เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
- Advertisement -
โดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
คำแนะนำ
เน้นทำกำไรจากการแกว่งตัวในกรอบ โดยหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,950-1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ เข้าซื้อคืนหากราคาอ่อนตัวลงไม่แนวรับบริเวณ 1,914-1,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ : 1,914 1,895 1,873 แนวต้าน : 1,958 1,975 1,997
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดลดลง 16.35ดอลลาร์ต่อออนซ์แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,947.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ท่ามกลางแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากความวิตกว่าสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียจะรุนแรงและยืดเยื้อมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาทองคำเผชิญกับแรงขายทำกำไรในเวลาต่อมา นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยอื่นๆได้แก่ (1.) นักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง(Risk on) ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้น เห็นได้จากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 600 จุดในวันพุธ ซึ่งบั่นทอนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ (2.) การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐจาก ADPที่เพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง และ (3.) ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กล่าวต่อสภาคองเกรสเมื่อวันพุธยืนยันว่าเขามีแนวโน้มจะเสนอและสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 25bpsในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้และ “เตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนไหวในเชิงรุกมากขึ้น” หากอัตราเงินเฟ้อไม่ลดลงรวดเร็วดังที่คาดแม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคตก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10ปีฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่1.6817%สู่ระดับ1.878% จนกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงททดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,914.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +7.84 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการแถลงต่อของคองเกรสเป็นวันที่ 2 ของประธานเฟด พร้อมติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ดัชนีภาคบริการจากมาร์กิตและ ISM และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐ
- Advertisement -
ปัจจัยทางเทคนิค :
หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,950-1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้งยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเพิ่มขึ้น และหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นจำกัดประเมินแนวรับระยะสั้นในโซน 1,914-1,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน :
เน้นทำกำไรระยะสั้นโดยเปิดสถานะขาย โดยใช้บริเวณ 1,950-1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (หากผ่าน 1,975 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สถานะขายให้ตัดขาดทุน) ขณะที่หากราคาอ่อนตัวลงแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะขายทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,914-1,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนไม่อยู่สามารถถือสถานะขายต่อ
ข่าวสารประกอบการลงทุน :
- (+) ยูเอ็นลงคะแนนเสียงท่วมท้นเรียกร้องรัสเซียถอนทหารจากยูเครนทันทีสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีมติเรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากยูเครนโดยทันที มติดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสมาชิก 141 ประเทศ จากทั้งหมด 193 ประเทศ ขณะที่ 35 ประเทศงดออกเสียง ซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ แอฟริกาใต้ และเวียดนาม ส่วน 5 ชาติ ซึ่งได้แก่ รัสเซีย เบลารุส ซีเรีย เกาหลีเหนือ และเอริเทรีย ลงคะแนนเสียงคัดค้าน
- (+) สหรัฐเผยคำสั่งห้ามเครื่องบินรัสเซียใช้น่านฟ้ามีผลบังคับใช้ในวันนี้กระทรวงการขนส่งและสำนักงานการบินสหรัฐ (FAA) ออกแถลงการณ์ระบุว่า คำสั่งห้ามเครื่องบินรัสเซียใช้น่านฟ้าสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย เครื่องบินที่จะได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าว ได้แก่ เครื่องบินโดยสารและเครื่องบินขนส่งสินค้า รวมทั้งเครื่องบินเช่าเหมาลำ กระทรวงฯระบุว่ามาตรการดังกล่าวมีขึ้นตามคำสั่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน นอกจากนี้ เครื่องบินรัสเซียที่ขณะนี้จอดอยู่ในสหรัฐจะต้องขออนุญาตเพื่อนำเครื่องบินออกจากประเทศ
- (+) ยูเครนเรียกร้องนานาชาติปลดรัสเซียพ้นสมาชิกถาวร UNSCนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า ยูเครนต้องการให้มีการพิจารณาทบทวนสิทธิของรัสเซียในการเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) “เราเชื่อมั่นว่าหากมีการศึกษาข้อกฎหมายก็จะพบว่ารัสเซียมีความไม่ชอบธรรมและทำผิดกฎหมายในการอยู่ในคณะมนตรีความมั่นคง” นายคูเลบากล่าว
- (+) ทำเนียบขาวเผยสหรัฐอาจคว่ำบาตรอุตฯน้ำมันรัสเซีย แต่จะพิจารณาผลกระทบก่อนทำเนียบขาวเผยสหรัฐอาจคว่ำบาตรอุตฯน้ำมันรัสเซีย แต่จะพิจารณาผลกระทบก่อน นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐเปิดกว้างที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย แต่ก็จะพิจารณาถึงผลกระทบต่อตลาดโลกและราคาพลังงานในสหรัฐก่อนที่จะมีการดำเนินการดังกล่าว
- (+) กองทัพรัสเซียรุกคืบเข้าใกล้กรุงเคียฟทุกขณะนายวิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวว่า กองทัพรัสเซียกำลังเข้าใกล้กรุงเคียฟทุกขณะ “เรามีความพร้อม และจะปกป้องกรุงเคียฟ โดยเคียฟจะยืนหยัดอยู่ได้” นายคลิตช์โกกล่าว
- (+) ดอลล์อ่อนค่าเล็กน้อย ตลาดจับตาสถานการณ์ยูเครน ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (2 มี.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาสถานการณ์ยูเครน รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% แตะที่ 97.3850 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2651 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2739 ดอลลาร์แคนาดา อย่างไรก็ดี ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 115.55 เยน จากระดับ 114.87 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9204 ฟรังก์ จากระดับ 0.9189 ฟรังก์ ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1123 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1131 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3372 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3314 ดอลลาร์
- (-) ADP เผยการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐพุ่งเกินคาดในเดือนก.พ.ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง
- (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 596.40 จุด รับพาวเวลส่งสัญญาณขึ้นดบ.น้อยกว่าคาดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 600 จุดในวันพุธ (2 มี.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักลงทุนวิตกกังวล นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,891.35 จุด เพิ่มขึ้น 596.40 จุด หรือ +1.79%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,386.54 จุด เพิ่มขึ้น 80.28 จุด หรือ +1.86% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,752.02 จุด เพิ่มขึ้น 219.56 จุด หรือ +1.62%
- (+/-) “พาวเวล” ส่งสัญญาณเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เดือนนี้ ขณะจับตาวิกฤตยูเครนนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดจะยังคงทำตามแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อแนวโน้มในอนาคต “สิ่งบ่งชี้สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐมีความไม่แน่นอนอย่างมาก และเราจะจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” นายพาวเวลกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้