GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 3 ส.ค.65 by YLG

431

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เน้นการซื้อเก็งกำไรระยะสั้น เข้าซื้อในบริเวณ 1,754-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์) พิจารณาขายเพื่อหวังทำกำไรช่วงสั้นหากไม่ผ่านแนวต้าน 1,772-1,788 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,747 1,729 1,711  แนวต้าน : 1,771 1,788 1,803

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 11.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาปรับตัวขึ้นก่อนในช่วงตลาดเอเชีย ยุโรปและช่วงต้นของตลาดสหรัฐ โดยมีปัจจัยหลักที่หนุนทอง 2 ประการ ได้แก่ (1.) แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เดินทางไหยังไต้หวัน แม้จะเผชิญคำขู่จากจีนอย่างต่อเนื่อง และ (2.) ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลงเกินคาดสู่ระดับ 10.7 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2021 ปัจจัยที่กล่าวมาหนุนให้ทองคำทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนบริเวณ 1,788.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำปรับตัวลงแรงในเวลาต่อมา ส่วนหนึ่งเกิดจากแรงขายทำกำไรหลังจากนางเพโลซีถึงไต้หวันโดยปราศจากเหตุการณ์รุนแรง อีกส่วนหนึ่งมาจากแรงขายทางเทคนิค แต่ปัจจัยกดดันสำคัญ คือ การแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ขานรับถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ทั้งนางแมรี เดลี ประธานเฟดซานฟรานซิสโกที่คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปก่อนจากนั้นจะ “คง” อัตราดอกเบี้ยไว้ “ชั่วขณะหนึ่ง”

- Advertisement -

ส่วนนางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์ ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราเงินเฟ้อยังไม่ถึงจุดสูงสุดและจำเป็นต้องเห็นหลักฐานที่ชัดเจนเป็นเวลาหลายเดือนว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่บนเส้นทางที่ยั่งยืนที่จะลดลงสู่เป้าหมาย 2% ของเฟด ก่อนที่ผู้กำหนดนโยบายจะผ่อนคลายนโยบายการเงินได้ ขณะที่นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดเซ็นต์หลุยส์ กล่าวว่า หากอัตราเงินเฟ้อไม่ปรับตัวลงตามที่คาดไว้ อัตราดอกเบี้ยจะต้องยังคง “สูงขึ้นไปอีกนาน” สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ทองคำร่วงลงเกือบ 30 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดในระหว่างวันปิดตลาดบริเวณ 1,759.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.90 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการและยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน

จจัยทางเทคนิค

หลังจากราคาทิ้งตัวลงแรงวานนี้ มีแรงซื้อดันให้ราคาฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง ทั้งนี้ ในระยะสั้นหากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับโซน 1,754-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้มีแนวโน้มดันขึ้นสู่บริเวณ 1,772-1,788 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามในโซนดังกล่าวขึ้นไป ต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะออกมา หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านโซนดังกล่าวได้

กลยุทธ์การลงทุน

หากราคาไม่หลุด 1,754-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สามารถเปิดสถานะซื้อ เพื่อหวังทำกำไรจากการดีดตัวระยะสั้น อย่างไรก็ตาม อาจดูแรงซื้อแรงขายในช่วงนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่หากราคาดีดกลับแต่ไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านโซน 1,772-1,788 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งขายทำกำไร

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 402.23 จุด วิตกข่าวเพโลซีเยือนไต้หวัน  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดในวันอังคาร (2 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันและสร้างความไม่พอใจให้กับจีน  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,396.17 จุด ร่วงลง 402.23 จุด หรือ -1.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,091.19 จุด ลดลง 27.44 จุด หรือ -0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,348.76 จุด ลดลง 20.22 จุด หรือ -0.16%
  • (+) สหรัฐเผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานต่ำกว่าคาดในเดือนมิ.ย.  สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 605,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.7 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2564 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 11.14 ล้านตำแหน่ง
  • (+) จีนประกาศระงับนำเข้าอาหาร,ขนมจากบริษัทส่งออกไต้หวัน  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลจีนได้สั่งระงับการนำเข้าขนมบิสกิตและขนมอบจากบริษัทส่งออกจำนวน 35 แห่งของไต้หวัน ซึ่งมีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) ก่อนที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะเดินทางเยือนไต้หวันในวันนี้  ทั้งนี้ จากจำนวนบริษัทไต้หวัน 107 แห่งที่จดทะเบียนกับกรมศุลกากรของจีนภายใต้หมวดขนมบิสกิต ขนมอบ และขนมปังนั้น บริษัทจำนวน 35 แห่งได้ถูกระบุว่า “ระงับการนำเข้า”  นอกจากนี้ ในจำนวน 3,200 แห่งที่จดทะเบียนภายใต้หมวดอาหาร บริษัท 2,066 แห่งถูกระบุว่า “ระงับการนำเข้า”
  • (+) กองทัพจีนขู่เช็คบิลไต้หวัน ตอบโต้การเดินทางของ “เพโลซี”  กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ออกแถลงการณ์เตือนว่า จีนจะดำเนินการทางทหารโดยมีเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เพื่อตอบโต้ต่อการเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ  “PLA มีความพร้อมอย่างเต็มที่ และจะดำเนินการทางทหารต่อเป้าหมายหลายแห่งเพื่อตอบโต้การเดินทางดังกล่าวเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพเหนือดินแดน ขณะที่ป้องกันการแทรกแซงจากภายนอก และความพยายามของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวัน” แถลงการณ์ระบุ
  • (+) จีนออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐ หลัง “เพโลซี” เดินทางถึงไต้หวัน  กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ในวันนี้ หลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เดินทางถึงไต้หวัน  แถลงการณ์ของจีนได้ประณามการเดินทางดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรากฐานความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน ขณะที่ทำลายเสถียรภาพและสันติภาพในช่องแคบไต้หวันแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า จีนคัดค้านและไม่สามารถยอมรับการเดินทางเยือนไต้หวันของสมาชิกรัฐสภาสหรัฐ รวมถึงการเดินทางของนางเพโลซี ซึ่งเป็นประธานสภาคองเกรส
  • (+) “เพโลซี” เตรียมพบปธน.ไต้หวันวันนี้ เมินจีนขู่ซ้อมรบ-ทดสอบขีปนาวุธ  นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งเดินทางถึงไต้หวันเมื่อช่วงค่ำของวันอังคาร (2 ส.ค.) มีแผนที่จะพบปะกับนางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันและจะจัดแถลงข่าวร่วมกันในวันนี้เวลาประมาณ 10.53 น.ตามเวลาท้องถิ่น  สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นางเพโลซีเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนแรกของสหรัฐในรอบ 25 ปีที่เดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งส่งผลให้จีนประกาศว่าจะทำการทดสอบขีปนาวุธและจัดการซ้อมรบในบริเวณใกล้กับช่องแคบไต้หวัน และถือเป็นการใช้มาตรการเชิงรุกทางทหารที่แข็งกร้าวที่สุดของจีนในรอบหลายสิบปี  ทั้งนี้ นางเพโลซีแถลงหลังจากเดินทางถึงไต้หวันว่า การเยือนไต้หวันของเธอในครั้งนี้ไม่ได้ขัดแย้งกับจุดยืนด้านนโยบายของสหรัฐแต่อย่างใด และสหรัฐยังคงต่อต้านความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสถานภาพของไต้หวันแต่เพียงฝ่ายเดียว
  • (-) ดอลล์แข็งค่า นลท.ซื้อสกุลเงินปลอดภัยหลังสัมพันธ์จีน-สหรัฐตึงเครียด  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (2 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันและสร้างความไม่พอใจให้กับจีน  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.75% แตะที่ระดับ 106.2410  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 132.97 เยน จากระดับ 131.83 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9570 ฟรังก์ จากระดับ 0.9506 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2855 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2847 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0175 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0257 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2168 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2255 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6925 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7022 ดอลลาร์สหรัฐ

- Advertisement -

Comments
Loading...