GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 5 ต.ค.64 by HGF

263

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3กังวลสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้

คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีPMIภาคบริการเดือนก.ย.

ทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways up

  • ราคาทองคำSpot เมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐซึ่งสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ ขณะที่สถาบันจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือ S&P เตือนว่า ตลาดการเงินอาจได้รับผลกระทบรุนแรงหากสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ และอาจทำให้สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงสู่ระดับ D ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน หลังจากขายทองคำ 6.98 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศดุลการค้าเดือนส.ค.ตลาดคาดจะขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่เดือนก.ค.ขาดดุล7.01 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐดัชนีPMIภาคบริการเดือนก.ย. ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 59.9 จากระดับ 61.7 ในเดือนส.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways up โดยมีปัจจัยหนุนเรื่องปัญหาการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐ ระยะสั้นทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,750 ดอลลาร์และ 1,740 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,775ดอลลาร์และ 1,787 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,768.40+8.91,750/1,7401,775/1,787

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,000+5027,950/27,80028,350/28,500

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,380+24028,160/27,96028,500/28,680

แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรที่ราคาทองคำ Spot1,750 ดอลลาร์ (GF28,160บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,740 ดอลลาร์ (GF27,960บาท) และขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,775ดอลลาร์ (GF28,500 บาท)และ 1,787 ดอลลาร์ (GF28,680 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,771.80+17.201,753/1,7431,778/1,790

แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรที่ราคา GOZ211,753ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,743ดอลลาร์และขายทำกำไรที่ราคา GOZ211,778ดอลลาร์ และ 1,790 ดอลลาร์

- Advertisement -

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆหลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นติดต่อกัน 4 สัปดาห์ ซึ่งนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ในการพิจารณาการปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.60 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 33.80บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลักจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.27% แตะที่ 93.7795 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $9.2 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.2 ดอลลาร์หรือ 0.52% ปิดที่ 1,767.6 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดพุ่ง 1.74 ดอลล์ขานรับผลประชุมโอเปกพลัส

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ต.ค.) ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันตามคาดในการประชุมเมื่อวานนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์หรือ 2.3% ปิดที่ 77.62 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนวันที่ 11 พ.ย. 2557    สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์หรือ 2.5% ปิดที่ 81.26 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2561

ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดร่วง 323.54 จุดบอนด์ยีลด์พุ่งฉุดหุ้นเทคโนฯ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นนอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่ารัฐบาลสหรัฐอาจเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,002.92 จุดลดลง 323.54 จุดหรือ -0.94% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,300.46 จุดลดลง 56.58 จุดหรือ -1.30% ดัชนีNasdaqปิดที่ 14,255.48 จุดลดลง 311.21 จุดหรือ -2.14%

เกาหลีเหนือกล่าวหาUN สองมาตรฐานปมทดสอบขีปนาวุธ

สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่าเกาหลีเหนือระบุว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ดำเนินการสองมาตรฐานเกี่ยวกับการประเมินกิจกรรมทางทหารระหว่างประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ (UN) ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติเกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือรายงานระบุว่าUNSC ได้หารือกันแบบปิดตามคำร้องขอจากสหรัฐและประเทศอื่นเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือโดยการประชุมดังกล่าวมีขึ้น1วันหลังจากเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งเป็นการทดสอบอาวุธล่าสุดรวมถึงการเปิดตัวขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกรุ่นใหม่ขีปนาวุธนำวิถีและขีปนาวุธร่อนที่มีขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ทางด้านนายโจชอลซูผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายองค์กรระหว่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือได้แสดงความไม่พอใจต่อการประชุมดังกล่าวโดยระบุว่าการประชุมของUNSC หมายถึงการเพิกเฉยและการละเมิดต่ออำนาจอธิปไตยนอกจากนี้ยังถือเป็นการยั่วยุที่ไม่สามารถอดกลั้นได้นายโจกล่าวหาว่าUNSC ดำเนินการอย่างสองมาตรฐานขณะยังคงนิ่งเงียบเกี่ยวกับการซ้อมรบร่วมของสหรัฐและการทดสอบอาวุธกับบรรดาพันธมิตรแต่กลับมีปัญหากับกิจกรรมการป้องกันตัวของเกาหลีเหนือ

ผู้เชี่ยวชาญเตือนตลาดหุ้นสหรัฐยังไม่พร้อมตั้งรับเงินเฟ้อหวั่นเฟดหั่นQE กระทบตลาด

ศาสตราจารย์เจเรมีซีเกลผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจากWharton School ส่งสัญญาณเตือนถึงความสามารถในการรับมือภาวะเงินเฟ้อของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท   “เรากำลังเผชิญกับปัญหาบางอย่างที่รออยู่ข้างหน้าโดยทั่วไปนั้นภาวะเงินเฟ้อมักเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าเฟดคาดการณ์ไว้มาก” ศาสตราจารย์ซีเกลให้สัมภาษณ์ในรายการ “Trading Nation” ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีทั้งนี้ซีเกลมองว่าความเสี่ยงที่รุนแรงที่สุดที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกำลังเผชิญอยู่ก็คือการที่นายเจอโรมพาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มที่เฟดจะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นซีเกลยังกล่าวว่า “เราต่างทราบดีว่าภาวะความผันผวนในตลาดตราสารทุนโดยส่วนใหญ่นั้นเกี่ยวข้องกับสภาพคล่องที่เฟดเป็นผู้กำหนดหากมีการปรับลดวงเงินQE เร็วขึ้นหมายความว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยย่อมเกิดขึ้นเร็วกว่านั้น”    ซีเกลยังได้เตือนถึงความเสี่ยงที่รุนแรงที่เชื่อมโยงกับราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยระบุว่า “เฟดจะเผชิญแรงกดดันที่ต้องเร่งกระบวนการปรับลดวงเงินQE แต่ผมไม่เชื่อว่าตลาดจะพร้อมสำหรับการปรับลดQE”ขณะเดียวกัน

สหรัฐเรียกร้องจีนหยุดส่งเครื่องบินโฉบยั่วยุใกล้น่านฟ้าไต้หวัน สหรัฐเรียกร้องให้จีนหยุดการกระทำที่สร้างแรงกดดันและยั่วยุไต้หวันหลังจำนวนครั้งที่เครื่องบินรบของจีนบินเข้าใกล้ไต้หวันต่อวันเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์พร้อมระบุว่าความคลื่อนไหวทางทหารของจีนกำลังทำลายเสถียรภาพและเสี่ยงที่จะนำไปสู่การคำนวณผิดพลาดนายเน็ดไพรซ์โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า “ความมุ่งมั่นของสหรัฐต่อไต้หวันนั้นแข็งแกร่งและมีส่วนช่วยรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันและภายในภูมิภาค”   กระทรวงกลาโหมของไต้หวันเปิดเผยว่าเครื่องบินที่เข้าใกล้ไต้หวันเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางการทหารของจีนในช่วงที่จีนยังคงฉลองการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างต่อเนื่องโดยเครื่องบินของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA) ของจีนทำการบินเข้าใกล้น่านฟ้าไต้หวัน16ครั้งในวันอาทิตย์หลังจากก่อนหน้านั้นเกิดขึ้น39ครั้งในวันเสาร์และ38ครั้งในวันศุกร์นายไพรซ์กล่าวว่า “สหรัฐกังวลอย่างมากกับการยั่วยุทางทหารจากจีนใกล้กับไต้หวันซึ่งเป็นการทำลายเสถียรภาพเสี่ยงต่อการคำนวณผิดพลาดและบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเราขอเรียกร้องให้จีนหยุดใช้แรงกดดันทางทหารการทูตและเศรษฐกิจรวมถึงหยุดข่มขู่ไต้หวัน”        

- Advertisement -

Comments
Loading...