GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 23 มี.ค.65 by YLG

539

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เน้นเก็งกำไรในกรอบ โดยเปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นในโซน 1,911-1,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด1,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์)เพื่อไปรอปิดสถานะซื้อทำกำไรโซน 1,941-1,962 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,911 1,895 1,877  แนวต้าน : 1,941 1,962 1,980

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 16.06ดอลลาร์ต่อออนซ์ทั้งนี้ ราคาปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1,938.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันหลักจากถ้อยแถลงในเชิงสนับสนุนการเร่งคุมเข้มนโยบายการเงิน(Hawkish)จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)หลายราย อาทิ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ที่กล่าวกับ Bloomberg TV วานนี้ว่า เฟดต้องดำเนินการ “อย่างแข็งกร้าว” เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ อีกทั้งเฟดควรจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 50bps ในบางครั้งอย่างแน่นอน ส่วนนางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เธอต้องการให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับประมาณ 2.5% ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่นางแมรี่ เดลี ประธานเฟดซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เธอเชื่อว่า “ความเสี่ยงหลัก” ต่อเศรษฐกิจสหรัฐมาจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไป ทำให้นี่ยังคงเป็นเวลาที่เฟดจะต้องคุมเข้มนโยบายการเงินแม้ยังมีความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ในยูเครนและการระบาดของ COVID-19 ก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50bps ในการประชุมเดือนพ.ค. สะท้อนจาก Fed funds futures ที่บ่งชี้ถึงโอกาส 72.2% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50bps ในการประชุมเดือนพ.ค.ซึ่งเพิ่มขึ้นจากโอกาสประมาณ 52% ในวันจันทร์ ปัจจัยดังกล่าวหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10 ปีให้พุ่งแตะ 2.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 22 พ.ค. 2019 จนเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน หลังมีรายงานว่าสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เสียงแตกเรื่องการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,911.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ และจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด

- Advertisement -

จจัยทางเทคนิค

หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,941 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้แนวโน้มราคายังคงเป็นการแกว่งตัวในกรอบเพื่อสะสมแรงซื้อ อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลง โดยประเมินแนวรับบริเวณที่ 1,911-1,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นเก็งกำไรระยะสั้น ดูบริเวณ 1,911 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,941-1,962 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวดังกล่าวให้รอดูบริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (สถานะซื้อตัดขาดทุนหากไม่สามารถยืนเหนือ 1,895ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้)

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) ผู้เชี่ยวชาญเตือนรัสเซียอาจใช้ข้อมูลอากาศโจมตีอาวุธเคมี-ชีวภาพในยูเครนหน่วยงานของรัสเซียยังคงได้รับข้อมูลอุตุนิยมวิทยาเกือบจะทันทีจากรัฐบาลชาติตะวันตกและรัฐบาลอื่น ๆ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเผยว่า สามารถใช้เพื่อวางแผนโจมตียูเครนด้วยอาวุธเคมีหรือชีวภาพได้  ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐและชาติพันธมิตรเตือนว่า รัสเซียอาจกำลังวางแผนที่จะใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพ ซึ่งในขณะนี้ ข้อมูลสภาพอากาศจากฝั่งตะวันตก รวมทั้งสหรัฐและสหราชอาณาจักร ยังคงส่งไปยังหน่วยงานของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงข้อมูลการวัดความเร็วและทิศทางลม, แสงแดด, ปริมาณน้ำฝนที่ใกล้เคียงเวลาจริง รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจพิสูจน์ได้ว่ามีความสำคัญต่อการวางแผนโจมตีโดยใช้อาวุธชีวภาพหรืออาวุธเคมี
  • (+) คณะกรรมาธิการยุโรปแนะ EU ตั้งกฎความมั่นคงทางไซเบอร์สำหรับองค์กร หวั่นถูกโจมตีคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ประกาศคำแนะนำสำหรับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ในวันนี้ ระบุว่า ควรมีการจัดตั้งกรอบการทำงานเพื่อบริหารความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญและข้อมูลอ่อนไหวได้
  • (+) ดอลล์อ่อน นลท.เทขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตลาดหุ้นพุ่งดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และหันเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงเช่นยูโรและปอนด์ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.0030% แตะที่ 98.4940 เมื่อคืนนี้ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1025 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1019 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3254 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3163 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7458 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7393 ดอลลาร์ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 120.74 เยน จากระดับ 119.46 เยน แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9328 ฟรังก์ จากระดับ 0.9335 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2585 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2597 ดอลลาร์แคนาดา
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 254.47 จุด, Nasdaq ดีดเกือบ 2% รับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันอังคาร (22 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นเกือบ 2% เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนปรับตัวรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไนกี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,807.46 จุด เพิ่มขึ้น 254.47 จุด หรือ + 0.74%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,511.61 จุด เพิ่มขึ้น 50.43 จุด หรือ +1.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,108.82 จุด เพิ่มขึ้น 270.36 จุด หรือ +1.95%
  • (-) น้ำมัน WTI ปิดลบ 36 เซนต์ หลังยุโรปเสียงแตกแบนน้ำมันรัสเซียสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (22 มี.ค.) หลังมีรายงานว่าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เสียงแตกเรื่องการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย โดยเฉพาะเยอรมนีที่ต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียอย่างมาก ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้  ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 111.76 ดอลลาร์/บาร์เรล  สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 115.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

- Advertisement -

Comments
Loading...