GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 28 ก.ย.65 by YLG

437

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เน้นการทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,643 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป และเมื่อราคาอ่อนตัวลงให้เข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,620-1,615 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,616 1,600 1,582  แนวต้าน : 1,643 1,664 1,683

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากแรงซื้อ Buy the Dip ขณะที่เงินปอนด์ของอังกฤษฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จากการคาดการณ์ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงค่าเงินปอนด์ ทำให้ดัชนีดอลลาร์ชะลอการแข็งค่าจนหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,642.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

(1.)แรงขายกำไรและแรงขายทางเทคนิค

(2.) ถ้อยแถลงในเชิง Hawkish ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาทิ นายนีล คัชการี ประธานเฟดมินนิอาโปลิส ที่ระบุว่าเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะลดอัตราเงินเฟ้อ และตลาดการเงินก็เข้าใจดี ขณะที่เฟดจำเป็นต้องคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังลดลง จากนั้นเฟดควรหยุด รอและปล่อยให้นโยบายการเงินที่เข้มงวดดำเนินต่อไปเพื่อดูว่าเฟดได้ดำเนินการเพียงพอแล้ว ส่วนนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดประจำชิคาโก กล่าวว่า เฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ4.50-4.75% ซึ่งเป็นจุดยืนที่แข็งกร้าวมากกว่าที่เขาเคยยอมรับก่อนหน้านี้ และ

- Advertisement -

(3.) การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ “ดีเกินคาด” ไม่ว่าจะเป็นยอดขายบ้านใหม่ และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก Conference Board ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งช่วยสนับสนุนให้เฟดสามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ปัจจัยดังกล่าวช่วยพยุงดอลลาร์ และหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีครึ่งที่ 3.992% จนเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกราคาทองคำ

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.61 ตัน สำหรับวันนี้จับตาผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ของไทย และติดตามการเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟด

จจัยทางเทคนิค

หลังจากราคาทองคำดีดตัวขึ้นในระยะสั้นในช่วงที่ก่อนหน้านี้มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาแสดงให้เห็นถึงการแกว่งตัวในทิศทางที่อ่อนตัวลง เบื้องต้น หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,643 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ระดับสูงของวันก่อนหน้า) โดยนักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรออกมาที่อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำให้ลงสู่แนวรับในระดับ 1,620-1,615 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นการลงทุนระยะสั้น หาจังหวะในการเปิดสถานะขาย โดยใช้บริเวณ 1,643-1,664 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และตัดขาดทุนหากผ่าน 1,664 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรหากราคาไม่หลุดโซนแนวรับ 1,620-1,615 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวให้ชะลอการซื้อคืนออกไป

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 125.82 จุด หลังจนท.เฟดหนุนเดินหน้าขึ้นดบ. ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ในวันอังคาร (27 ก.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี หลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งรวมถึงนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้มีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงก็ตาม ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,134.99 จุด ลดลง 125.82 จุด หรือ -0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,647.29 จุด ลดลง 7.75 จุด หรือ -0.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,829.50 จุด เพิ่มขึ้น 26.58 จุด หรือ +0.25%
  • (+) รัสเซียเตรียมประกาศผนวกดินแดน 4 แคว้นยูเครนวันที่ 4 ต.ค. นายวาเลนติโน มัตวิเยนโก ประธานวุฒิสภารัสเซีย กล่าวว่า หากผลการลงประชามติใน 4 แคว้นของยูเครนออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ทางวุฒิสภาก็จะพิจารณาประกาศการผนวกดินแดนดังกล่าวในวันที่ 4 ต.ค. สำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานว่า ผลการนับคะแนนเบื้องต้นต่อการลงประชามติในแคว้นโดเนตสก์, ลูฮันสก์, เคอร์ซอน และซาปอริซเซีย พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบต่อการผนวกดินแดนเข้ากับรัสเซีย  
  • (+) สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนก.ค. ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนส.ค.ได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของคำสั่งซื้อในภาคขนส่ง   อย่างไรก็ดี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ พุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ค.
  • (-) “Nord Stream” ชี้ท่อส่งก๊าซรั่ว 3 จุดในวันเดียว เป็นเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บริษัท Nord Stream AG ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 และ 2 เปิดเผยว่า ระบบท่อส่งก๊าซ Nord Stream ใต้ทะเลบอลติกประสบความเสียหายถึง 3 จุดภายในวันเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งนี้ มีการตรวจพบการรั่วไหลของก๊าซ 2 จุดในท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ขณะที่ท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 มีการรั่วไหล 1 จุด
  • (-) Conference Board เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงกว่าคาดในเดือนก.ย. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐพื้นฐาน ลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนก.ค. ลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%
  • (-) สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นในเดือนส.ค. สวนทางคาดการณ์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 28.8% สู่ระดับ 685,000 ยูนิตในเดือนส.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 500,000 ยูนิต
  • (-) “เอสแอนด์พี” เผยราคาบ้านสหรัฐชะลอตัวในเดือนก.ค. ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ราคาบ้านในสหรัฐได้ชะลอตัวในเดือนก.ค. ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 15.8% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 18.1% ในเดือนมิ.ย.   ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.1% หลังจากดีดตัวขึ้น 18.7% ในเดือนมิ.ย.
  • (-) บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 2 ปีดีดเหนือ 4.3% ขณะ 10 ปีพุ่งใกล้แตะ 4%  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พุ่งขึ้นเหนือระดับ 4.3% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ใกล้แตะระดับ 4.0%   ณ เวลา 00.35 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 4.312% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.974% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 3.832%
  • (+/-) เงินปอนด์ฟื้นตัว รับคาดการณ์อังกฤษขึ้นดบ.พยุงเงินปอนด์ เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (27 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อพยุงค่าเงินปอนด์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.0009% แตะที่ 114.1040   ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.9602 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9615 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.0733 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0688 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6436 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6459 ดอลลาร์สหรัฐ   ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 144.80 เยน จากระดับ 144.51 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9913 ฟรังก์ จากระดับ 0.9943 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3712 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3735 ดอลลาร์แคนาดา

- Advertisement -

Comments
Loading...