เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
- Advertisement -
โดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
คำแนะนำ
ซื้อขายทำกำไรระยะสั้น หากราคาไม่สามารถฝ่าแนวต้านบริเวณ 1,860-1,879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไรกดดันราคาเพิ่มขึ้น ราคามีโอกาสที่จะปรับย่อลงมาบริเวณแนวรับ 1,833-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ : 1,831 1,816 1,800 แนวต้าน : 1,860 1,879 1,909
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 1.03 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ 1,845.95-1,834.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำทดสอบกรอบบนโดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ ที่อ่อนค่าลง 0.21% สู่ระดับ 104.481 หลังจากค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นในวันจันทร์ หลังจากนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันในวันจันทร์ว่า ECB มีแผนที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในช่วงซัมเมอร์นี้ พร้อมๆกับดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดภาวะ fragmentation ระหว่างต้นทุนการกู้ยืมของเยอรมนีที่ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และต้นทุนการกู้ยืมของประเทศในยุโรปใต้ที่มีหนี้สินในระดับสูง
ปัจจัยดังกล่าวหนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้น แต่โดยรวมแล้วการแกว่งตัวของราคาทองคำยังเป็นไปอย่างจำกัด ส่วนหนึ่งเพราะวานนี้ปริมาณการซื้อขายในตลาดเบาบางปกติ เนื่องด้วยตลาดสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) ซึ่งเป็นวันรำลึกถึงการประกาศอิสรภาพของทาสผิวดำและการสิ้นสุดของการค้าทาสในสหรัฐ อีกทั้งราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทำให้ดัชนีดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีบริเวณ 105.79 ที่ขึ้นไปทดสอบเมื่อวันพุธ จึงเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกของทองคำ
ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ และถ้อยแถลงของนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์
ปัจจัยทางเทคนิค
- Advertisement -
ราคาพยายามทดสอบแนวต้านที่ 1,857-1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้ายังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทดสอบระดับดังกล่าวจะมีแรงขายออกมาอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,833-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำให้แบ่งขายทองคำออกขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น หากราคาทองคำขยับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,860-1,879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไม่ได้ (ตัดขาดทุนสถานะขายหากราคาผ่าน 1,879 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ทั้งนี้ หากราคาอ่อนตัวสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,833-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทยอยปิดสถานะขายออกทำกำไร หรือหากรับความเสี่ยงได้ให้ชะลอการปิดสถานะขายไปในโซน 1,816 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวสารประกอบการลงทุน
• (+) “โนมูระ” คาดเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยปลายปีนี้ จากผลกระทบเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย นายอิชิ อาเมมิยะ และนายโรเบิร์ต เดนท์ นักวิเคราะห์จากธนาคารโนมูระคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อยในช่วงปลายปี 2565 เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ “เราคาดว่าเฟดจะยังใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไป ขณะที่ผู้บริโภคจะเผชิญกับผลกระทบด้านลบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมทั้งปัญหาห่วงโซ่อุปทานด้านอาหารและพลังงานที่ย่ำแย่ลง เราเชื่อว่าการที่เฟดแสดงความมุ่งมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพของเงินเฟ้อด้วยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นเพื่อฉุดตัวเลขเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% นั้น จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อยในไตรมาส 4 ปีนี้” นักวิเคราะห์ของโนมูระกล่าว นักวิเคราะห์ของโนมูระกล่าวว่า แม้ว่าความแข็งแกร่งของงบดุลบัญชีผู้บริโภคและเงินออมส่วนเกินของผู้บริโภค จะช่วยชะลอการหดตัวของเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง แต่การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นและเร็วขึ้นเพื่อที่จะสกัดเงินเฟ้อ ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งรวมถึงภาคครัวเรือน ทั้งนี้ โนมูระได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปี 2565 ลงสู่ระดับ 1.8% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.5% และปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2566 ลงเหลือ 1% จากเดิม 1.3%
• (+) แหล่งข่าวเผยเยอรมนีมั่นใจสวีเดน-ฟินแลนด์ตกลงกับนาโตได้ แหล่งข่าวของรัฐบาลเยอรมนีเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เยอรมนี “มั่นใจมาก” ว่าองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต (NATO) จะบรรลุข้อตกลงกับสวีเดนและฟินแลนด์ได้ในเรื่องที่ทั้งสองชาตินี้ขอเข้าเป็นสมาชิกนาโต แต่หากเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นภายในการประชุมสุดยอดในกรุงมาดริดสัปดาห์หน้า ก็ไม่ถือเป็นเรื่อง “คอขาดบาดตาย”
• (+) เซเลนสกี คาด รัสเซียจะโจมตีหนักขึ้น ก่อนอียูโหวตเรื่องสถานะของยูเครน ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกีกล่าวว่า รัสเซียน่าจะยกระดับการโจมตียูเครนในสัปดาห์นี้ ขณะที่ ผู้นำยุโรปพิจารณาว่า จะสนับสนุนแผนให้สถานะยูเครนเป็นประเทศที่มีโอกาสเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรือไม่ ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวในแถลงการณ์ประจำวันช่วงค่ำในวันอาทิตย์ว่า “เรากำลังเตรียมตัว เราพร้อม และเรากำลังเตือนไปยังประเทศหุ้นส่วนด้วย” คณะกรรมธิการยุโรปเสนอคำเเนะนำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ยูเครนควรได้รับสถานะเป็นประเทศที่จะถูกพิจารณาเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป หรืออียู ประเทศสมาชิกอียู 27 ประเทศจะหารือกัน ก่อนลงมติในวันพฤหัสบดีและศุกร์นี้ต่อคำเเนะนำของคณะกรรมาธิการฯ ถ้ายูเครนได้รับอนุมัติให้เดินหน้าเรื่องสถานะดังกล่าว กระบวนการเข้าร่วมสหภาพยุโรปอย่างเต็มตัวจะใช้เวลาหลายปี
• (-) ไบเดน’ เตรียมผลักดันยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการยกเว้นภาษีน้ำมันเป็นการชั่วคราว และพิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทจากจีน เพื่อช่วยชาวอเมริกันในการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อในประเทศ ตามการเปิดเผยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แจเน็ต เยลเลน เมื่อวันอาทิตย์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับรายการ This Week ทางสถานีโทรทัศน์ ABC เมื่อวันอาทิตย์ ระบุว่า ปธน.ไบเดน ต้องการทำทุกวิถีทางที่ทำได้เพื่อช่วยผู้บริโภค และยอมรับว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากเป็นภาระกับครัวเรือนอเมริกันอย่างชัดเจน ราคาน้ำมันสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดที่ 5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเยลเลน มองว่า หากยกเว้นภาษีน้ำมันที่ 18 เซนต์ต่อแกลลอน ในกรอบระยะเวลาหนึ่ง น่าจะเป็นหนึ่งในมาตรการที่อาจนำมาพิจารณาปรับใช้ และว่า ปธน.ไบเดนจะผลักดันเรื่องนี้กับสภาคองเกรสด้วยเช่นกัน
• (-) ผู้ว่าการเฟดหนุนขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในเดือนก.ค. เหตุเงินเฟ้อยังสูง นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค. เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก “ในมุมมองของผมนั้น หากข้อมูลเศรษฐกิจในวันข้างหน้าเป็นไปตามที่ผมคาดไว้ โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อ ผมจะสนับสนุนให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค.” นายวอลเลอร์กล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งเมืองดัลลัส
• (+/-) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันนี้ (20 มิ.ย.) เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) โดยตลาดจะกลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในวันอังคารที่ 21 มิ.ย. ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามในกฎหมาย Juneteenth National Independence Day Act โดยกำหนดให้วันจูนทีนธ์เป็นวันหยุดประจำปีของรัฐบาลกลางสหรัฐ เพื่อรำลึกถึงการสิ้นสุดการค้าทาสในอเมริกา ซึ่งทำให้วันจูนทีนธ์กลายเป็นวันหยุดราชการล่าสุดของรัฐบาลกลางสหรัฐนับตั้งแต่มีการประกาศวันหยุดมาร์ติน ลูเธอร์คิง จูเนียร์ในปี 2526