GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 25 ส.ค.64 by YLG

331

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เน้นเก็งกำไรฝั่งขายโดยมีแนวต้านบริเวณ 1,810-1,814 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ควรแบ่งขายทำกำไรบ้างหากราคาไม่ผ่านแนวต้านเพื่อรอซื้อคืนเมื่อราคาอ่อนตัวลง ประเมินแนวรับระยะสั้นโซน 1,784-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,784 1,768 1,751  แนวต้าน : 1,814 1,833 1,849

จจัยพื้นฐาน :

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง3.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะพยายามทรงตัวเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์  และปรับตัวสูงขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์  หลังนักลงทุนเทขายสกุลเงินปลอดภัยจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง  ขานรับข่าวที่ FDA สหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีน COVID-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) ประกอบกับนักลงทุนลดทอนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะเร่งถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน  เนื่องจากสหรัฐกำลังเผชิญกับการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้า  ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐบางรายการออกมาแย่เกินคาด  ล่าสุดวานนี้เฟดริชมอนด์ เผยว่า ดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคแอตแลนติคตอนกลางลดลงเกินคาดสู่ระดับ 9 ในเดือนส.ค.แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มิ.ย.ปี 2020 สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.บริเวณ 92.804 ซึ่งช่วยหนุนให้ทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่ 1,809.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้  โดยเผชิญกับแรงขายทำกำไรและแรงขายทางเทคนิค ขณะที่Goldman Sachs ได้ปรับ“เพิ่ม” โอกาสที่เฟดจะเริ่ม “ประกาศแผนปรับลดวงเงิน QE อย่างเป็นทางการ” ในเดือนพ.ย.นี้ จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะมีโอกาส 25% เพิ่มขึ้นเป็นจะมีโอกาส 45% พร้อมปรับลดโอกาสที่เฟดจะ “ประกาศแผนปรับลดวงเงิน QE อย่างเป็นทางการ” ในเดือนธ.ค. ลงจาก 55% เหลือ 35% จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันให้ราคาทองคำร่วงลงปิดตลาดในแดนลบ  ด้านกองทุนSPDR ถือครองทองลดลง -2.03 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค :

วานนี้ราคาปิดใกล้ระดับต่ำสุดของวัน บ่งชี้ว่าแรงขายยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้าน 1,810-1,814 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่ราคาอาจอ่อนตัวลง แต่หากยืนเหนือบริเวณ 1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน แต่หากหลุดแนวรับแรก แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

เน้นการเปิดสถานะขาย โดยอาจใช้แนวต้านบริเวณ 1,810-1,814 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตัดขาดทุนหากผ่าน 1,814 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่หากราคาปรับตัวลงแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะขายบริเวณแนวรับโซน 1,784-1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าขายใหม่เมื่อราคาดีดตัวขึ้น

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อนค่า นลท.ขายสกุลเงินปลอดภัยหลัง FDA ไฟเขียววัคซีนไฟเซอร์ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval)  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% แตะที่ 92.8941 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.68 เยน ขณะเดียวกันดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2594 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2645 ดอลลาร์แคนาดา แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9126 ฟรังก์ จากระดับ 0.9124 ฟรังก์  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1754 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1748 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3730 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3729 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7256 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7216 ดอลลาร์
  • (+) ตาลีบันประกาศกร้าวไม่ต่อเวลาให้ต่างชาติพาคนอพยพหนี ย้ำเส้นตาย 31 ส.ค.กลุ่มตาลีบันประกาศในวันนี้ว่า ต้องการให้กองกำลังต่างชาติทำการอพยพผู้คนออกจากอัฟกานิสถานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้ และยืนยันว่าจะไม่มีการขยายเวลาเส้นตายดังกล่าวให้
  • (+) ผู้ว่าการรรัฐฮาวายวอนนักท่องเที่ยวงดเดินทาง หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งนายเดวิด ไอจ์ ผู้ว่าการรัฐฮาวาย เรียกร้องให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำกัดการเดินทางมายังรัฐฮาวาย โดยยกเว้นสำหรับการทำธุรกิจที่จำเป็น ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น
  • (-) แพทย์ใหญ่ทำเนียบขาวคาดวัคซีนโมเดอร์นา, J&J ได้รับอนุมัติตามรอยไฟเซอร์เร็วๆนี้นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว และผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) เปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาและจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน น่าจะได้รับการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) อย่างเร็วในไม่กี่สัปดาห์นี้หรือมากสุดไม่น่าถึงเดือน ตามรอยไฟเซอร์ซึ่งเพิ่งได้รับการอนุมัติไปก่อนหน้านี้นอกจากนี้ นายแพทย์แอนโทนียังคาดการณ์ด้วยว่า วัคซีนของไฟเซอร์หรือไม่ก็โมเดอร์นา น่าจะได้รับการอนุมัติจาก FDA ให้ใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีด้วยเช่นกัน โดยอย่างเร็วที่สุดน่าจะเป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงไปจนถึงต้นๆ ฤดูหนาว
  • (-) สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 1.0% สู่ระดับ 708,000 ยูนิตในเดือนก.ค. มากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 700,000 ยูนิตอย่างไรก็ดี ปัจจัยกระตุ้นตลาดเริ่มแผ่วลงเนื่องจากราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงมาก ซึ่งเป็นผลจากการขาดแคลนสต็อกบ้านในตลาด
  • (-) โกลด์แมนแซคส์เพิ่มคาดการณ์เฟดเริ่มลดวงเงิน QE เดือนพ.ย.นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในเดือนพ.ย.นี้ จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะมีโอกาส 25% เพิ่มขึ้นเป็นจะมีโอกาส 45% และคาดว่าเฟดจะปรับลดวงเงินลงครั้งละ 1.5หมื่นล้านดอลลาร์ในการประชุมแต่ละครั้ง  ขณะเดียวกัน โกลด์แมน แซคส์ ยังได้ปรับลดโอกาสที่เฟดจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในเดือนธ.ค. จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะมีโอกาส 55% เหลือ 35%
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 30.55 จุด รับสหรัฐไฟเขียววัคซีนไฟเซอร์ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,366.26 จุด เพิ่มขึ้น 30.55 จุด หรือ +0.09% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,486.23 จุด เพิ่มขึ้น 6.70 จุด หรือ +0.15% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,019.80 จุด เพิ่มขึ้น 77.15 จุด หรือ +0.52%

- Advertisement -

Comments
Loading...