GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 21 ต.ค.64 by YLG

256

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

ลุ้นราคาอาจขึ้นไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,789-1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,766-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,760 1,747 1,731  แนวต้าน : 1,792 1,808 1,821

จจัยพื้นฐาน :

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ช่วงต้นวัน  ราคาทองคำทะยานขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ  1,766 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง 0.20% แตะที่ 93.541 จากแรงเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงและสกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกมีแนวโน้มเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง  ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ  1,788.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ก่อนที่ราคาทองคำจะอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไร  นอกจากนี้  ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10ปีที่พุ่งขึ้นแตะ1.673% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่20พ.ค. จากแรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่งหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2ขณะที่ดีมานด์ในการประมูลพันธบัตรอายุ20ปีเป็นไปอย่างอ่อนแอจึงเป็นปัจจัยหนุนบอนด์ยีลด์เพิ่มเติม  อีกทั้งบิตคอยน์พุ่งขึ้นทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลจนแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่เหนือ67,000 ดอลลาร์ขานรับการเปิดตัวกองทุน ETF บิตคอยน์เป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นนิวยอร์ก จนเป็นปัจจัยบั่นทอนเม็ดเงินเก็งกำไรจากตลาดทองคำ  สถานการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกราคาทองคำเอาไว้  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟดฟิลาเดลเฟีย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจาก CB และยอดขายบ้านมือสอง

จจัยทางเทคนิค :

ระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซน 1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,789-1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำหลุดโซนดังกล่าวราคามีโอกาสปรับตัวลงไปหาแนวรับโซน1,766-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

เปิดสถานะขาย  หากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,789-1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อเพื่อทำกำไรหากการอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซน 1,766-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสถานะขายตัดขาดทุนหากราคาดีดตัวขึ้นแรงผ่าน 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองลดลงสัปดาห์ที่แล้ว เหตุดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 6.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ปรับตัวขึ้น  จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 7% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว  ส่วนจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 5% ในสัปดาห์ที่แล้ว และร่วงลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • (+) ดอลลาร์อ่อนค่าจากแรงขายสกุลเงินปลอดภัยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าติดต่อกันวันที่ 2 หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.18% แตะที่ 93.5626 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.20 เยน จากระดับ 114.30 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9188 ฟรังก์ จากระดับ 0.9226 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2315 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2359 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1655 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1640 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3832 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3799 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7521 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7478 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 152.03 จุด รับผลประกอบการสดใส-บิตคอยน์พุ่งดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,609.34 จุด เพิ่มขึ้น 152.03 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,536.19 จุด เพิ่มขึ้น 16.56 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,121.68 จุด ลดลง 7.41 จุด หรือ -0.05%
  • (-) อย.สหรัฐฯ อนุมัติวัคซีนบูสเตอร์ โมเดอร์นา-จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน หรือ บูสเตอร์ ของโมเดอร์นา (Moderna) และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนให้ชาวอเมริกันเลือกฉีดวัคซีนเข็มเพิ่มเติมที่แตกต่างจากวัคซีนโดสแรกได้ สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานคำสั่งอนุมัติของ FDA ที่มีออกมาในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วย ให้ผู้คนอีกนับล้านในสหรัฐฯ สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มเพิ่มเติม เพื่อต่อสู้กับการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่มีความสามารถแพร่กระจายตัวได้สูง และทำให้มีผู้ที่รับวัคซีนครบโดสไปก่อนหน้ากลายมาเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ได้เป็นจำนวนมากแล้ว
  • (-) บิตคอยน์พุ่งไม่หยุดใกล้ทะลุ $67,000 จ่อแตะ 2,250,000 บาท หลังทุบ all time highบิตคอยน์พุ่งขึ้นใกล้ทะลุระดับ 67,000 ดอลลาร์ จ่อแตะ 2,250,000 บาทในวันนี้ หลังทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล ขานรับคำกล่าวของนายพอล ทิวดอร์ โจนส์ ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ ซึ่งระบุว่า เขาชื่นชอบบิตคอยน์มากกว่าทองคำในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ  นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้ปัจจัยบวกจากการเปิดตัวกองทุน ETF บิตคอยน์เป็นครั้งแรกในตลาดหุ้นนิวยอร์กวานนี้  ณ เวลา 21.51 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 4.14% สู่ระดับ 66,932.50 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
  • (-) ผู้จัดการกองทุนชื่อดังยอมรับชื่นชอบบิตคอยน์มากกว่าทองคำนายพอล ทิวดอร์ โจนส์ ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ กล่าวว่า เขาชื่นชอบบิตคอยน์มากกว่าทองคำในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ  “ผมชอบบิตคอยน์มากกว่าทองคำในขณะนี้ โดยบิตคอยน์สามารถเอาชนะทองคำได้อย่างชัดเจน” นายโจนส์กล่าวในรายการ “Squawk Box” ของสถานี CNBC  นอกจากนี้ นายโจนส์เปิดเผยว่า เขาถือครองสกุลเงินดิจิทัลไม่ถึง 10% ในพอร์ทการลงทุนของเขาขณะเดียวกัน นายโจนส์กล่าวว่า เขามีความกังวลต่อเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อตลาดการเงินของสหรัฐ รวมทั้งต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

- Advertisement -

Comments
Loading...