เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
- Advertisement -
โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้น
- ราคาทองคำ spot เมื่อวานที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นในระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และแรงซื้อทองคำมากขึ้นภายหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่กองทัพสหรัฐได้ส่งเครื่องบินรบ รวมทั้งเรือบรรทุกเครื่องบินหลายลำเข้าใกล้ช่องแคบไต้หวัน ขณะที่จีนเตือนว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะนำมาซึ่งผลกระทบที่รุนแรง ด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 10.99 ล้านตำแหน่งจาก 11.25 ล้านตำแหน่ง
- แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,760 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,750 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,780 ดอลลาร์ และ 1,790 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
| Close | chg. | Support | Resistance |
| 1,771.20 | +5.86 | 1,760/1,750 | 1,780/1,790 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
| Close | chg. | Support | Resistance |
| 30,200 | -100 | 30,100/30,000 | 30,400/30,500 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
| Close | chg | Support | Resistance |
| 30,400 | +100 | 30,250/30,130 | 30,470/30,590 |
สามารถเข้าซื้อเก็งกำไรเมื่อราคาปรับลงมาบริเวณ 1,750 ดอลลาร์ (GF 30,130 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,740 ดอลลาร์ (GF 30,030 บาท)
- Advertisement -
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
| Close | chg | Support | Resistance |
| 1,781.00 | – | 1,762/1,752 | 1,782/1,792 |
สามารถเข้าซื้อเก็งกำไรเมื่อราคา GOU22 ปรับลงมาบริเวณที่ 1,752 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,742 ดอลลาร์
ค่าเงิน
เมื่อวานที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว ซึ่งค่าเงินบาทร่วงลงหลุด 36 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ระยะสั้นค่าเงินบาทคาดว่าแข็งค่าได้ต่อ สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.65 มีแนวรับที่ 35.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 36.70 บาท/ดอลลาร์
News
สหรัฐเปิดแผนเยือนเอเชียของปธ.สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ไร้แววไต้หวัน
แถลงการณ์จากสำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเปิดเผยว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเป็นตัวแทนสภาคองเกรสสหรัฐเดินทางเยือนประเทศต่าง ๆ ในเอเชียอย่างน้อย 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยไม่ได้เอ่ยถึงไต้หวันแต่อย่างใด ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ภารกิจเยือนเอเชียของนางเพโลซีครั้งนี้จะมุ่งเป้าไปยังความมั่นคงร่วมกัน ความเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจ และธรรมาภิบาลในรูปแบบประชาธิปไตยในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ก่อนหน้านี้ กระแสข่าวเยือนเอเชีย ซึ่งรวมถึงไต้หวันของนางเพโลซีได้สร้างความไม่พอใจให้กับจีน ซึ่งมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ โดยจีนเตือนว่าจะออกมาตรการตอบโต้หากนางเพโลซีเดินทางเยือนไต้หวันจริง โดยกระทรวงกลาโหมจีนออกแถลงการณ์ที่มีนัยว่าจีนอาจใช้กำลังทางทหารเพื่อเป็นการตอบโต้ นอกจากนี้ จีนยังได้จัดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงบริเวณช่องแคบไต้หวันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยการซ้อมรบดังกล่าวมีขึ้นบริเวณชายฝั่งของมณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามกับเกาะไต้หวัน
UN จัดประชุมปลดอาวุธนิวเคลียร์ หลังวิกฤตยูเครนทำโลกหวั่นปรมาณูหวนคืน
การประชุมสหประชาชาติ (UN) ว่าด้วยการปลดอาวุธนิวเคลียร์ตลอด 4 สัปดาห์จะเริ่มขึ้น หลังถูกเลื่อนมาแล้วหลายครั้งเนื่องจากโควิด-19 ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังเพิ่มความกังวลว่า อาจมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์และทำให้โอกาสที่จะกำจัดอาวุธนิวเคลียร์เป็นไปได้ยากขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น วางแผนที่จะกล่าวสุนทรพจน์ด้วยตนเองในวันแรกของการประชุมทบทวนสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ณ กรุงนิวยอร์ก เพื่อผลักดันให้เกิดการปลดอาวุธนิวเคลียร์ โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวในโลกที่ได้รับผลกระทบจากระเบิดปรมาณูในสงคราม ทั้งนี้ การที่บุคคลระดับผู้นำรัฐบาลจะกล่าวปราศรัยในการประชุมดังกล่าวไม่ใช่เรื่องปกติ และนายคิชิดะจะเป็นผู้นำชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ทำเช่นนั้น โดยคาดว่านายกฯ ญี่ปุ่นจะกดดันเพื่อให้มีการดำเนินนโยบาย “ไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์” ต่อไป และเรียกร้องให้มีความโปร่งใสมากขึ้นเกี่ยวกับคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ ไปพร้อมกับร่างโรดแมปสู่เป้าหมายของโลกที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ดี ความแตกแยกระหว่างรัฐที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์กับรัฐที่ไม่ใช้นิวเคลียร์นั้นยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ยังไม่ชัดเจนว่าประเทศต่าง ๆ จะสามารถจัดทำเอกสารฉันทามติเพื่อส่งเสริมการปลดอาวุธนิวเคลียร์และการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ตามเป้าหมายของสนธิสัญญาได้หรือไม่
ยูเครนจ่อส่งออกธัญพืชครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตี
กระทรวงกลาโหมตุรกีเปิดเผยว่า เรือบรรทุกธัญพืชจากยูเครนมีกำหนดออกเดินทางเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ถูกรัสเซียบุกโจมตีเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลงการรับประกันความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมเสริมว่ายูเครนจะส่งออกธัญพืชผ่านทางเรือเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ ต่อจากการขนส่งของเรือลำแรก สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เรือราโซนี (Razoni) ซึ่งติดธงชาติเซียร์ราลีโอนจะเดินทางออกจากท่าเรือโอเดสซา เพื่อลำเลียงข้าวโพดไปยังประเทศเลบานอน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัสเซีย ยูเครน ตุรกี และองค์การสหประชาชาติ (UN) ลงนามในข้อตกลงส่งออกธัญพืชและปุ๋ยเมื่อเดือนก.ค. เพื่อเปิดทางให้สามารถส่งออกธัญพืชจากเมืองชอร์โนมอร์สก์, โอเดสซา และท่าเรือปิฟเดนนีได้อย่างปลอดภัย “เราได้ตกลงให้เรือราโซนีซึ่งบรรทุกข้าวโพด และติดธงชาติเซียร์ราลีโอนออกเดินทางจากท่าเรือเมืองโอเดสซาไปยังเลบานอน ในวันที่ 1 ส.ค. เวลา 8.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น” กระทรวงกลาโหมตุรกีกล่าว ทั้งนี้ การส่งออกข้าวสาลีของรัสเซียและยูเครนนั้นคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของโลก แต่มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจากชาติตะวันตก และการสู้รบตามแนวชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของยูเครน ทำให้เรือขนส่งธัญพืชไม่สามารถออกเดินทางจากท่าเรือได้อย่างปลอดภัย