GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 4 ก.ค.65 by YLG

474

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

บริเวณ 1,797-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุด แนะนำเสี่ยงเข้าซื้อ เพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว ทั้งนี้ สามารถทยอยแบ่งปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,821-1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,797 1,784 1,769  แนวต้าน : 1,821 1,834 1,84

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกซึ่งกระตุ้นแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัยอย่างดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับกระตุ้นแรงขายสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียซึ่งเป็นสกุลเงินเสี่ยงให้ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ 1,784.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวในเวลาต่อมา โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อ Buy the dip และแรงซื้อทางเทคนิค หลังทองคำเข้าสู่ภาวะขายมากเกินไป(Oversold) ประกอบกับสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หรือ นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2020 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.9 สะท้อนกิจกรรมในภาคการผลิตของสหรัฐที่ชะลอตัวลง

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.882% จากแรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน ซึ่งส่งผลหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม ปัจจัยที่กล่าวมาช่วยหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันกว่า 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนกระทั่งขึ้นมาปิดตลาดเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในที่สุด

- Advertisement -

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -8.41 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในวันนี้อาจเบาบางกว่าปกติ เนื่องจากตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดทองคำของสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค

หลังจากราคาทิ้งตัวลงแรง ราคามีการดีดตัวกลับขึ้นมา หากรักษาระดับได้ทำให้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,821 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้น หากยืนได้แข็งแกร่งมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบ โดยจะมีแนวต้านถัดไป 1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดวันก่อนหน้า) ขณะที่แนวรับนั้นอยู่ในบริเวณ 1,797-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ระดับต่ำสุดของเดือนก.ค.)

กลยุทธ์การลงทุน

เสี่ยงเปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,797-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ อาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,821-1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้ถือสถานะซื้อต่อ

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) สหรัฐจับตาสถานการณ์จีน-ไต้หวันใกล้ชิด มั่นใจจีนยังไม่โจมตี  พลเอกมาร์ก มิลลีย์ ประธานผู้บัญชาการร่วมกองกำลังสหรัฐ เปิดเผยว่า การโจมตีไต้หวันของจีนคงจะยังไม่เกิดขึ้น แต่สหรัฐจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด  พลเอกมิลลีย์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า จีนได้พัฒนาศักยภาพในการโจมตีในระดับหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด แต่การที่จะตัดสินใจโจมตีหรือไม่นั้น เรื่องนี้จะเป็นทางเลือกด้านการเมือง
  • (+) บัลแกเรียไม่สนรัสเซียยื่นคำขาดให้ทบทวนการขับนักการทูตหมีขาว  นายคิริล เพตคอฟ นายกรัฐมนตรีบัลแกเรีย ปฏิเสธคำขู่ของรัสเซียที่ต้องการให้รัฐบาลทบทวนการตัดสินใจในการขับไล่นักการทูตรัสเซียออกจากประเทศ  “เราจะไม่ยอมให้บัลแกเรียหันหลังกลับ และจะไม่ยอมให้นักการทูตต่างชาติมายื่นคำขาด” นายเพตคอฟกล่าว  ก่อนหน้านี้ นายเพตคอฟประกาศขับนักการทูตรัสเซียจำนวน 70 คนออกจากประเทศในสัปดาห์นี้ เนื่องจากทำการจารกรรมข้อมูลในบัลแกเรีย  อย่างไรก็ดี ทำเนียบเครมลินยื่นคำขาดให้รัฐบาลบัลแกเรียทบทวนการตัดสินใจดังกล่าวภายในเวลาเที่ยงของวันนี้ (30 มิ.ย.) มิฉะนั้นรัสเซียจะปิดสถานทูตในบัลแกเรีย
  • (+) นิวยอร์กไทม์สเผยผลสำรวจชี้ชาวอเมริกันไม่มั่นใจมากขึ้นต่อเศรษฐกิจ  หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ชาวอเมริกันมีความไม่มั่นใจมากขึ้นต่อเศรษฐกิจ, ภาวะเงินเฟ้อ รวมทั้งตลาดแรงงาน  ทั้งนี้ ชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่จำนวน 52% ในการสำรวจ ยอมรับว่าพวกเขามีสถานะทางการเงินย่ำแย่กว่าในปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าระดับ 41% ในการสำรวจในเดือนเม.ย. และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการสำรวจเมื่อ 5 ปีก่อน  นอกจากนี้ ชาวอเมริกันเพียง 14% ระบุว่ามีสถานะทางการเงินดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการสำรวจ
  • (+) ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐต่ำสุดรอบ 2 ปีในเดือนมิ.ย.  สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.9 จากระดับ 56.1 ในเดือนพ.ค.
  • (+) เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยใกล้เป็นจริง หลังเฟดคาด GDP -1.0% ใน Q2/65  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มหดตัว 1.0% ในไตรมาส 2/65 จากเดิมที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มขยายตัว 0.3%  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มหดตัว 1.0% ในไตรมาส 2/65 จากเดิมที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มขยายตัว 0.3%
  • (+) “วอยเอเจอร์” โบรกเกอร์คริปโทฯรายใหญ่สั่งระงับธุรกรรมทั้งหมด อ้างตลาดแย่  วอยเอเจอร์ ดิจิทัล (Voyager Digital) โบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐเปิดเผยแถลงการณ์ในวันศุกร์ (1 ก.ค.) ระบุว่า บริษัทได้สั่งระงับการซื้อขายทั้งหมดของลูกค้า รวมถึงการฝาก, การถอน และการแจกรางวัลให้กับลูกค้า
  • (-) ดอลลาร์แข็งค่าจากแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัย  สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ขณะที่เงินปอนด์ของอังกฤษอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตของสหราชอาณาจักรที่อ่อนแอ  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.43% แตะที่ระดับ 105.1400  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 135.25 เยน จากระดับ 135.55 เยน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9599 ฟรังก์ จากระดับ 0.9535 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2888 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2871 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0428 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0483 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าแตะที่ระดับ 1.2096 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2182 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6819 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6907 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 321.83 จุด นลท.ประเดิมซื้อหุ้นวันแรกของไตรมาส 3  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นอย่างมากในวันศุกร์ (1 ก.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นในวันแรกของช่วงครึ่งปีหลังก่อนวันหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยตลาดจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,097.26 จุด เพิ่มขึ้น 321.83 จุด หรือ +1.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,825.33 จุด เพิ่มขึ้น 39.95 จุด หรือ +1.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,127.85 จุด เพิ่มขึ้น 99.11 จุด หรือ +0.90%

- Advertisement -

Comments
Loading...