GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 2 ส.ค.65 by YLG

351

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

หากรับความเสี่ยงแนะนำเปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรระยะสั้นในโซน 1,784-1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอเข้าซื้อคืนหากราคาไม่หลุดแนวรับโซน 1,758-1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวให้ชะลอการซื้อคืนออกไป

แนวรับ : 1,758 1,741 1,722  แนวต้าน : 1,786 1,803 1,820

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนหลักจากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแย่เกินคาด อาทิ การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างดิ่งลง 1.1% ในเดือนมิ.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% และ ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐจากเอสแอนด์พี โกลบอลปรับตัวลงสู่ระดับ 52.2 ในเดือนก.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี

ส่วนดัชนีภาคการผลิตจาก ISM ร่วงลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือนก.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีเช่นกัน ตัวเลขดังกล่าวยิ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะ “ชะลอ” การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์และหนุนราคาทองคำ

นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงลงต่อแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 2.532% จนเป็นปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม ประกอบกับเกิดความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากสื่อไต้หวันรายงานว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ อาจเดินทางถึงไต้หวันในคืนวันอังคาร ก่อนที่จะเข้าพบกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวันในวันพุธ ขณะที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) เตือนว่า จีนจะทำการ “ฝัง” ผู้บุกรุกและละเมิดอธิปไตยของจีน ปัจจัยนี้กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นั่นทำให้ทองคำพุ่งขึ้นวานนี้ และพุ่งขึ้นต่อในช่วงเช้าวันนี้ของตลาดเอเชียแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,780.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์

- Advertisement -

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยJOLTS Job Openings ของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค

แม้ว่าราคาจะทรงตัวในระดับสูงแต่การปรับตัวขึ้นอยู่ในระดับจำกัด หากราคายังไม่สามารถเหนือระดับ 1,784-1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคามีโอกาสอ่อนตัวลงช่วงสั้น หากสามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,758 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อเข้ามาพยุง ราคามีการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง แต่หากยืนเหนือแนวรับแรกไม่ได้ ราคามีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับถัดไปโซน 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน

หาจังหวะในการเปิดสถานะขาย เพื่อการลงทุนระยะสั้นโดยพิจารณาบริเวณ 1,784-1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และตัดขาดทุนหากผ่าน 1,803ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา และทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรหากราคาไม่หลุดโซนแนวรับ 1,758-1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวให้ชะลอการซื้อคืนออกไป

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) ดอลลาร์อ่อนค่า หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจซบเซา  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (1 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.43% แตะที่ระดับ 105.4500  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 131.83 เยน จากระดับ 133.35 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9506 ฟรังก์ จากระดับ 0.9519 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2847 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2808 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0257 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0224 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2255 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2176 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7022 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6996 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 46.73 จุด นลท.ขายหุ้นพลังงาน-กังวลข้อมูลศก.ซบ  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (1 ส.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,798.40 จุด ลดลง 46.73 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,118.63 จุด ลดลง 11.66 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,368.98 จุด ลดลง 21.71 จุด หรือ -0.18%
  • (+) เฟดเผยแบบจำลอง GDPNow บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.3% ใน Q3/65   ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.3% ในไตรมาส 3  ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวต่ำกว่าระดับ 2.1% ที่มีการระบุก่อนหน้านี้ หลังเฟดนำตัวเลขภาคการผลิต และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่อ่อนแอที่มีการเปิดเผยในวันนี้เข้าสู่การคำนวณในแบบจำลองดังกล่าว
  • (+) สหรัฐเผยการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลงในเดือนมิ.ย. สวนทางคาดการณ์  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างดิ่งลง 1.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค.  อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 8.3% ในเดือนมิ.ย.
  • (+) ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐต่ำสุดรอบ 2 ปีในเดือนก.ค. เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563 และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 52.3 จากระดับ 52.7 ในเดือนมิ.ย.
  • (+) ช่องแคบไต้หวันเครียด! หวั่นจีนสอยเครื่องบิน “เพโลซี” หลังขู่ฝังผู้บุกรุก  กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ออกโรงเตือนว่า จีนจะทำการ “ฝัง” ผู้บุกรุกและละเมิดอธิปไตยของจีน  “เราจะเผชิญหน้าศัตรูของเราด้วยอาวุธครบมือ เราจะเชื่อฟังคำสั่งและจะเข้าสู่สงคราม พร้อมกับฝังศัตรูผู้บุกรุก โดยเราจะมุ่งหน้าไปสู่ชัยชนะ” กองบัญชาการยุทธภูมิฝั่งตะวันออกของ PLA โพสต์ข้อความลงในเว่ยป๋อ (Weibo) ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ของจีน  PLA โพสต์ข้อความดังกล่าว พร้อมกับคลิปวิดีโอแสดงแสนยานุภาพของเครื่องบินรบและขีปนาวุธของจีน
  • (+) จีนฮึ่ม! ยันกองทัพพร้อมตอบโต้ หาก “เพโลซี” เยือนไต้หวัน  นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะนำมาซึ่งผลกระทบที่รุนแรง  “เราขอบอกสหรัฐอีกครั้งหนึ่งว่า จีนกำลังจับตามอง และกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) จะไม่นั่งเฉย โดยจีนจะทำการตอบโต้อย่างรุนแรงเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดน” นายจ้าวกล่าว  ต่อข้อถามที่ว่า PLA จะใช้มาตรการใดในการตอบโต้สหรัฐ นายจ้าวกล่าวว่า “ถ้านางเพโลซีกล้าที่จะไป ก็ให้เรารอดูละกัน”
  • (-) ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐต่ำสุดรอบ 2 ปีในเดือนก.ค.  สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 52.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2563 แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.0 จากระดับ 53.0 ในเดือนมิ.ย.

- Advertisement -

Comments
Loading...