GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 19 เม.ย.65 by YLG

575

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เน้นการเก็งกำไรจากการแกว่งตัวเข้าซื้อหากราคาทองคำยังคงยืนเหนือโซนแนวรับบริเวณ 1,972-1,966 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้จะทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบกรอบราคาด้านบนโซน 1,998-2,002 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,966 1,949 1,932  แนวต้าน : 2,002 2,021 2,039

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างๆดังนี้

(1.) แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังวิกฤติในยูเครนทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่กองทัพรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีกองกำลังยูเครนและเป้าหมายทางการทหารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ทั้งกองทัพอากาศ ขีปนาวุธ และระบบป้องกันทางอากาศเพื่อถล่มเป้าหมายหลายร้อยแห่ง นอกจากนี้รัสเซียได้เริ่มการโจมตีเมืองลวีฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในภาคตะวันตกของยูเครนและอยู่ห่างจากชายแดนโปแลนด์ประมาณ 60 กม. (40 ไมล์)ด้วยขีปนาวุธซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย7 คน

(2.) แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี สถานการณ์ดังกล่าวกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจนสร้างแรงหนุนให้ทองคำพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 1,998.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงแรง โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรและแรงขายทางเทคนิค หลังจากราคาเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป(Overbought) และเกิดสัญญาณที่บ่งชี้ว่าแรงซื้อชะลอตัวลง(RSI Bearish Divergence)

ประกอบกับนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย “อย่างแข็งกร้าว” เพื่อสกัดเงินเฟ้อ สะท้อนจากFed funds futures ที่บ่งชี้โอกาส 96% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50bps ในการประชุมเดือนพ.ค. และการคาดการณ์ดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครั้งใหม่ที่ 100.864 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี หรือสูงสุดนับตั้งแต่ธ.ค. 2018 ที่ระดับ 2.884% จนเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกของราคาทองคำ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +0.87 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างและตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค

หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,998-2,002 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทำให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคาแต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับบริเวณ 1,966-1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้น โดยยังมีโอกาสที่จะราคาทดสอบแนวต้านด้านบนโซน 2,002-2,021 ดอลลาร์ต่อออนซ์

- Advertisement -

กลยุทธ์การลงทุน

จับตาโซนแนวรับบริเวณ 1,966-1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้บริเวณแนวต้าน 1,998-2,002 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับ1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ตัดขาดทุน

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 39.54 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (18 เม.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเน็ตฟลิกซ์ และเทสลา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,411.69 จุด ลดลง 39.54 จุด หรือ -0.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,391.69 จุด ลดลง 0.90 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,332.36 จุด ลดลง 18.72 จุด หรือ -0.14%

• (+) ขีปนาวุธรัสเซียถล่มเมืองลวิฟ สังหารอย่างน้อย 7 ชีวิต เจ้าหน้าที่ในเขตปกครองลวิฟทางภาคตะวันตกของยูเครน เปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียได้โจมตีด้วยขีปนาวุธใส่เมืองลวิฟในวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยเจ็ดคน มักซิม โคซิสทกี ผู้ว่าการเขตปกครองลวิฟ กล่าวว่า ขีปนาวุธสามลูกโจมตีใส่โครงสร้างพื้นฐานทางการทหารในเมืองดังกล่าว ขณะที่อีกหนึ่งลูกทำลายร้านซ่อมยางรถยนต์แห่งหนึ่ง

• (+) น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.26 รับข่าวลิเบียระงับการผลิตสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 108 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (18 เม.ย.) หลังมีรายงานว่าบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียประกาศระงับการผลิตเนื่องจากการประท้วงของคนงาน โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาดโลก ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 1.26 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 108.21 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 1.46 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 113.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

• (+) สหรัฐติดโควิดเพิ่มขึ้นในรัฐมากกว่าครึ่ง หลัง BA.2 ระบาดนิตยสารฟอร์บส์เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 กำลังเพิ่มขึ้นในรัฐต่างๆจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของสหรัฐ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2 ซึ่งแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ระบุว่า สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 35,000 ราย/วัน เพิ่มขึ้น 42% จาก 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้

• (+)CDC เผยนิวยอร์กมีความเสี่ยงสูงสุดจากโควิด-19หนังสือพิมพ์ไทม์ ยูเนียนรายงานโดยอ้างข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ระบุว่า นิวยอร์กเป็นเพียงรัฐเดียวในสหรัฐที่มีหลายเคาน์ตีซึ่งมีความเสี่ยงสูงจากผลกระทบของโควิด-19 “ขณะนี้นิวยอร์กมีถึง 10 เคาน์ตีที่มีความเสี่ยงสูงจากโรคโควิด-19 ส่วนที่แคนซัสมีเพียงเคาน์ตีเดียวที่มีความเสี่ยงสูง ขณะที่รัฐส่วนใหญ่ในสหรัฐมีความเสี่ยงต่ำสำหรับโควิด-19” รายงานระบุ

• (+) เวิลด์แบงก์หั่นคาดการณ์เศรษฐโลกปีนี้เหลือ 3.2% เซ่นพิษสงครามรัสเซีย-ยูเครนนายเดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลก ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้สู่ระดับ 3.2% จากเดิมที่ระดับ 4.1% โดยได้รับผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน นายมัลพาสส์กล่าวว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบมากที่สุดต่อการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้คือการหดตัวถึง 4.1% ของเศรษฐกิจยุโรปและเอเชียกลาง ซึ่งประกอบด้วยยูเครน รัสเซีย และประเทศใกล้เคียง นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา โดยได้รับผลกระทบจากราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งขึ้น หลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน

• (-) ดอลล์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (18 เม.ย.) เนื่องจากเทรดเดอร์คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนต่อ ๆ ไป ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อในระดับสูง ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.28% แตะที่ 100.7810 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 126.96 เยน จากระดับ 126.39 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9444 ฟรังก์ จากระดับ 0.9429 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2616 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2606 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0787 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0812 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าแตะที่ระดับ 1.3011 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3069 ดอลลาร์

• (+/-) สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านร่วงลงเป็นเดือนที่ 4สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 2 จุด สู่ระดับ 77 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4

- Advertisement -

Comments
Loading...