GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 22 ธ.ค.64 by YLG

237

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

ราคาแกว่งตัวในกรอบ หากราคาสามารถยืนเหนือ 1,780-1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ให้เปิดสถานะซื้อ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,804-1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,772 1,753 1,737  แนวต้าน : 1,815 1,834 1,849

จจัยพื้นฐาน 

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง  2.11ดอลลาร์ต่อออนซ์  แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะพยายามดีดตัวขึ้น  แต่ราคาทองคำขึ้นไปทำระดับสูงสุดได้เพียง 1,800.34 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนที่จะเกิดแรงขายทำกำไรและแรงขายทางเทคนิคสลับออกมาหลังจากเกิดสัญญาณ RSI Bearish Divergence ใน TF 30 นาที  นอกจากนี้ราคาทองคำยังถูกกดดันจากปัจจัยพื้นฐาน  ได้แก่  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1.47% จากแรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน  แถลงต่อชาวอเมริกันเมื่อคืนนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนกับที่เคยทำในเดือนมี.ค. 2020แม้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) จะออกมาเปิดเผยว่า  สายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐ โดยคิดเป็นสัดส่วน 73% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดก็ตาม  ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากนักสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง  สะท้อนจากดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ปิดเพิ่มขึ้น 560.54 จุด หรือ +1.60%, ดัชนี S&P500 ปิด +1.78% และดัชนี Nasdaq ปิด +2.40% จนกระตุ้นแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งทองคำและพันธบัตร  ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำร่วงหลุดระดับต่ำสุดของวันก่อนหน้าและทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,784.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)และติดตามการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายจีดีพีไตรมาส 3/2021, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค :

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามา  แต่การอ่อนตัวลงไม่มาก แสดงถึงแรงเข้าซื้อพยุงราคาไว้ ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,780-1,772ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,804-1,815ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดของสัปดาห์นี้และสัปดาห์ที่ผ่านมา)

กลยุทธ์การลงทุน :

แนะนำซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว เปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,780-1,772ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,804-1,815ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดอลล์อ่อนค่า กังวลแผนกระตุ้นศก.ถูกขวางในวุฒิสภาดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) โดยได้รับผลกระทบจากการที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจถูกคว่ำในวุฒิสภาสหรัฐ  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% แตะที่ 96.4892 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2925 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2947 ดอลลาร์แคนาดา แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.10 เยน จากระดับ 113.71 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9238 ฟรังก์ จากระดับ 0.9222 ฟรังก์  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1281 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1274 ดอลลาร์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ ที่ระดับ 1.3264 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3202 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7154 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7110 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) นายกฯอังกฤษยืนยันไม่ประกาศยกระดับคุมเข้มโควิดก่อนคริสต์มาส  นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันในวันนี้ว่า รัฐบาลจะยังไม่ประกาศยกระดับคุมเข้มมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนเทศกาลคริสต์มาส  “เราไม่คิดว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะออกมาตรการคุมเข้มก่อนคริสต์มาส แต่เราไม่สามารถตัดทางเลือกเกี่ยวกับการใช้มาตรการใดๆออกไปหลังคริสต์มาส โดยเราจะยังคงจับตาโอมิครอนต่อไป และหากสถานการณ์เลวร้ายลง เราก็พร้อมที่จะดำเนินการ หากมีความจำเป็น” นายจอห์นสันกล่าว
  • (+)โอมิครอนยึดตำแหน่งสายพันธุ์หลักในเดนมาร์กแล้ว ต่อจากสหรัฐกระทรวงสาธารณสุขของเดนมาร์กเปิดเผยในวันนี้ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในเดนมาร์กแล้ว  นายแมกนัส ฮูนิค รัฐมนตรีสาธารณสุขเดนมาร์ก เป็นผู้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ในวันนี้
  • (+) จีนตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ ร้องยุติแทรงแซงกิจการภายในประเทศ  จีนตัดสินใจออกมาตรการตอบโต้และคว่ำบาตรชาวอเมริกันจำนวน 4 คนเพื่อเป็นการสวนกลับต่อกรณีที่สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนจำนวน 4 คนจากประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์  ทั้งนี้ นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ระบุในวันนี้ว่า “เราขอเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรและหยุดแทรกแซงประเด็นซินเจียงและกิจการภายในของจีน”
  • (-) FDA เตรียมอนุมัติยาแพ็คคู่ “โมลนูพิราเวียร์-แพกซ์โลวิด” พรุ่งนี้ สู้โอมิครอน!สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เตรียมอนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค และยาแพกซ์โลวิดของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ พร้อมกันในวันพรุ่งนี้ (22 ธ.ค.) ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน  หาก FDA ให้การอนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์และยาแพกซ์โลวิดในวันพรุ่งนี้ตามคาด ก็จะเป็นการปลดล็อกให้มีการใช้ยาดังกล่าวทั่วโลก เนื่องจากหน่วยงานสาธารณสุขของหลายประเทศยังคงรอการรับรองจาก FDA ก่อนที่จะให้การอนุมัติการใช้ยาดังกล่าว
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 560.54 จุด ขานรับไบเดนยืนยันไม่ล็อกดาวน์ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนแถลงยืนยันว่า สหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เหมือนกับที่เคยทำในเดือนมี.ค. 2563 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเดินทาง รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไมครอน เทคโนโลยี และไนกี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,492.70 จุด เพิ่มขึ้น 560.54 จุด หรือ +1.60%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,649.23 จุด เพิ่มขึ้น 81.21 จุด หรือ +1.78% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,341.09 จุด เพิ่มขึ้น 360.14 จุด หรือ +2.40%

- Advertisement -

Comments
Loading...