GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 28 ต.ค.65 by YLG

413

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

แนะนำซื้อทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวค่อยๆปรับตัวขึ้น โดยมีแนวรับบริเวณ 1,649-1,638 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,674-1,684 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สถานะซื้อควรคำนึงถึงความเสี่ยงจากแรงขายที่เพิ่มสูงขึ้น

แนวรับ : 1,638 1,617 1,600  แนวต้าน : 1,684 1,699 1,717

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 2.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบก่อนที่จะแกว่งตัวผันผวนในทันทีที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวานนี้ตามคาด แต่ ECB มีการ “ตัดคำ” อ้างอิงถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ย “ในการประชุมหลายครั้งถัดไป” ซึ่งเคยอยู่ในแถลงการณ์เดือนก.ย.ออก ทำให้เทรดเดอร์มองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนก.ค.ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว

นั่นทำให้ค่าเงินยูโรร่วงลงมากกว่า 1% ประกอบกับตัวเลขประมาณการครั้งแรกสำหรับ GDP ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐขยายตัว 2.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3% ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดสู่ระดับ 217,000 ราย จึงเป็นปัจจัยหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่า จนกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,654.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวในเวลาต่อมา

- Advertisement -

เนื่องจาก GDP Price index ในไตรมาส 3 ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 4.1% ลดลงจากระดับ 9.1% ในไตรมาส 2 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.3% ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว นั่นช่วยกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะ “ชะลอ” การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งนั่นกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีให้ร่วงลงต่ำกว่า 4% จนเป็นปัจจัยที่ช่วยสกัดช่วงติดลบทองคำ แม้จะเผชิญกับแรงกดดันที่เกิดจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ก็ตาม ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -3.19 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี Core PCE, การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคล, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจาก UoM

จจัยทางเทคนิค

ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,649-1,638 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (แนวรับสำคัญโซน 1,638 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระดับต่ำสุดของสัปดาห์นี้) ราคามีโอกาสดีดตัวขึ้น โดยหากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,674-1,684 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจเกิดแรงขายออกมาอีกครั้ง แต่หากหลุดแนวรับแรก แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,617-1,614 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นการเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,649-1,638 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดให้ตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแบ่งปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่าน 1,674-1,684 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) บอนด์ยีลด์สหรัฐร่วง หลังมีสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อชะลอตัว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ซึ่งมีสัญญาณบ่งชี้การชะลอตัวของเงินเฟ้อ ณ เวลา 23.14 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.929% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.081% กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกสำหรับ GDP ประจำไตรมาส 3 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.6% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3% นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า GDP Price index เพิ่มขึ้นเพียง 4.1% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.3% ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
  • (+) สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.ย. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.6% ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนก.ย.ได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อรถยนต์และเครื่องบิน ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ลดลง 0.5% ในเดือนก.ย. โดยสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์เพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค.
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาดสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 223,000 ราย
  • (-) สหรัฐเผย GDP +2.6% ใน Q3/65 สูงกว่าคาดการณ์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.6% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3%
  • (-) ปูตินปัด – ไม่คิดใช้นิวเคลียร์กับยูเครน  ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าววันพฤหัสบดีว่าตนมิได้มีแผนการใด ๆ ที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี  ผู้นำรัสเซียกล่าวที่การประชุมของผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศว่า ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่รัสเซียจะโจมตียูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์  “เราไม่เห็นว่ามีความจำเป็นในเรื่องนี้” ปูตินกล่าว “มันไม่มีประเด็นสำคัญที่จะทำเช่นนั้น ทั้งทางการเมืองและการทหาร” 
  • (-) ดอลลาร์แข็งค่า ขานรับ GDP สหรัฐโตเกินคาดใน Q3 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) ขานรับสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ที่ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.81% แตะที่ระดับ 110.5870 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9916 ฟรังก์ จากระดับ 0.9865 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.9569 โครนา จากระดับ 10.8675 โครนา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 146.25 เยน จากระดับ 146.30 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3559 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3570 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.9965 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0084 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1561 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1626 ดอลลาร์
  • (+/-) ดาวโจนส์ปิดบวก 194.17 จุด รับ GDP โตกว่าคาด-ผลประกอบการสดใส ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวสูงกว่าคาด รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ซึ่งรวมถึงแคทเธอร์ พิลลาร์ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดในแดนลบ หลังจากบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ เปิดเผยตัวเลขกำไรที่ต่ำกว่าคาด รวมทั้งการขาดทุนในธุรกิจเมตาเวิร์ส ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,033.28 จุด เพิ่มขึ้น 194.17 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,807.30 จุด ลดลง 23.30 จุด หรือ -0.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,792.67 จุด ลดลง 178.32 จุด หรือ -1.63%
  • (+/-) ECB ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันนี้ ตามการคาดการณ์ของตลาด ทั้งนี้ ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสู่ระดับ 1.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552 จากเดิมที่ระดับ 0.75% นอกจากนี้ ECB ยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

- Advertisement -

Comments
Loading...