GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 26 ก.ค.65 by YLG

378

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

ราคาอยู่ในช่วงการพักฐาน โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้น หากราคาไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้านบริเวณ 1,738-1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,714-1,707 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,707 1,691 1,676  แนวต้าน : 1,738 1,757 1,786

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 7.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคำดีดตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,736.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้จากแรงขายลดสถานะการถือครองทองคำก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะประชุมนโยบายการเงินเสร็จสิ้นลงในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือนสู่ที่ระดับ 2.845% จนเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย

สถานการณ์ที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,714.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่การปรับตัวลงของราคาทองคำยังอยู่ในกรอบจำกัด โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนกำลังประเมินผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่อาจส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจสหรัฐใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอย ตอกย้ำความวิตกเพิ่มหลังจากวานนี้เฟดชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ -0.19 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดและบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าแนวโน้ม

- Advertisement -

ปัจจัยดังกล่าวช่วยพยุงราคาทองคำเอาไว้ ขณะที่เช้านี้ ราคาทองคำในตลาดเอเชียปรับตัวขึ้นต่อโดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของดาวโจนส์ฟิวเจอร์ หลังจากวอลมาร์ทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรไตรมาส 2 และผลกำไรตลอดปี 2022

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -0.58 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้านจาก S&P/CS, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB, ดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ และยอดขายบ้านใหม่

จจัยทางเทคนิค

ราคาขยับขึ้นหลังจากทิ้งตัวลงในช่วงก่อนหน้า แต่เมื่อราคาฟื้นตัวขึ้น ก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมา ซึ่งหากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,736-1,738 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีผลให้ราคาอาจปรับตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้อบริเวณแนวรับ 1,714-1,707 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้ราคามีโอกาสเกิดแรงซื้อดันราคาให้ปรับตัวขึ้นช่วงสั้นทดสอบแนวต้านบริเวณโซน 1,738-1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน

แนะนำเปิดสถานะขายทำกำไรระยะสั้นบริเวณ 1,738-1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (จุดตัดขาดทุนหากราคายืนเหนือ 1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์) เข้าซื้อคืนเพื่อทำกำไรเมื่อราคาอ่อนลงหรือไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,714-1,707 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับแรกให้รอดูบริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,691-1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) เฟดชิคาโกเผยดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจติดลบเป็นเดือนที่ 2  ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ -0.19 ในเดือนมิ.ย. โดยไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +0.01  ดัช CFNAI มีค่าติดลบเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าแนวโน้ม โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการผลิตและการบริโภค แต่ได้แรงหนุนจากการจ้างงาน
  • (+) ไต้หวัน ซ้อมอพยพหนีภัยการโจมตีทางอากาศ ท่ามกลางภาวะตึงเครียดกับจีน  ไต้หวันทำการซ้อมการอพยพประชาชนในสถานการณ์เสมือนจริงว่าเกิดมีกองทัพต่างชาติทำการรุกล้ำทางน่านฟ้าเข้ามาโจมตี เพื่อเตรียมความพร้อมในกรณีที่จีนตัดสินใจส่งกองกำลังบุกตน ตามรายงานของรอยเตอร์  การฝึกซ้อมครั้งนี้เริ่มต้นด้วยเสียงไซเรนในเวลา 13.30 น.ตามเวลาในไต้หวัน ที่หมายถึง การเริ่มต้นฝึกการอพยพออกจากท้องถนน โดยประชาชนในบางพื้นที่ ซึ่งรวมถึง กรุงไทเป ได้รับคำสั่งผ่านข้อความเตือน “missile alert” ผ่านโทรศัพท์มือถือที่ระบุให้ทุกคนหลบอยู่แต่ภายในอาคารบ้านเรือนเป็นเวลา 30 นาที  หลังการซ้อมอพยพสิ้นสุดลง โก เหวิน-เจ้อ นายกเทศมนตรีกรุงไทเป กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมพร้อมสถานการณ์ในกรณีที่เกิดสงครามขึ้นจริง”
  • (+) ดอลลาร์อ่อนค่า นลท.จับตาประชุมเฟด-จีดีพีสหรัฐ  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (25 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในสัปดาห์นี้  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.23% แตะที่ระดับ 106.4840  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0223 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0198 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2048 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1980 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6954 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6912 ดอลลาร์สหรัฐ  ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 136.70 เยน จากระดับ 136.20 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9646 ฟรังก์ จากระดับ 0.9640 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2846 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2921 ดอลลาร์แคนาดา
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 90.75 จุด จับตาประชุมเฟด-ผลประกอบการบริษัทเทคโนฯ  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (25 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และรายงานผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงอัลฟาเบท และไมโครซอฟท์  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,990.04 จุด เพิ่มขึ้น 90.75 จุด หรือ +0.28%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,966.84 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,782.67 จุด ลดลง 51.45 จุด หรือ -0.43%
  • (-) บอนด์ยีลด์สหรัฐดีดตัว นักลงทุนจับตาประชุมเฟด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้  อย่างไรก็ดี ตลาดพันธบัตรสหรัฐยังคงเกิดภาวะ inverted yield curve ในวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีดีดตัวสูงกว่าอายุ 5 ปีและ 10 ปี  ณ เวลา 00.05 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 3.02% โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรดังกล่าวสูงกว่าพันธบัตรอายุ 5 ปี ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.897% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 2.82%
  • (-) ยูเครนเริ่มส่งออกธัญพืชพรุ่งนี้ แม้รัสเซียโจมตีท่าเรือโอเดสซาช่วงสุดสัปดาห์  นายยูริ วาสคอฟ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน กล่าวว่า ยูเครนจะเริ่มส่งออกธัญพืชและผลิตภัณฑ์ด้านอาหารในวันพรุ่งนี้ แม้รัสเซียโจมตีท่าเรือโอเดสซาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา  “ภายในวันพรุ่งนี้ เราจะเริ่มการส่งออกผลผลิตการเกษตรผ่านทางท่าเรือของเรา โดยจะมีการเปิดท่าเรือชอร์โนมอร์สก์เป็นแห่งแรก ตามมาด้วยโอเดสซาและพิฟเดนยี และในอีก 2 สัปดาห์ เราจะเปิดท่าเรือทุกแห่งอย่างถาวรเพื่อส่งออกสินค้าเกษตร” นายวาสคอฟกล่าว
  • (-) รัสเซียเตรียมลดการส่งก๊าซไปยังยุโรป อ้างซ่อมกังหันชุดใหม่  ก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะปิดกังหันสูบก๊าซอีก 1 ชุดในท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 เพื่อทำการซ่อมบำรุง ซึ่งจะทำให้รัสเซียต้องลดปริมาณการส่งก๊าซไปยังยุโรปผ่านท่อส่งดังกล่าว  ก๊าซพรอมเปิดเผยว่าการปิดกังหันดังกล่าวจะทำให้ปริมาณการส่งก๊าซเหลือเพียง 33 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน โดยจะมีผลตั้งแต่เวลา 11.00 น.ของวันที่ 27 ก.ค.ตามเวลาไทย จากระดับมากกว่า 160 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการส่งก๊าซผ่านท่อส่งดังกล่าว

- Advertisement -

Comments
Loading...