GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 3 ก.ย.64 by YLG

326

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เก็งกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา เปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,801-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ให้ทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,823-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,796 1,775 1,751  แนวต้าน : 1,833 1,849 1,864

จจัยพื้นฐาน :

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง  5.39  ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ว่าระหว่างวันราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,817.03  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์  หลังจากสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน  โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในยูโรโซน ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าหน้าโรงงาน เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน  มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3%  และเมื่อเทียบรายปี เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 12.1% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 11.0%  อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำปรับตัวลงในเวลาต่อมา  จากแรงขายทำกำไรเพื่อปรับสถานะการลงทุนก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสำคัญในตลาดแรงงานวันนี้  นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงสู่ระดับ 340,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน อีกทั้งยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 345,000 ราย  ซึ่งสะท้อนว่าตลาดแรงงานสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้นแม้จะเผชิญกับการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้าก็ตาม  ปัจจัยในที่กล่าวมา  กดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,804.95  ดอลลาร์ต่อออนซ์  แต่แรงซื้อ Buy the dip และการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ช่วยพยุงราคาเอาไว้  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -1.74 ตัน  สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยตัวเลขตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน, รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง และดัชนี PMI ภาคการบริการของสหรัฐ  ซึ่งตัวเลขในตลาดแรงงานจะส่งผลต่อการคาดการณ์เกี่ยวกับแผนการลด QE ของเฟดจึงคาดว่าจะสร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำในคืนนี้

จจัยทางเทคนิค :

ราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้แรงซื้อยังคงถูกจำกัด สำหรับวันนี้ประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,823-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้แนวต้านสำคัญจะอยู่ในบริเวณ 1,849 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับนั้นยังประเมินในโซนคือ 1,801-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

การเข้าซื้อยังคงเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเฉพาะเมื่อตลาดปรับตัวลงมาในบริเวณแนวรับ 1,801-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุน 1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์)ขณะที่การขายทำกำไรพิจารณาในโซน 1,823-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อนค่า นลท.จับตาสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานวันนี้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้ไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.25% แตะที่ 92.2254 เมื่อคืนนี้   ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9146 ฟรังก์ จากระดับ 0.9151 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2554 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2615 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 109.96 เยน จากระดับ 109.92 เยน  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1874 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1845 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3839 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3779 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7403 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7374 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) นิวยอร์ก-นิวเจอร์ซีย์ประกาศภาวะฉุกเฉิน ขณะดับ 9 ราย หลัง “ไอดา” ถล่มรัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 รายจากเหตุอุทกภัยที่เกิดจากพายุโซนร้อนไอดา  “ดิฉันขอประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือชาวนิวยอร์กที่ได้รับผลกระทบจากพายุ” นางเคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าว  ทั้งนี้ สื่อรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 2 รายจากเหตุน้ำท่วมใหญ่และฝนตกหนักในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ขณะที่รัฐนิวยอร์กมีผู้เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งรวมถึงเด็กชายวัย 2 ขวบ
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานต่ำสุด 17เดือนนับตั้งแต่เกิดโควิดกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ340,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 จากระดับ 354,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้  นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 345,000 ราย
  • (-) บิตคอยน์พุ่งไม่หยุด ล่าสุดทะยานเหนือ $50,000 ทะลุ 1,600,000 บาทบิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานขึ้นเหนือระดับ 50,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 1,600,000 บาท แม้มีข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐ เรียกร้องให้มีการคุมเข้มการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล  ณ เวลา 19.24 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 3.85% สู่ระดับ 50,021.75 ดอลลาร์ หรือราว 1,625,000 บาท ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase  ทั้งนี้ นายแกรี เกนสเลอร์ ประธานก.ล.ต.สหรัฐ เรียกร้องให้แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลทุกแห่งให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบ เนื่องจากหากไม่ให้ความร่วมมือ แพลตฟอร์มต่างๆจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบเอง  ทางด้านนายไนเจล กรีน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท deVere Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเช่นกันว่า “สกุลเงินคริปโตจะต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบ และมีมาตรฐานที่เข้มงวดเหมือนกับระบบการเงินอื่นๆ ซึ่งการดำเนินการที่ดีที่สุดคือการทำผ่านทางแพลตฟอร์มซื้อขายต่างๆ”
  • (-) อดีตจนท.ระดับสูงสหรัฐแนะรัฐบาลไบเดนลดภาษีการค้ากับจีน เชื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างปท.นายแฟรงค์ ลาวิน อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสิงคโปร์และรองเลขาธิการฝ่ายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐเผยว่า การที่สหรัฐเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจและผู้บริโภคของสหรัฐเอง ขณะที่การลดอัตราการเก็บภาษีอาจเป็นวิธีการที่ฉลาดกว่า
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 131.29 จุด รับข้อมูลแรงงานสดใส-หุ้นพลังงานพุ่งดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน รวมทั้งการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,443.82 จุด เพิ่มขึ้น 131.29 จุด หรือ +0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,536.95 จุด เพิ่มขึ้น 12.86 จุด หรือ +0.28% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,331.18 จุด เพิ่มขึ้น 21.80 จุด หรือ +0.14%
  • (-) สหรัฐเผยขาดดุลการค้าลดลง 4.3% ในเดือนก.ค.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 4.3% สู่ระดับ 7.01 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.

- Advertisement -

Comments
Loading...