GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 28 มี.ค.65 by YLG

718

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เน้นทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยพิจารณาเปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นในโซน 1,937-1,919 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น หากราคาไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,965-1,974 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,937 1,919 1,895  แนวต้าน : 1,974 1,991 2,009

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลงแม้ราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมา “แย่เกินคาด” และ แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงเนินต่อไป ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,964.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ยังคงมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะ นอกจากนี้ราคาทองคำยังคงเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ คือ การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย “อย่างแข็งกร้าว” เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ล่าสุดCiti คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวน 4 ครั้งในปีนี้ในเดือนพ.ค. มิ.ย. ก.ค. และก.ย. และคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนต.ค.และธ.ค. ส่วน BoFAคาดเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จำนวน 2 ครั้งในเดือนมิ.ย. และก.ค. โดยมี “ความเสี่ยง” ที่การคาดการณ์เหล่านั้นจะถูกขยับมาเป็นเดือนพ.ค. และมิ.ย. ตามลำดับ ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 76.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 32.9% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นั่นทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 2.50% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2019 จนเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +5.52 ตัน ขณะที่เช้านี้ ราคาทองคำปรับตัวลงตามราคาราคาน้ำมันดิบหลังจากเมืองเซี่ยงไฮ้ประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของCOVID-19 ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ประกอบกับมีข่าวว่ารัสเซียและยูเครนจะจัดการเจรจาสันติภาพรอบใหม่ในวันที่ 29-30 มี.ค.นี้จึงกดดันทองเพิ่ม สำหรบวันนี้ติดตามการเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค

- Advertisement -

หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,965 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา) อาจส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเพิ่มขึ้น สำหรับวันนี้ประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,965-1,974 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้แนวต้านสำคัญจะอยู่ในบริเวณ 1,991 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขณะที่แนวรับระยะสั้นยังประเมินในโซน 1,937 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับถัดไปที่ 1,919 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว แนะนำเปิดสถานะซื้อหากราคาไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,937-1,919ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,919 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) ขายทำกำไรเพื่อลดขนาดพอร์ตการลงทุนหากราคาไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ โซน 1,965-1,974ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านสามารถถือสถานะซื้อต่อเพื่อไปรอขายที่แนวต้านถัดไป

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) สหรัฐเรียกร้อง UN เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ หลังยิงขีปนาวุธข้ามทวีปสหรัฐเรียกร้องในวันศุกร์ (25 มี.ค.) ให้นานาชาติเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ โดยกล่าวหาว่า เกาหลีเหนือได้กระทำการยั่วยุที่อันตรายเพิ่มขึ้นหลังทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป  “สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกทั้งหมดดำเนินการตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงที่มีอยู่อย่างเต็มที่” นางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำ UN กล่าวระหว่างการประชุมที่จัดขึ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ
  • (+) กบฏฮูตีออกโรงยอมรับโจมตีคลังน้ำมันซาอุฯวันนี้นายยาห์ยา ซารีอา โฆษกของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ยิงขีปนาวุธโจมตีคลังน้ำมันของบริษัทซาอุดี อารามโคในเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบียในวันนี้  นอกจากนี้ กลุ่มกบฏฮูตียังได้ใช้โดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันที่ตั้งในเมืองราส ทานูรา และเมืองราบิกห์  นายซารีอายังเปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้โจมตีสถานที่สำคัญหลายแห่งในกรุงริยาดห์ เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย
  • (+) ดอลล์อ่อนค่า หลังข้อมูลชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐลดดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (25 มี.ค.) หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐลดลง  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.0030% แตะที่ 98.7860  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 122.10 เยน จากระดับ 122.25 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2474 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2548 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9308 ฟรังก์ จากระดับ 0.9303 ฟรังก์  ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0989 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1004 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.3187 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3182 ดอลลาร์
  • (+) “เยลเลน” เตือนวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนกระทบเศรษฐกิจโลกถึงปีหน้านางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวเตือนว่า วิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครนกำลังทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกไปจนถึงปีหน้า
  • (+) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดรอบกว่า10 ปีผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 59.4 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี จากระดับ 62.8 ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 59.7  นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นจะทรงตัวที่ระดับ 62.8 ในเดือนมี.ค.
  • (-) แบงก์สหรัฐประสานเสียงคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงสกัดเงินเฟ้อธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงที่ผ่านมา  ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.และมิ.ย.  ส่วนแบงก์ ออฟ อเมริกาคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย.และก.ค. และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมทุกครั้งหลังจากนั้นถึงสิ้นปีนี้
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 153.30 จุด หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งตามบอนด์ยีลด์ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (25 มี.ค.) และดัชนี S&P500 ปิดเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,861.24 จุด เพิ่มขึ้น 153.30 จุด หรือ +0.44% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,543.06 จุด เพิ่มขึ้น 22.90 จุด หรือ +0.51% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,169.30 จุด ลดลง 22.54 จุด หรือ -0.16%
  • (+/-) EU ลงนามข้อตกลงก๊าซกับสหรัฐ หวังลดการพึ่งพารัสเซีย สหรัฐและสหภาพยุโรป (EU) ประกาศบรรลุข้อตกลงสำคัญในการส่งมอบก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อมุ่งลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย  รายงานระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้สหรัฐส่งมอบก๊าซธรรมชาติเหลวเพิ่มเติมแก่ EU อย่างน้อย 1.5 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรภายในสิ้นปีนี้
  • (+/-) รัสเซียส่งสัญญาณลดเป้าหมายทำสงครามในยูเครน หันโฟกัสควบคุมดอนบาสประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนได้ผลักดันให้มีการเจรจาต่อไปกับรัสเซีย ขณะที่รัสเซียส่งสัญญาณว่า กำลังลดเป้าหมายในการทำสงครามกับยูเครนลง โดยจะมุ่งความสนใจไปที่ภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครนที่อ้างสิทธิ์โดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุน หลังจากที่การโจมตีในภูมิภาคอื่น ๆ หยุดชะงัก

- Advertisement -

Comments
Loading...