคัญอย่างยิ่ง อีกทั้งการร่วมกันรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมก็อยู่ในความสนใจของทั้ง 2 ประเทศ และทั่วโลก   ขณะเดียวกัน จีนแสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ รวมถึงการยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นสำหรับจีนและมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ ตลอดจนการปฏิบัติที่เป็นธรรมต่อวิสาหกิจของจีน   ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ตกลงที่จะดำเนินการสื่อสารระหว่างกันต่อไป

ไบเดน” เล็งยกเลิกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน หวังสกัดเงินเฟ้อพุ่ง

          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ อาจจะประกาศยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางส่วนจากจีนภายในสัปดาห์นี้ รวมทั้งประกาศมาตรการตรวจสอบการอุดหนุนภาคอุตสาหกรรมซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากหลายภาคส่วน ซึ่งรวมถึงธุรกิจเทคโนโลยี  แหล่งข่าวระบุว่า ปธน.ไบเดนยังไม่ได้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายเกี่ยวกับการระงับภาษีนำเข้าสินค้าจีน ซึ่งหากมีการบังคับใช้ ก็ถือเป็นย่างก้าวแรกที่สำคัญของการใช้นโยบายด้านความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน.ไบเดนได้จัดการประชุมหลายครั้งร่วมกับคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจ เพื่อหารือเกี่ยวกับทางเลือกในการตัดสินใจที่จะยกเลิกมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนซึ่งอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ริเริ่ม  แหล่งข่าวเปิดเผยว่า คณะบริหารของปธน.ไบเดนกำลังพิจารณาผ่อนปรนภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งกดดันให้เจ้าหน้าที่สหรัฐพยายามหาทางที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าที่ผู้บริโภคใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

- Advertisement -

Comments
Loading...