GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 20 เม.ย.65 by YLG

467

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,959-1,966 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขาย แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายไปที่แนวต้านถัดไป การเข้าซื้อควรรอจังหวะราคาอ่อนตัวลงของราคาโซน 1,932-1,915 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,932 1,915 1,897  แนวต้าน : 1,966 1,981 2,002

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 28.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวัน ราคาทองคำจะดีดตัวทดสอบระดับสูงสุดที่ 1,981.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ และปรับตัวลงแรงท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่

(1.) การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ “ดีเกินคาด” อาทิ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 1.793 ล้านยูนิต ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้นเกินคาดเช่นกันสู่ระดับ 1.873 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค.

(2.) การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย “อย่างแข็งกร้าว” เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดเหนือ 101 เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่ 25 มี.ค. 2020 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี หรือสูงสุดนับตั้งแต่ธ.ค. 2018 ที่ระดับ 2.948% จนเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย

- Advertisement -

(3.) ราคาน้ำมันปิดร่วงลงกว่า 5% หลังจาก IMFปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในตลาด

(4.) ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นแรงขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำร่วงลงหลุด Trendline และหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันจนกระตุ้นแรงขายทางเทคนิคเพิ่มเติม นั่นเป็นที่มาที่ราคาทองคำดิ่งลงแรงจนกระทั่งทดสอบระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์บริเวณ 1,944.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม 6.68 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค

ความแข็งแกร่งของราคาทองคำยังน้อยทำให้การลงทุนอาจต้องเก็งกำไรในลักษณะรอจังหวะ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือต้าน 1,959-1,966 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีแนวโน้มที่ราคาจะอ่อนตัวลงทดสอบโซน 1,932ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ จะเกิดแรงขายเพิ่มขึ้น โดยแนวรับระยะสั้นถัดไปจะอยู่บริเวณ 1,915 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน

เปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรระยะสั้นในบริเวณ 1,959-1,966 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืน 1,966 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) แต่หากราคาอ่อนตัวลงไปก่อนให้พิจารณาบริเวณ 1,932-1,915 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดทยอยเข้าซื้อคืน แต่หากหลุดสามารถชะลอการเข้าซื้อคืนไปที่แนวรับถัดไป

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) ‘ไบเดน’ เตรียมเพิ่มความช่วยเหลือด้านการทหารครั้งใหญ่แก่ยูเครนอีกครั้ง  ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เตรียมเพิ่มความช่วยเหลือด้านการทหารครั้งใหญ่ให้แก่ยูเครนอีกครั้ง ภายในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะเป็นความช่วยเหลือเทียบเท่ากับความช่วยเหลือทางทหารให้ยูเครน 800 ล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของรอยเตอร์
  • (+) คาด “มารีอูโปล” ถูกกองทัพรัสเซียยึดครองในอีกไม่กี่วัน  เจ้าหน้าที่ยุโรปรายหนึ่งเปิดเผยว่า เมืองมารีอูโปลอาจถูกกองทัพรัสเซียเข้ายึดครองภายในเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน  “เราคาดว่ามารีอูโปลจะถูกรัสเซียยึดครองในเวลาเพียงไม่กี่วัน และเมืองนี้จะถูกทำลายและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยจะมีสภาพเลวร้ายกว่าเมืองบูชา โดยภายในวันที่ 9 พ.ค. ปูตินจะประกาศปลดปล่อยเมืองมารีอูโปล” เจ้าหน้าที่ยุโรปรายนี้กล่าว
  • (+) รัสเซียเปิดฉากหน้าใหม่สงครามยูเครน เตรียมปะทะเดือดยึด “ดอนบาส”  นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวในวันนี้ว่า รัสเซียได้เริ่มเข้าสู่ช่วงใหม่ของการใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน ซึ่งเขาคาดว่าจะประสบความคืบหน้าอย่างมาก  นายลาฟรอฟย้ำว่า รัสเซียไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการเริ่มปฏิบัติการทางทหารดังกล่าว
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. สวนทางคาดการณ์  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1.793 ล้านยูนิต สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 1.745 ล้านยูนิต จากระดับ 1.788 ล้านยูนิตในเดือนก.พ.  ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวลดลง 1.7% สู่ระดับ 1.2 ล้านยูนิต  ส่วนการก่อสร้างบ้านสำหรับหลายครอบครัว ซึ่งรวมถึงอพาร์ทเมนท์และคอนโดมิเนียม พุ่งขึ้น 7.5% สู่ระดับ 574,000 ยูนิต  การอนุญาตก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 1.873 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค.  การอนุญาตก่อสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวลดลง 4.8% สู่ระดับ 1.147 ล้านยูนิต  ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านสำหรับหลายครอบครัวพุ่งขึ้น 10.9% สู่ระดับ 672,000 ยูนิต
  • (-) น้ำมันปิดร่วง $5.65 หลัง IMF หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลก  สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5% ในวันอังคาร (19 เม.ย.) หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในตลาด  ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 5.65 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 102.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.91 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 107.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • (-) ดอลล์แข็งค่า หลังบอนด์ยีลด์พุ่งรับคาดการณ์เฟดเร่งขึ้นดบ.  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (19 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.18% แตะที่ 100.9610  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 128.75 เยน จากระดับ 126.96 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9513 ฟรังก์ จากระดับ 0.9444 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2624 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2616 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0796 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0787 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2997 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3011 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7374 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7350 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 499.51 จุด รับผลประกอบการ-ความเห็นจนท.เฟด  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 500 จุดในวันอังคาร (19 เม.ย.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการแสดงความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,911.20 จุด พุ่งขึ้น 499.51 จุด หรือ +1.45%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,462.21 จุด เพิ่มขึ้น 70.52 จุด หรือ +1.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,619.66 จุด เพิ่มขึ้น 287.30 จุด หรือ +2.15%
  • (+/-) IMF หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้-ปีหน้าเหลือ 3.6% เซ่นพิษสงครามรัสเซีย-ยูเครน  กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2565 และ 2566 โดยระบุว่า การที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนจะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก และเป็นปัจจัยกดดันต่อราคา และถือความท้าทายต่อการดำเนินนโยบายอย่างมีนัยสำคัญ  ทั้งนี้ IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในวันนี้ โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.6% ทั้งในปี 2565 และ 2566 โดยลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 4.4% ในปี 2565 และ 3.8% ในปี 2566

- Advertisement -

Comments
Loading...