GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 25 ส.ค.64 by HGF

257

- Advertisement -


โดย  : 
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

กองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 3

คืนนี้สหรัฐจะประกาศยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.

ทองคำมีแนวต้าน 1,810 ดอลลาร์ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานเคลื่อนไหวเหนือ 1,800 ดอลลาร์ เนื่องจากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอเวลาการปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และความกังวลถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19อย่างไรก็ดีราคาทองคำปิดตลาดลดลงเล็กน้อยเนื่องจากแรงเทขายทำกำไรและสหรัฐประกาศยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 708,000ยูนิต ดีกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 698,000ยูนิต ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยเมื่อวานขายทองคำ2.03ตัน
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.ตลาดคาดจะลดลง 0.2% จากที่เดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.9% ซึ่งประเด็นสำคัญต้องติดตามคือการประชุมเฟดประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 26-28 ส.ค.ซึ่งจะมีการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 27 ส.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยคาดจะปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,810 ดอลลาร์ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันอีกรอบ ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวโน้มสดใสและจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,820 ดอลลาร์และแนวต้านสำคัญ1,833 ดอลลาร์ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,790 ดอลลาร์และ 1,780 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,801.60-3.41,790/1,7801,810/1,820

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,150-10027,950/27,80028,150/28,300

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,200-4028,070/27,91028,300/28,450

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,780ดอลลาร์ (GF27,910บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์(GF27,760บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,804.70+0.201,792/1,7821,812/1,822

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคา GOU211,782ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,772 ดอลลาร์

- Advertisement -

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดเริ่มทรงตัว หลังจากเมื่อวานแข็งค่าขึ้นมากจนทะลุ 33บาท/ดอลลาร์ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากมีแรงขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบสำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในประเทศดีขึ้น ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.80บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 33บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่านลท.ขายสกุลเงินปลอดภัยหลังFDA ไฟเขียววัคซีนไฟเซอร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยหลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.07% แตะที่ 92.8941 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $2.2 เหตุวิตกไวรัสเดลตาหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสันโฮลรัฐไวโอมิงในวันที่ 26-28 ส.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟดทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์หรือ 0.12% ปิดที่ 1,808.5 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 23.8 เซนต์หรือ 1.01% ปิดที่ 23.894 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $1.90 รับความหวังวัคซีนหนุนดีมานด์ฟื้นตัว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) นอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังพุ่งขึ้นหลังมีรายงานว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทพีเม็กซ์ในเม็กซิโกประสบเหตุเพลิงไหม้ซึ่งส่งผลให้การผลิตน้ำมันของบริษัทดังกล่าวปรับตัวลดลงสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.90 ดอลลาร์หรือ 2.9% ปิดที่ 67.54 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์หรือ 3.4% ปิดที่ 71.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 30.55 จุดรับสหรัฐไฟเขียววัคซีนไฟเซอร์

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ส.ค.) ขณะที่ดัชนีNasdaqและS&P500 ปิดทำนิวไฮเนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,366.26 จุดเพิ่มขึ้น 30.55 จุดหรือ +0.09% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,486.23 จุดเพิ่มขึ้น 6.70 จุดหรือ +0.15% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,019.80 จุดเพิ่มขึ้น 77.15 จุดหรือ +0.52%

“คามาลาแฮร์ริส” เตือนจีนเป็นภัยคุกคามยืนยันสหรัฐไม่บังคับเอเชียเลือกข้าง

นางคามาลาแฮร์ริสรองประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวสุนทรพจน์ในระหว่างการเยือนสิงคโปร์โดยเตือนว่าจีนเป็นภัยคุกคามต่อประเทศต่างๆในเอเชียขณะเดียวกันนางแฮร์ริสได้ให้คำมั่นว่าสหรัฐจะไม่บีบบังคับให้ประเทศในเอเชียต้องเลือกข้างระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งต่างก็เป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกนางแฮร์ริสยังได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของสหรัฐที่มีต่อภูมิภาคเอเชียในเรื่องการกำหนดกฎระเบียบ, สิทธิมนุษยชน, เสรีภาพทางทะเลและการค้าที่ปราศจากอุปสรรคนอกจากนี้นางแฮร์ริสยังระบุว่าสหรัฐได้เสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปก (APEC) ในปี2566ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคณะบริหารของรัฐบาลสหรัฐยังรักษาคำมั่นสัญญาในเรื่องการสนับสนุนระบบพหุภาคีในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้นางแฮร์ริสได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับจีนโดยกล่าวหาจีนว่าใช้วิธีการบีบบังคับและข่มขู่ในการกล่าวอ้างสิทธิเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้    “การกระทำของจีนยังคงบ่อนทำลายความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกฎระเบียบและยังเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของนานาประเทศ”    “ส่วนสหรัฐนั้นการที่เรามีส่วนร่วมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโด-แปซิฟิกนั้นจะไม่เป็นอันตรายต่อประเทศใดประเทศหนึ่งและเราจะไม่บังคับให้ใครต้องเลือกข้างระหว่างสหรัฐและจีน” นางแฮร์ริสกล่าวนอกจากนี้นางแฮร์ริสยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ในอัฟกานิสถานพร้อมกับกล่าวปกป้องการตัดสินใจถอนทหารของประธานาธิบดีโจไบเดนว่าเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญและถูกต้อง

ผู้เชี่ยวชาญเตือนยอดตายโควิดในสหรัฐอาจทะยานขึ้นอีกกว่าพันรายต่อวัน

ดร.อาชิชจาคณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ของมหาวิทยาลัยบราวน์ในสหรัฐเตือนว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19ในสหรัฐอาจจะทะยานขึ้นอีกครั้งจนแตะระดับมากกว่า1,000รายต่อวัน   “ผมคิดว่าเราจะได้เห็นจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นในอีก2-3สัปดาห์ข้างหน้าและผมคาดการณ์ว่ารัฐที่มีอัตราการแพร่ระบาดสูงอย่างฟลอริดาและลุยเซียน่าจะมีผู้เสียชีวิตแตะระดับสูงสุดก่อนจะที่ค่อยๆลดระดับลงมา” นายจากล่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตทะยานขึ้นจนถึงระดับของช่วงที่มีการระบาดหนักในเดือนก.พ. และส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลโดยในขณะนี้สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันอยู่ที่ราว147,000รายนายจากล่าวว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA)  ของสหรัฐได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19จากบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบแล้วซึ่งนั่นจะช่วยจูงใจให้มีผู้มาเข้ารับวัคซีนมากพอที่จะสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา   “ผมคิดว่ามันจะสร้างความแตกต่างอย่างมากเพราะผมมองว่ามีบางคนที่รอการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบนี้และสำหรับพวกเขาผมคิดว่าสิ่งนี้จะช่วยได้” นายจากล่าว “กลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนประมาณ2ใน3ระบุว่าพวกเขาจะยอมฉีดวัคซีนหากรัฐมีคำสั่งออกมาดังนั้นผมคิดว่าคุณจะเห็นคนจำนวนมากเริ่มเข้ารับการฉีดวัคซีน”   ขณะเดียวกันกระทรวงกลาโหมสหรัฐเตรียมออกแนวทางฉบับใหม่ให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19หลังจากที่FDA อนุมัติให้ใช้วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) เมื่อวานนี้ขณะที่นิวยอร์กซิตี้ได้กำหนดให้คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนของรัฐทั้งหมดกว่า148,000คนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19อย่างน้อย1โดสในฤดูใบไม้ร่วงนี้

กลาโหมสหรัฐเตรียมออกแนวทางฉีดวัคซีนไฟเซอร์หลังFDA ไฟเขียว

กระทรวงกลาโหมสหรัฐเตรียมออกแนวทางฉบับใหม่ให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติให้ใช้วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval)นายจอห์นเคอร์บี้โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่ากระทรวงฯกำลังประเมินว่าแนวทางดังกล่าวจะแล้วเสร็จเมื่อใดทั้งนี้FDA ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบเมื่อคืนนี้ตามเวลาประเทศไทยหลังจากที่ก่อนหน้านี้วัคซีนดังกล่าวได้รับอนุญาตให้ใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้วและนับเป็นการอนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19เต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกซึ่งคาดว่าจะช่วยลดข้อสงสัยของประชาชนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐเผชิญอยู่นายเคอร์บี้ยังได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามว่ากระทรวงฯจะออกแนวทางแบบเดียวกันนี้กับวัคซีนโควิด-19ตัวอื่นหรือไม่นายเคอร์บี้ระบุว่า “สำหรับตอนนี้เราเน้นเฉพาะวัคซีนของไฟเซอร์เพราะได้รับอนุมัติจากFDA แล้ว”  ขณะที่กองทัพสหรัฐเผยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่ากำลังพลของกองทัพประมาณครึ่งหนึ่งได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วซึ่งถือเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากหากนับเฉพาะกองกำลังที่ประจำการอยู่โดยไม่รวมเจ้าหน้าที่ในกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิและกำลังพลสำรองข้อมูลระบุว่ากองทัพเรือมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุดหลังพบการระบาดในหมู่ลูกเรือที่ประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเมื่อปีที่ผ่านมาโดยมีกำลังพลของกองทัพเรือได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้วประมาณ73%เทียบกับประชาชนในสหรัฐที่อายุ18ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนแล้ว60%

- Advertisement -

Comments
Loading...