GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ต.ค.65 by YLG

401

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาพอเข้าใกล้โซนแนวต้าน 1,684 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จับตาแรงขายทำกำไร โดยอาจรอซื้อในโซน 1,657 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจใช้วิธีการลดพอร์ตการลงทุนลงหากราคาหลุดแนวรับโซน 1,638 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,657 1,638 1,617  แนวต้าน : 1,684 1,699 1,717

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางแรงหนุนต่อเนื่องมาจากวันอังคาร ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงต่อ จนกระทั่งแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน

โดยดัชนีดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีแนวโน้มจะ “ชะลอ” การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. สะท้อนจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า มีโอกาสเพียง 49.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ลดลงจากเดิมที่เคยให้น้ำหนักมากถึง 75%

นอกจากนี้ ดัชนีดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากยูโรmujดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ขานรับคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps ในการประชุมนโยบายการเงินที่กำลังจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้

- Advertisement -

ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นต่อแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. หลังมีรายงานว่า รัฐบาลของนายริชี ซูนัค ได้เลื่อนการประกาศแผนการใช้จ่ายของรัฐบาล และการจัดเก็บภาษีออกไปเป็นกลางเดือนพ.ย. ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวลงต่ำกว่า 4.00% เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 1 สัปดาห์ หลังนักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจนเป็นปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม

ปัจจัยที่กล่าวมาช่วยหนุนให้ทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1,674.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งแรกจีดีพีไตรมาส 3/2022, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และผลการประชุม ECB

จจัยทางเทคนิค

หากการอ่อนตัวลงของราคาทองคำไม่มากและยังสามารถรักษาระดับเหนือแนวรับ 1,657 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ราคาทองคำยังมีลุ้นดีดขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,684-1,699 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่องทำให้เกิดแรงซื้อทำกำไรสลับเข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ประเมินแนวรับสำคัญโซน 1,638 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ำสุดของสัปดาห์นี้)

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นการลงทุนระยะสั้นโดยซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,659-1,638 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,638 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,684 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ผ่านได้สามารถถือต่อ

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) ดอลล์อ่อนหลังบอนด์ยีลด์ร่วง ตลาดจับตา GDP สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (26 ต.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 1.13% แตะที่ระดับ 109.7010   ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 146.30 เยน จากระดับ 147.98 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9865 ฟรังก์ จากระดับ 0.9958 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3570 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3621 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.8675 โครนา จากระดับ 10.9751 โครนา   ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0084 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9961 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1626 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1472 ดอลลาร์
  • (+) ดาวโจนส์บวกเล็กน้อย,Nasdaq ร่วงกว่า 2% ผิดหวังผลประกอบการบริษัทเทคโนฯ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันพุธ (26 ต.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 2% หลังจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างไมโครซอฟท์และอัลฟาเบทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐในวันนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,839.11 จุด เพิ่มขึ้น 2.37 จุด หรือ +0.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,830.60 จุด ลดลง 28.51 จุด หรือ -0.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,970.99 จุด ร่วงลง 228.12 จุด หรือ -2.04%
  • (+) บอนด์ยีลด์สหรัฐร่วง นักลงทุนแห่ซื้อพันธบัตร หลังเผยยอดขายบ้านซบ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังการเปิดเผยยอดขายบ้านที่ซบเซาของสหรัฐ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน   ณ เวลา 00.19 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.005% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.116%
  • (+) ยูโรดีดตัวเหนือ $1 เก็ง ECB ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมพรุ่งนี้ ยูโรดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1 ดอลลาร์ในวันนี้ ขานรับคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันพรุ่งนี้ ณ เวลา 18.15 น.ตามเวลาไทย ยูโรแข็งค่า 0.63% สู่ระดับ 1.003 ดอลลาร์
  • (+) นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ BoE ขึ้นดอกเบี้ย 1% ในการประชุมวันที่ 3 พ.ย. นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 3 พ.ย. หลังมีรายงานว่า รัฐบาลของนายริชี ซูนัค ได้เลื่อนการประกาศแผนการใช้จ่ายของรัฐบาล และการจัดเก็บภาษีออกไปเป็นกลางเดือนพ.ย. ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดซื้อขายสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า ให้น้ำหนัก 37% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมวันที่ 3 พ.ย. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการประกาศเลื่อนการเปิดเผยแผนดังกล่าว
  • (-) เฟดเผยแบบจำลอง GDPNow บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.1% ใน Q3/65 ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.1% ในไตรมาส 3 โดยสูงกว่าระดับ 2.9% ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้
  • (+) นักลงทุนหั่นคาดการณ์เฟดขึ้นดบ. 0.75% เดือนธ.ค. ล่าสุดให้น้ำหนักไม่ถึง 50% นักลงทุนลดคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนธ.ค. หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 49.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ลดลงจากเดิมที่เคยให้น้ำหนักมากถึง 75%
  • (-) สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ลดลง 10.9% ในเดือนก.ย. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 10.9% สู่ระดับ 603,000 ยูนิตในเดือนก.ย. จากระดับ 677,000 ยูนิตในเดือนส.ค. นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 13.9% ในเดือนก.ย.

- Advertisement -

Comments
Loading...