GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 3 พ.ย.64 by HGF

277

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำลดลง จากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

คืนนี้ติดตามการประชุมเฟดจะประกาศลดวงเงินQE หรือไม่

ราคาทองคำคาดจะผันผวนตามผลการประชุมเฟด

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานในช่วงกลางวันเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะทราบผลในคืนนี้ แต่มีแรงเทขายทองคำออกมาในช่วงกลางคืนเนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวาน
  • คืนนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะประกาศปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และเริ่มทยอยปรับลดวงเงินในเดือนนี้หรือเดือนหน้า โดยคาดว่าเฟดจะทยอยปรับลดวงเงินราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากปัจจุบัน 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือนและจะยุติมาตรการ QE ในช่วงกลางปีหน้า ทำให้ราคาทองคำอาจได้รับผลกระทบทางลบ แต่คาดราคาทองคำคงซึมซับประเด็นดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะผันผวนตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)การที่เฟดจะประกาศปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) คาดกระทบทางลบต่อราคาทองคำแต่ถ้าเป็นไปตามที่ตลาดคาดการปรับลงของราคาทองคำคาดมีกรอบที่จำกัด ระยะสั้นทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,770 ดอลลาร์และ 1,760 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์และ 1,810 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,786.10-6.461,770/1,7601,800/1,810

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,250+5027,900/27,80028,250/28,400

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,330-7028,210/28,06028,450/28,600

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำทยอยขายทำกำไรการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,060บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760 ดอลลาร์ (GF27,980 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,789.90-6.601,782/1,7721,802/1,812

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำทยอยขายทำกำไรการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำเมื่อราคา GOZ21 ปรับลงมาที่ 1,772ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,762ดอลลาร์

- Advertisement -

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20-33.40บาท/ดอลลาร์ทั้งนี้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อวานเนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะทราบผลในคืนนี้ แต่เงินบาทมีปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. โดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.40บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลลาร์แข็งค่านักลงทุนจับตาผลประชุมเฟด

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐหรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 94.0899 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดลบ $6.4 เหตุดอลล์แข็งฉุดตลาด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.4 ดอลลาร์หรือ 0.36% ปิดที่  1,789.4 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 56.6 เซนต์หรือ 2.35% ปิดที่ 23.507 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดลบ 14 เซนต์จากแรงขายทำกำไรจับตาประชุมโอเปกพลัส

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้รวมทั้งผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสในวันพฤหัสบดีที่ 4 พ.ย.นี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 14 เซนต์หรือ 0.2% ปิดที่ 83.91 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ปิดที่ 84.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 138.79 จุดทำนิวไฮตลาดจับตาประชุมเฟด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮที่เหนือระดับ 36,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 พ.ย.) ขณะที่ดัชนีS&P500 และNasdaqปิดทำนิวไฮเช่นกันขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนซึ่งรวมถึงบริษัทไฟเซอร์ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐหรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,052.63 จุดเพิ่มขึ้น 138.79 จุดหรือ +0.39% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,630.65 จุดเพิ่มขึ้น 16.98 จุดหรือ +0.37% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,649.60 จุดเพิ่มขึ้น 53.69 จุดหรือ +0.34%

จีน-รัสเซียจี้UN ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ

จีนและรัสเซียกำลังผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือด้วยการรื้อฟื้นความพยายามเมื่อปี2562ในการสั่งห้ามเกาหลีเหนือส่งออกงานประติมากรรม, อาหารทะเลและสิ่งทอพร้อมทั้งขยายขอบเขตสู่การยกเลิกเพดานการนำเข้าปิโตรเลียมกลั่นในร่างมติฉบับปรับปรุงจีนและรัสเซียมีความประสงค์ให้UNSC ซึ่งมีสมาชิก15ประเทศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้ “ด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับชีวิตของประชาชน” ในเกาหลีเหนือทั้งนี้เกาหลีเหนือได้ประสบกับมาตรการคว่ำบาตรจากUN นับตั้งแต่ปี2549เพราะผลพวงจากโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของประเทศดังกล่าวร่างมติฉบับนี้ยังบรรจุมาตรการอื่นๆที่แรกเริ่มเดิมทีได้รับการเสนอโดยรัสเซียและจีนเมื่อเกือบ2ปีก่อนรวมถึงการยกเลิกคำสั่งห้ามชาวเกาหลีเหนือทำงานในต่างประเทศและการยกเว้นโครงการความร่วมมือเกี่ยวกับการสร้างรางรถไฟและถนนระหว่างสองเกาหลีจากการคว่ำบาตรนักการทูตยูเอ็นผู้ไม่ประสงค์ออกนามหลายรายกล่าววานนี้ว่า (1พ.ย.) ร่างมติฉบับใหม่อาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนโดยในปี2562รัสเซียและจีนเคยจัดเจรจาแบบไม่เป็นทางการ2ครั้งเกี่ยวกับมติฉบับดังกล่าวแต่ไม่เคยถูกหยิบยกขึ้นมาลงมติอย่างเป็นทางการอนึ่งจีนและรัสเซียยังไม่ได้กำหนดเวลาการเจรจาร่างมติฉบับใหม่ของพวกเขาซึ่งตามธรรมเนียมแล้วมติจะต้องได้รับคะแนนสนับสนุน9เสียงและสหรัฐ, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, รัสเซียหรือจีนจะต้องงดเว้นการออกเสียงจึงสามารถผ่านการอนุมัติได้

ไบเดนมั่นใจสหรัฐบรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกได้แน่นอนแม้เผชิญแรงกดดัน

นายโจไบเดนประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยในการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือCOP26ขององค์การสหประชาติ (UN) ว่าสหรัฐจะบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่งภายในปี2573ได้แน่นอนแม้มีปัญหาท้าทายมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการเมืองภายในสหรัฐเองจากการที่ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายไปๆมาๆปธน.ไบเดนได้ร่วมการประชุมดังกล่าวร่วมกับผู้นำจากอีกกว่า100ประเทศซึ่งเปิดฉากขึ้นหลังผู้นำกลุ่มG20เพิ่งร่วมกันออกแถลงการณ์สรุปเมื่อวันที่31ต.ค. เพื่อเรียกร้องให้มีการควบคุมปัญหาโลกร้อน “อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ” แต่คำมั่นที่ขาดการดำเนินการเป็นรูปธรรมดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมบรรดานักการทูตเจรจากันอย่างเข้มข้นเป็นเวลาหลายวันแต่กลับไม่นำไปสู่ทางออกใดๆและได้ผลักภาระมหาศาลไปยังการประชุมCOP26ในสก็อตแลนด์ก่อนหน้านี้ปธน.ไบเดนให้คำมั่นว่าสหรัฐจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง50-52%ภายในปี2573เมื่อเทียบกับระดับปี2548โดยสหรัฐจะแสดงให้โลกเห็นความเป็นผู้นำว่ารัฐบาลสหรัฐสามารถดำเนินการได้จริงไม่ใช่เพียงลมปากทั้งนี้ปธน.ไบเดนได้พยายามที่จะกอบกู้ความเชื่อมั่นจากทั่วโลกหลังจากที่รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ถอนตัวออกจากความตกลงปารีสว่าด้วยการแก้ปัญหาโลกร้อนขณะที่ปธน.ไบเดนตัดสินใจกลับเข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าวทันทีหลังจากเข้ารับตำแหน่ง

สหรัฐฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19แล้วกว่า423ล้านโดส

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่าสหรัฐได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ให้ประชาชนในประเทศไปแล้วทั้งสิ้น423,005,384โดสณวันจันทร์ที่1พ.ย. และกระจายวัคซีนออกไปแล้ว518,561,375โดสตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากที่ฉีดไป422,070,099โดสเมื่อวันที่31ต.ค.  CDC ระบุว่ามีประชากร221,760,691คนได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย1โดสขณะที่192,586,927คนได้รับวัคซีนครบโดสแล้วยอดรวมวัคซีนดังกล่าวนับรวมวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19แบบ2โดสของโมเดอร์นาและไฟเซอร์/ไบออนเทครวมถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19แบบ1โดสของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

- Advertisement -

Comments
Loading...