บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 23 ส.ค.64 by HGF

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

กองทุน SPDRขายทองคำ 10.18 ตันในสัปดาห์ผ่านมา

สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมเฟดประจำปีที่แจ็กสันโฮล

ทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,770-1,790ดอลลาร์

• สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ Spot ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ  1 สัปดาห์แตะ  1,795 ดอลลาร์จากแรงซื้อทองคำกลับเข้ามาหลังจากปรับลงแรงและดัชนีภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กเดือนส.ค.อ่อนแอ แต่มีแรงเทขายในช่วงกลางสัปดาห์ เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในรอบกว่า 4 เดือน จากการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 27-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้ ทั้งนี้ทองคำยังมีปัจจัยหนุนจากความกังวลถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 10.18 ตันในสัปดาห์ผ่านมา
• สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมเฟดประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 26-28 ส.ค.ซึ่งจะมีการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 27 ส.ค.เกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ จีดีพีสหรัฐไตรมาส 2 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งที่ 2 ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 6.6% สูงกว่าประมาณการครั้งก่อนที่เพิ่มขึ้น 6.5%ดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐเดือนก.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 3.6%เมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้น0.4%เมื่อเทียบรายเดือน
• แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,770-1,790 ดอลลาร์ ซึ่งนักลงทุนรอติดตามการประชุมเฟดประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลโดยทองคำมีแนวต้าน 1,790 ดอลลาร์และแนวต้านสำคัญ1,800 ดอลลาร์ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,770 ดอลลาร์และ 1,760 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

ราคาทองแท่ง 96.5%

โกลด์ฟิวเจอร์ส

Spot1,790 ดอลลาร์ (GF28,320 บาท) และ 1,800 ดอลลาร์ (GF28,480 บาท)การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,770ดอลลาร์ (GF28,030บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760 ดอลลาร์(GF27,890บาท) สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคาทอง

- Advertisement -

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคา GOU211,792ดอลลาร์ และ 1,802ดอลลาร์การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคา GOU211,772ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,762 ดอลลาร์

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดทรงตัว  ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเนื่องจากแรงขายทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วัน สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้มีผลกระทบต่อเงินบาทลดลง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทรงตัว สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.25บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 33.45บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่าจากแรงขายทำกำไรหลังบวก 4 วันติดกัน

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20  ส.ค.) โดยถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้น 4 วันติดต่อกันดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.06% แตะที่ 93.5024 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก 90 เซนต์นลท.ซื้อจากวิตกสถานการณ์อัฟกานิสถาน

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอัฟกานิสถานหลังกลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองประเทศทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์หรือ 0.05% ปิดที่ 1,784  ดอลลาร์/ออนซ์และปรับตัวขึ้น 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 11.8 เซนต์หรือ 0.51% ปิดที่ 23.112 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดร่วง 1.37 ดอลล์วิตกโควิดฉุดดีมานด์ลดลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ส.ค.) เป็นวันที่ 7 ติดต่อกันเนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายสัญญาน้ำมันดิบออกมาท่ามกลางความวิตกว่าความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะลดลงทั่วโลกขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.37 ดอลลาร์หรือ 2.2% ปิดที่ 62.32 ดอลลาร์/บาร์เรลและร่วงลง 8.9% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 1.27 ดอลลาร์หรือ 1.9% ปิดที่ 65.18 ดอลลาร์/บาร์เรลและร่วงลง 7.7% ในรอบสัปดาห์นี้

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 225.96 จุดแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหนุนตลาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นแต่ดัชนีดาวโจนส์ก็ยังคงปิดตลาดติดลบในรอบสัปดาห์นี้ท่ามกลางความวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าคาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,120.08 จุดเพิ่มขึ้น 225.96 จุดหรือ +0.65%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,441.67 จุดเพิ่มขึ้น 35.87 จุดหรือ +0.81% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 14,714.66 จุดเพิ่มขึ้น 172.88 จุดหรือ +1.19%