บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 2 พ.ย.64 by HGF

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำขึ้น ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐต่ำสุดในรอบ 10 เดือน

การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะเริ่มขึ้นในวันนี้

ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ  1,770-1,800 ดอลลาร์

• ราคาทองคำ Spot เมื่อวานในช่วงกลางวันปรับลดลง โดยทองคำมีปัจจัยลบจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มถอนนโยบายการเงินผ่อนคลาย แต่ในช่วงกลางคืนราคาทองคำปรับขึ้น ทำให้ปิดตลาดเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่กลับอ่อนค่าลง หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐเดือนต.ค.ลดลงสู่ระดับ 58.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน จากระดับ 60.7 ในเดือนก.ย. เนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ2.62ตัน หลังจากซื้อทองคำ 4.07 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
• การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มขึ้นในวันนี้ และจะทราบผลในคืนวันพุธ ซึ่งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นประเด็นหลักสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกรอติดตามในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับการประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟด ส่วนคืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
• แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,770-1,800 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมเฟดที่จะทราบผลในคืนวันพุธ ระยะสั้นทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,770 ดอลลาร์และ 1,760 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์และ 1,810 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

ราคาทองแท่ง 96.5%

โกลด์ฟิวเจอร์ส

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำทยอยขายทำกำไรการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำเมื่อราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,060บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,760 ดอลลาร์ (GF27,980 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำทยอยขายทำกำไรการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นแนะนำเมื่อราคา GOZ21 ปรับลงมาที่ 1,771ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,761ดอลลาร์

- Advertisement -

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.10-33.40บาท/ดอลลาร์ทั้งนี้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อวานเนื่องจากดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐเดือนต.ค.ปรับตัวลงสู่ระดับ 58.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้แต่เงินบาทมีปัจจัยลบจากเงินลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้โดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.40บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่านลท.จับตาประชุมเฟด-ตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.25% แตะที่ 93.8817 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดพุ่ง $11.9 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์รวมทั้งแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.9 ดอลลาร์หรือ 0.67% ปิดที่ระดับ 1,795.8 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.4 เซนต์หรือ 0.52% ปิดที่ 24.073 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 48 เซนต์รับความหวังดีมานด์ฟื้นตัวช่วงเปิดศก.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 พ.ย.) ขานรับความหวังที่ว่าความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นในขณะที่ประเทศทั่วโลกเริ่มเปิดเศรษฐกิจนอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสจะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในการประชุมสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 48 เซนต์หรือ 0.6% ปิดที่ 84.05 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 99 เซนต์หรือ 1.2% ปิดที่ 84.71 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดบวก 94.28 จุดทำนิวไฮรับแรงซื้อหุ้นพลังงาน

ดัชนีดาวโจนส์, ดัชนีS&P500 และดัชนีNasdaqตลาดหุ้นนิวยอร์กต่างก็ปิดทำนิวไฮเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในสัปดาห์นี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,913.84 จุดเพิ่มขึ้น 94.28 จุดหรือ +0.26% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,613.67 จุดเพิ่ม 8.29 จุดหรือ +0.18% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,595.92 จุดเพิ่มขึ้น 97.53 จุดหรือ + 0.63%

“เยลเลน” เผย “ไบเดน” เตรียมเลือกประธานเฟดคนใหม่เร็วๆนี้

นางเจเน็ตเยลเลนรัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยว่าประธานาธิบดีโจไบเดนแห่งสหรัฐจะทำการคัดเลือกประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์และมีความน่าเชื่อถือทั้งนี้รายงานระบุว่านายเจอโรมพาวเวลซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนปัจจุบันนั้นมีแนวโน้มที่จะได้ครองเก้าอี้ต่อไปเป็นสมัยที่2แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีบุคคลอื่นๆที่มีคุณสมบัติเหมาะสมด้วยเช่นกันส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนบางรายแสดงความวิตกกังวลว่าตลาดการเงินอาจจะเผชิญกับความผันผวนหากท้ายที่สุดแล้วปธน.ไบเดนเลือกประธานเฟดคนใหม่ที่พลิกโผจากการคาดการณ์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่านางเยลเลนได้ให้คำปรึกษาแก่ปธน.ไบเดนแล้วแต่ประธานาธิบดีสหรัฐจะเป็นผู้ตัดสินใจในขั้นสุดท้ายขณะที่สื่อรายงานว่านางเยลเลนปฏิเสธที่จะระบุว่าเธอสนับสนุนนายพาวเวลหรือไม่นางเยลเลนกล่าวว่า “ดิฉันคิดว่าคุณพาวเวลมีชื่อเสียงในทางที่ดีแต่ก็ยังมีคนอื่นๆที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเช่นกัน”   “หากตลาดผิดหวังเพราะคิดว่าบุคคลที่ได้รับเลือกนั้นไม่มีเครดิตมากพอดิฉันคิดว่าบุคคลผู้นั้นก็คงจะไม่ได้รับเลือกตั้งแต่แรกเนื่องจากท่านประธานาธิบดีจะต้องคัดสรรบุคคลที่เพียบพร้อมด้วยประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ” นางเยลเลนกล่าว

จีนจวกรายงานต้นตอโควิดของสหรัฐไร้ความน่าเชื่อถือหลังอ้างไวรัสหลุดจากห้องแล็บจีน

นายหวังเหวินปินโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงว่ารายงานจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐที่ระบุว่าต้นกำเนิดของโรคโควิด-19อาจมาจากห้องแล็บจีนนั้นไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์และไร้ความน่าเชื่อถือโดยสิ้นเชิงความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังหน่วยข่าวกรองสหรัฐออกแถลงการณ์ล่าสุดเมื่อวานนี้โดยระบุว่าไวรัสSARS-CoV-2ที่ก่อเกิดโรคโควิด-19ในมนุษย์นั้นเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติหรือมิฉะนั้นก็หลุดมาจากห้องปฏิบัติการแต่ความจริงของเรื่องนี้อาจไม่มีวันรู้ได้นายหวังแถลงโต้ตอบผ่านเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของจีนเมื่อวานนี้ว่า “คำโกหกแม้จะพูดซ้ำพันครั้งก็ยังเป็นคำโกหก” พร้อมเสริมว่าหน่วยข่าวกรองของสหรัฐนั้นขึ้นชื่อเรื่องการฉ้อฉลหลอกลวง”การหาเบาะแสต้นกำเนิดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นเรื่องร้ายแรงและซับซ้อนและควรทำการค้นคว้าวิจัยผ่านความร่วมมือกันของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเท่านั้น” นายหวังกล่าวนอกจากนี้นายหวังยังย้ำถึงข้อเรียกร้องของจีนด้วยว่าสหรัฐควรเปิดให้ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเข้ามาตรวจสอบห้องปฏิบัติการของสหรัฐในฟอร์ตเดทริกอนึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นจีนได้แสดงจุดยืนยันค้านสมมติฐานที่ว่าไวรัสหลุดมาจากห้องปฏิบัติการเฉพาะทางในเมืองอู่ฮั่นมาโดยตลอดหลังโลกพบไวรัสโควิด-19เป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี2562ณเมืองดังกล่าว

สหรัฐและอียูเห็นพ้องผ่อนคลายข้อพิพาทการจัดเก็บภาษีเหล็ก

สหรัฐและสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) เห็นชอบที่จะผ่อนคลายข้อกำหนดในการจัดเก็บภาษีเหล็กซึ่งเป็นข้อกำหนดที่จัดทำขึ้นในสมัยรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐได้จัดเก็บภาษีเหล็กจากอียู25%และจัดเก็บภาษีอลูมิเนียม10%เมื่อเดือนมิถุนายน2561ด้วยเหตุผลเรื่องความมั่นคงของประเทศประธานาธิบดีโจไบเดนแห่งสหรัฐและนางเออร์ซูลาฟอนเดอร์เลเยนประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) จะประกาศรายละเอียดของข้อตกลงในการผ่อนคลายข้อพิพาทดังกล่าวในวันนี้ที่กรุงโรมประเทศอิตาลีซึ่งทั้ง2ฝ่ายได้เข้าร่วมการประชุมG20