GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 5 พ.ย.64 by HGF

386

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำฟื้นตัวขึ้นหลังตอบรับผลการประชุมเฟด

คืนนี้ 1 ทุ่มครึ่งติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ

ราคาทองคำคาดจะผันผวนตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานฟื้นตัวขึ้น หลังจากราคาทองคำตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนตั้งแต่เดือนพ.ย.และคาดจะยุติมาตรการ QE ในช่วงกลางปีหน้าโดยได้ปัจจัยหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงและประธานเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่วนสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงสู่ระดับ 269,000 รายดีกว่าตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 273,000 รายไม่ได้กระทบต่อราคาทองคำทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยขายทองคำ2.66ตันเมื่อวาน
  • คืนนี้ 1 ทุ่มครึ่งติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนต.ค. ซึ่งตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 455,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 194,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ในกรณีที่ตัวเลขการจ้างงานออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้จะกระทบต่อราคาทองคำ ถ้าดีกว่าที่ตลาดคาด ราคาทองคำจะลดลง แต่ถ้าออกมาแย่กว่าตลาดคาด ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นส่วนอัตราการว่างงานเดือนต.ค.ตลาดคาดจะลดลงเป็น 4.7% จากระดับ 4.8% ในเดือนก.ย.
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะผันผวนตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนต.ค.ในคืนนี้ระยะสั้นทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์และ 1,770 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์และ 1,810 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,790.97+16.371,780/1,7701,800/1,810

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,15028,100/27,95028,350/28,500

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,450+21028,250/28,10028,530/28,690

ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนต.ค.ที่จะเปิดเผยในคืนนี้เป็นหลักการเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,250บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF28,100บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,794.40+15.701,782/1,7721,802/1,812

ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนต.ค.ที่จะเปิดเผยในคืนนี้เป็นหลักการเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำเมื่อราคา GOZ21 ปรับลงมาที่ 1,782ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,772ดอลลาร์

- Advertisement -

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะอ่อนค่าลง โดยคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.25-33.45บาท/ดอลลาร์ทั้งนี้เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สวนทางกับตลาดคาดการณ์ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขานรับข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐโดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.25บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.45บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ปอนด์อ่อนค่าหลังแบงก์ชาติอังกฤษคงดอกเบี้ยสวนทางคาดการณ์

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายสวนทางการคาดการณ์ของตลาดขณะที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขานรับข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.51% แตะที่ 94.3520 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดพุ่ง $29.6 รับบอนด์ยีลด์ร่วง-เฟดไม่เร่งขึ้นดบ.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่ายังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 29.6 ดอลลาร์หรือ 1.68% ปิดที่ 1,793.5 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์หรือ 2.93% ปิดที่ 23.911 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดร่วง $2.05 หลังโอเปกพลัสเดินหน้าเพิ่มการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 พ.ย.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสมีมติเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียอาจพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10 ล้านบาร์เรล/วันในไม่ช้านี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.05 ดอลลาร์หรือ 2.5% ปิดที่ 78.81 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2564  สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.45 ดอลลาร์หรือ 1.8% ปิดที่ 80.54 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 33.35 จุดจากแรงขายหุ้นแบงก์

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารเนื่องจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของภาคธนาคารในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำอย่างไรก็ดีดัชนีS&P500 และNasdaqยังคงปิดทำนิวไฮโดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและจากการที่นักลงทุนยังคงขานรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,124.23 จุดลดลง 33.35 จุดหรือ -0.09% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,680.06 จุดเพิ่มขึ้น 19.49 จุดหรือ +0.42% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,940.31 จุดเพิ่มขึ้น 128.72 จุดหรือ +0.81%

จีนชี้สหรัฐถอนตัวจากความตกลงปารีสทำทั่วโลกเสียเวลาแก้โลกร้อนเกือบ5ปี

เจ้าหน้าที่การทูตของจีนระบุว่าการที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์นำสหรัฐถอนตัวออกจากความตกลงปารีส (Paris Agreement) ทำให้โลกนี้เสียเวลาไปเกือบ5ปีในการดำเนินการเชิงพหุภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ  “ความไม่ต่อเนื่องของสหรัฐทำให้ประเทศทั่วโลกมีภาระร่วมกันหนักขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีส” นายเซียเจินฮวาผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและทูตพิเศษของจีนซึ่งเข้าร่วมในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศระบุสำนักข่าวซินหัวรายงานว่านายเซียได้ขอความร่วมมือให้ประเทศต่างๆร่วมกันปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพอากาศอย่างเป็นรูปธรรมขณะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (COP 26) ขององค์การสหประชาชาติ (UN)    “เพื่อควบคุมอุณหภูมิพื้นผิวโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน2องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมและพยายามควบคุมไม่ให้เกิน1.5องศาเซลเซียสตามเป้าหมายของความตกลงปารีสปี2558สิ่งสำคัญนั้นอยู่ที่การลงมือทำไม่ใช่แค่การป่าวประกาศสโลแกน”   นายเซียยังได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีสโดยเป็นหนึ่งเดียวกันสอดคล้องตามกฎเกณฑ์และหลักการทางวิทยาศาสตร์นำไปสู่การปฏิบัติและประสบผลสำเร็จนอกจากนี้เขายังกล่าวว่าการดำเนินการเหล่านี้ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมความก้าวหน้าของนวัตกรรมเทคโนโลยีและความร่วมมือด้านกลไกพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพ

FBI ชี้สหรัฐเผชิญภัยคุกคามทั้งจากกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศและกลุ่มIS

นายทิโมธีแลงแกนรองผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ฝ่ายข่าวกรองเปิดเผยต่อสภาคองเกรสในการประชุมวานนี้ (3พ.ย.) ว่าหน่วยงานตำรวจและหน่วยงานด้านความมั่นคงในสหรัฐเชื่อว่ากลุ่มหัวรุนแรงภายในประเทศโดยเฉพาะกลุ่มเชิดชูคนผิวขาวถือเป็นภัยร้ายแรงในสหรัฐที่เทียบเท่ากับกลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State) หรือISนายแลงแกนเปิดเผยต่อคณะกรรมการด้านข่าวกรองประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่าในช่วง18เดือนที่ผ่านมาFBI พบความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุร้ายแรงจากฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงภายในประเทศมากขึ้นโดยเขาระบุว่าFBI ได้ทำการสืบสวนเหตุราว2,700คดีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงภายในประเทศและพบว่ามีการโจมตีรุนแรงที่มีเป้าหมายเป็นองค์กรศาสนา18ครั้งและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต70รายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานายแลงแกนกล่าวว่าความวิตกกังวลเกี่ยวกับกลุ่มหัวรุนแรงที่มีอคติด้านชาติพันธุ์เป็นแรงจูงใจได้ทำให้FBI ตัดสินใจยกระดับความอันตรายของกลุ่มเหล่านี้ให้เทียบเท่ากับกลุ่มIS

เฟดคงดอกเบี้ย,หั่นQE เดือนละ15,000ล้านดอลลาร์สอดคล้องคาดการณ์

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ0.00-0.25%ในการประชุมวันนี้นอกจากนี้เฟดจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เดือนละ15,000ล้านดอลลาร์เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. โดยเฟดจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเดือนละ10,000ล้านดอลลาร์และปรับลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) เดือนละ5,000ล้านดอลลาร์การลดวงเงินQE ดังกล่าวจะทำให้เฟดยุติการทำQE โดยสิ้นเชิงในกลางปี2565ก่อนหน้านี้เฟดได้ทำQE เดือนละ120,000ล้านดอลลาร์โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน80,000ล้านดอลลาร์และซื้อตราสารหนี้MBS ในวงเงิน40,000ล้านดอลลาร์แถลงการณ์ของFOMC ระบุว่า “เฟดดำเนินการดังกล่าวหลังจากที่เศรษฐกิจมีความคืบหน้าอย่างมากในการไปสู่เป้าหมายของเฟดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563″อย่างไรก็ดีแถลงการณ์ระบุว่าเฟดไม่ได้มีการดำเนินการอย่างตายตัวและเฟดจะทำการปรับมาตรการหากมีความจำเป็น

- Advertisement -

Comments
Loading...